
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ เมื่อ เฟิร์สวัน-วรรณกร เรืองรัตน์ ศิลปินและนักแสดง ปรากฏตัวในลุคแฟชั่นแนวเฟมินีนที่แตกต่างจากภาพจำเดิม จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนคลับบางส่วน โดยมีการตั้งคำถามและตีกรอบไปถึงบุคลิก ท่าทาง การแสดงออกของเขาว่าไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศที่เขาเคยนำเสนอมาก่อน บางส่วนบอกว่าไม่ติดกับเรื่องแฟชั่น แต่รู้สึกไม่ชอบใจกับการสื่อสารผ่านบุคคลิกจนเหมือนเป็นการล้อเลียนกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย

ขอบคุณภาพจาก : BunnyToast_
ภายหลังจากกระแสดังกล่าว เฟิร์สวัน ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่านข้อความชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาล้อเลียนหรือทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ พร้อมอธิบายว่าการเลือกลองเสื้อผ้า ลุค หรือสไตล์ใหม่ ๆ เป็นเรื่องส่วนบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ เติบโต และค้นหาตัวตนของเขาในแต่ละช่วงชีวิต
เฟิร์สวัน มองว่าการแต่งตัวไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใครคนหนึ่ง เพราะแต่ละคนมีสิทธิ์ที่จะลอง สนุก และแสดงออกในแบบที่ตัวเองรู้สึกสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดด้วยภาพจำหรือกรอบใด ๆ เขาย้ำว่าคนหนึ่งคนสามารถมีได้หลายมุม หลายลุค และหลายบุคลิก ‘พี่วรรณ’, ‘น้องแป๋ว’ หรือ ‘เจสสิก้า’ โดยทั้งหมดล้วนเป็นตัวตนเดียวกัน


“ผมเข้าใจดีว่าบางครั้งอาจทำให้หลายคนรู้สึกสงสัยหรือไม่คุ้นชินกับตัวตนของใครบางคน แต่อยากให้ลองคิดกลับกันว่าถ้าคน ๆ นั้นเขาชอบหรืออยากลอง อยากค้นหาตัวเองบ้าง แบบนี้เรากำลังใจร้ายเกินไปไหม หากตัดสินเขาไปก่อน ทั้งที่สังคมในวันนี้เองก็พยายามส่งเสริมให้ทุกคนกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ และเป็นตัวเองในแบบที่หลากหลายมากขึ้น”
โดย เฟิร์สวัน ยังยืนยันอีกด้วยว่า การทำงานภายใต้ค่ายดูมันดิ เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ศิลปินสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการบังคับด้านบุคลิกหรือการแต่งตัว พร้อมขอให้ทุกคนสบายใจในจุดนี้


“ผมหวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามสื่อ และให้คุณค่ากับการเติบโตของแต่ละคน การเลือกลองเสื้อผ้า หน้าผม หรือสไตล์ใหม่ ๆ คือส่วนหนึ่งของการค้นหาตัวตน ขอพื้นที่ให้พวกเราได้ลอง ได้สนุก และได้เรียนรู้ไปกับมัน”
ทิ้งท้ายเขาอยากให้สังคมเปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลายมากขึ้น ให้คุณค่ากับการเติบโตของแต่ละคน และเคารพการเลือกแสดงออกของผู้อื่น การลองเสื้อผ้า หน้าผม หรือสไตล์ใหม่ ๆ ไม่ได้เป็นเรื่องของการแบ่งแยก แต่คือกระบวนการเรียนรู้ตัวเอง และการยอมรับว่ามนุษย์สามารถเป็นได้หลายแบบในคนเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ‘การเป็นตัวของตัวเอง’ ไม่ควรถูกจำกัดด้วยกรอบใด ๆ และไม่ควรมีใครต้องรู้สึกกลัวที่จะเป็นในแบบที่ตัวเองเป็น


ภาพ : firstone.wnk / BunnyToast_
