Exclusive Talk with “Jeff Satur” ถึงเบื้องหลังเพลง “Dum Dum”

NEW RELEASE

Exclusive Talk with “Jeff Satur” ถึงเบื้องหลังเพลง “Dum Dum”

27 มี.ค. 2023

“เจฟ ซาเตอร์” (Jeff Satur) กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิ้ลล่าสุด "Dum Dum" เพลงที่ให้ความรู้สึกแตกต่าง บอกเล่าเรื่องราวการก้าวข้ามความเจ็บปวด ผ่านเนื้อหาอันเข้มข้น และเมโลดี้ที่ติดหูทันทีที่ได้ยิน วันนี้เราจึงได้ชวนเจฟมาพูดคุยถึงตัวตนอีกด้านที่เล่าผ่านเพลงนี้กัน

 

ช่วยเล่าคอนเสปของเพลง Dum Dum ให้ฟังหน่อย

จริง ๆ คอนเสปของเพลงนี้ มันคือความรื่นเริงท่ามกลางความเจ็บปวด ผมรู้สึกว่ามันคือเพลงที่เล่าถึง toxic relationship ที่มันควรจะจบลงได้แล้ว แต่มันยังไม่จบ จนเรารู้สึกว่าเราพอแล้ว แล้วหลังจากนี้เราก็แค่เอ็นจอยกับความเจ็บปวด ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่แล้ว”

เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

“ประมาณ 2 เดือนครับ”

เจฟทำเพลงอกหักมาตลอดเลย แต่เพลงอื่นจะมาเวย์เศร้า ทำไมเพลงนี้ถึงเลือกเล่าออกมาในเวย์ที่แตกต่าง

“มันเป็นเวย์อะไรไม่รู้ (หัวเราะ) เป็นเวย์โกรธ เพลงด่าอะไรแบบนี้ ผมก็แต่งตามฟีลผม รู้สึกอยากเล่าอะไรตอนนั้นก็แต่งมันออกมา เรารู้สึกว่าเวลาเราเจออะไรมา เราก็จะเก็บมาเล่าในเพลง แล้วก็ถ่ายทอดมันออกไป”

ได้ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวใส่เข้าไปในเพลงมั้ย

“ก็ใส่ประสบการณ์ส่วนตัวนั่นแหละครับ แต่คือจะบอกก็ไม่ได้ไง เดี๋ยวเขารู้ (หัวเราะ) ผมก็ใส่ทั้งหมดนั่นไป แล้วในทุก ๆ คำพูด มันก็ออกมาจากสิ่งที่เคยเจอมา”

ชอบท่อนไหนที่สุดในเพลง แล้วทำไมถึงชอบท่อนนี้

“จริง ๆ เพลงนี้มันก็เริ่มมาจากท่อนดึมดึมเนี่ยแหละ แล้วค่อยแต่งท่อนอื่นต่อ ผมชอบอันนั้นก่อน มองว่ามันควรจะเป็นเพลงได้ และไม่ควรจะเป็นภาษาอะไรเลย มันควรจะเป็นดึมดึมเนี่ยแหละ แล้วหลังจากนั้นก็เลยกลายเป็นทั้งเพลงขึ้นมา ถ้าให้เลือกว่าชอบท่อนไหนที่สุด ก็น่าจะเป็นท่อนนี้”

ทำไมถึงตัดสินใจใส่ดนตรีไทยอย่างพิณเข้าไปในเพลงด้วย

“อย่างที่บอกว่าเพลงนี้ต้องการความดิบมาก ๆ แล้วการที่ใส่ดนตรีพื้นบ้าน มันเหมือนเป็นการดึงรากเง้าของมนุษย์ออกมา คนไทยส่วนมากน่าจะเคยได้ยินซาวน์นี้ ก็เลยรู้สึกว่ามันเหมาะที่จะใช้เครื่องดนตรีนี้”

ช่วยเล่าเรื่องราวของ MV นี้ให้ฟังหน่อยได้มั้ย

“สตอรีของเอ็มวีมันจะเป็นเรื่องของการแก้แค้น ซึ่งการที่เราจะหลุดออกมาจากความเจ็บปวดได้มันจะมีสองชอยส์ ก็คือการที่เราให้อภัยเขาไปเลย หรือไม่เราก็แก้แค้น ซึ่งเอ็มวีจะเล่าถึงสองเรื่องนี้ แต่ว่ามันจะจบยังไง อยากให้ทุกคนไปดูแล้วก็ติดตามกัน”

เราเห็นใน MV ตัวละครเจฟมีหลายตัวเลย แต่ละตัวนี่สื่อถึงอะไร

“แต่ละตัวจะสื่อถึงสิ่งที่ไม่เหมือนกัน ผมจะบอกยังไงดี ถ้าบอกไปมันก็จะสปอยล์เหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่ว่าชื่อมันจะบอกแทนประมาณนึง อย่าง SUNSHINE ก็คือแสงอาทิตย์ MOONSHINE ก็คือแสงจันทร์ แล้ว LOVE DIE ก็เป็นเหมือนความรักที่มันตายไปแล้ว ผมจะเล่าตัว LOVE DIE ละกัน มันก็จะเหมือนคนที่โดนกระทำมา จนรู้สึกว่าความรักมันสิ้นสุดลงแล้ว SUNSHINE ก็เหมือนเป็นอีกมุมนึงที่มีแต่ความสุดโต่ง ไปสุดในทุกทาง ส่วน MOONSHINE ก็เป็นอีกด้านนึงของ SUNSHINE เหมือนเป็นร่างอวตารของ SUNSHINE ซึ่งก็จะ represent อีกแบบนึง แต่ผมก็อยากให้ตีความกันเองมากกว่า เพราะว่ามันตีความได้ค่อนข้างหลากหลายมาก ๆ”

