Oppenheimer กวาดรางวัลไปมากสุดบนเวที Oscars 2024 ทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับอีเวนต์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์ สำหรับงานประกาศรางวัลอะคาเดมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 96 (The 96th  Academy Awards) หรือ Oscars 2024 โดยมีดาวเด่นในแวดวงภาพยนตร์เข้าร่วมงานมากมาย เพื่อรวมลุ้นรางวัลในสาขาต่าง ๆ ซึ่งปีนี้ Oppenheimer ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จาก Universal Pictures เป็นผลงานที่กวาดรางวัลไปได้มากที่สุดถึง 7 สาขา รวมไปถึงรางวัลใหญ่สุดของค่ำคืนนั่นคือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) ซึ่งถือเป็นรางวัล Oscars ตัวแรกในฐานะนักแสดงของเขาแบบไม่ผลิกโผ

บนเวทีเขาได้ถึงความสำเร็จครั้งนี้ด้วยว่า เป็นความภาคภูมิใจ เขาเองอยากขอบคุณเพื่อนร่วมงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงแสดงความชื่นชมกับนักแสดงที่เข้าชิงในสาขาเดียวกัน และเขาขออุทิศรางวัลนี้แด่ผู้สร้างสันติภาพทุกหนแห่งอย่างแท้จริง

ขณะที่รางวัลนักแสดงนำหญิงปีนี้ก็เป็นไปตามคาดสำหรับ เอ็มม่า สโตน (Emma Stone) จากบท ‘Bella Baxter’ ในภาพยนตร์เรื่อง Poor Things ครั้งนี้ถือเป็นการคว้ารางวัล Oscars เป็นครั้งที่สองของเธอ หลังจากที่หลายปีก่อนเคยคว้ามาได้จากภาพยนตร์เรื่อง La La Land โดยเธอได้กล่าวขอบคุณทีมงานเบื้องหลังทุก ๆ คน ตลอดจนเพื่อนนักแสดงที่ร่วมชิงรางวัลในสาขาดังกล่าว แถมบนเวทียังมีโมเมนต์สุดฮาเกิดขึ้นเมื่อชุดที่เธอสวมใส่ขึ้นเวทีดันเกิดซิปขาดในระหว่างที่เธอกำลังเอ็นจอยกับโชว์เพลง ‘Just Ken’

สำหรับผลรางวัล Oscars 2024 ในสาขาต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้

• รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
  Oppenheimer
• รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
  คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) – Oppenheimer
• รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม (Best Lead Actor)
  คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) – Oppenheimer
• รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม (Best Lead Actress)
  เอ็มม่า สโตน (Emma Stone) – Poor Things
• รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
  โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) – Oppenheimer
• รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
  ดาไวน์ จอย แรนดอล์ฟ (Da’Vine Joy Randolph) – The Holdovers
• รางวัลภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)
  The Boy and the Heron – ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) โทชิโอะ ซูซูกิ (Toshio Suzuki)
• รางวัลภาพยนตร์สั้นแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film)
  War Is Over! – เดฟ มัลลินส์ (Dave Mullins) และ แบรด บุ๊คเกอร์ (Brad Booker)
• รางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
  Poor Things
• รางวัลภาพยนตร์เหตุการณ์สั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short Film)
  The Wonderful Story of Henry Sugar
• รางวัลออกแบบการแต่งหน้าและผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
  Poor Things
• รางวัลดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
  Oppenheimer
• รางวัลลำดับเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound)
  The Zone of Interest
• รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
  American Fiction – คอร์ด เจฟเฟอร์สัน (Cord Jefferson)
• รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
  Anatomy of a Fall – จัสติน ทรีท (Justine Triet) และ อาร์เธอร์ ฮารารี (Arthur Harari)
• รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
  Oppenheimer
• รางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary Feature Film)
  20 Days in Mariupol
• รางวัลภาพยนตร์สารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary Short Film)
  The Last Repair Shop
• รางวัลการตัดต่อยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
  Oppenheimer
• รางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature Film)
  The Zone of Interest
• รางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม (Best Original Song)
  What Was I Made For? – Barbie
• รางวัลออกแบบการถ่ายทำยอดเยี่ยม (Best Production Design)
  Poor Things
• รางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
  Godzilla Minus One

ภาพ : Universal Pictures