แล้วรอยสัก SUNSHINE MOONSHINE LOVE DIE ก็คือได้แรงบันดาลใจมากจากตัวละครใน MV หรือเปล่า

“เปล่าครับ จริง ๆ คือเขียนคำมาก่อน แล้วค่อยได้ตัวละครมา”

เจฟชอบซีนไหนที่สุดใน MV

“ชอบซีนสุดท้ายที่สุดเลย ที่เป็นซีนที่ขำกับกล้อง ถ้าเคยฟังเพลง Comedy มันจะมีท่อนที่บอกว่า รู้สึกว่าชีวิตมันคือเรื่องตลก ซีนนี้มันก็เหมือนกับการพูดคำนั้น แต่ว่าใช้เป็นแอคชันแทน”

แล้วรู้สึกว่าซีนไหนยาก หรือว่าท้าทายเรามากที่สุด

“ซีนบู๊ครับ เพราะว่าไม่มีเวลาซ้อม มันมีแค่ไปนั่งหน้าเซต แล้วก็จำคิว แล้วก็ต้องถ่ายเลย ซึ่งมันค่อนข้างจะเป็น long take เหมือนกัน มันก็เลยเป็นซีนที่ยากสุด ต้องจำให้เร็วที่สุด ในเวลาที่จำกัดมาก ๆ”

เพิ่งจะมีคอนเสิร์ตแรกของตัวเองไปด้วย รู้สึกยังไงบ้าง

“สนุกมาก แล้วก็ดีเท่าที่มันจะดีได้ในโมเมนต์นั้น ผมมีความสุขมากในทุก ๆ โชว์ แล้วก็รู้สึกว่าครั้งหน้าก็อยากจะทำให้มันเจ๋งกว่านี้”

แสดงว่าจะมีครั้งหน้าใช่มั้ย

“ก็คิดว่าอยากจะมีอีกครั้งนึงนะครับ”

เราจะได้เห็นอัลบั้มเต็มจากเจฟช่วงไหน

“น่าจะปลายปีนี้ ไม่ก็ต้นปีหน้าครับ พยายามอยู่ครับ”

แล้วเราจะได้เห็นเพลงรักที่สมหวังจากเจฟบ้างมั้ย

“ก็คงมีแหละ เดี๋ยวผมไปขุดเรื่องมาเล่าแล้วกัน (หัวเราะ)”

อยากบอกอะไรถึงคุณวันเสาร์มั้ย

“ขอให้ทุกคนมีความสุขเหมือนเดิม ขอให้มีวันที่ดี แล้วก็ขอบคุณที่ซัพพอร์ตมาโดยตลอด ไม่ว่าเพลงผมจะแปลกแค่ไหนก็ตาม เพราะผมทำออกมาก็ไม่เหมือนกันสักเพลง ขอบคุณที่ยังฟัง แล้วก็ตั้งใจฟังมากด้วยนะ มีการตีความกันด้วย ขอบคุณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอบคุณมากครับ”

ให้เจฟฝากผลงานหน่อย ทั้งเพลงนี้ และผลงานในอนาคต

“ก็ขอฝากดึมดึมด้วยนะครับ ฟังได้ในสตรีมมิงแล้วก็ YouTube นะครับผม แล้วในอนาคตก็จะมีเพลงที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน แต่เชื่อว่าทุกคนน่าจะตื่นเต้นกับมันเหมือนที่ผมตื่นเต้น ส่วนงานแสดงก็จะมี Wuju Bakery ซึ่งเดี๋ยวจะไปถ่ายกันในเร็ว ๆ นี้ ที่ประเทศเกาหลี ก็จะหายไปหนึ่งเดือน ผมเชื่อว่ามันจะมีอะไรให้ตื่นเต้นเรื่อย ๆ แต่ผมยังบอกไม่ได้ไง แต่ก็อยากให้รอติดตามกันครับ”

related NEW RELEASE

Talk with Ice Paris ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ "มีแค่เธอก็พอ” (365Days)

19 ก.พ. 2024

Talk with Ice Paris ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ "มีแค่เธอก็พอ” (365Days)

Ice Paris (ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต) กลับมาพร้อมซิงเกิลล่าสุด “มีแค่เธอก็พอ” (365Days) ซิงเกิลน่ารัก ๆ ที่มาพร้อมท่าเต้นสนุก ๆ ซึ่งถือเป็นซิงเกิลที่ 2 ภายใต้ Ice Paris Entertainment วันนี้เราจึงได้ชวนไอซ์มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้กันเพลง “มีแค่เธอก็พอ” เริ่มต้นมาจากอะไร“จริง ๆ ซิงเกิลนี้เป็นซิงเกิลแรกที่แต่งใน EP ครับ จริง ๆ กำลังทำ EP อยู่ ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 เพลงเนอะ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เราแต่งไว้ก่อนหน้าทุก ๆ เพลงเลย ก่อนงอนตลอด ก่อนเพลงอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมา แต่ว่าพอเราเอามานั่งไล่ฟังทุกเพลงแล้วเรารู้สึกว่า เพลงงอนตลอดน่าจะทำมาปล่อยก่อน เป็นตัวเปิดที่ดีกว่า แล้วก็เป็นเพลงนี้เพลงที่สอง เพลงนี้ก็เลยจะพูดถึงความรักที่เรารู้สึกว่า เราอยากจะขอบคุณทุก ๆ อย่างบนโลกนี้ หรือขอบคุณอะไรก็ตาม ขอบคุณดวง ขอบคุณยูนิเวิร์สนี้ อะไรก็ตามที่ส่งคนคนนี้มาให้กับเรา”งั้น “เธอ” จากเพลง “มีแค่เธอก็พอ” ในความหมายของไอซ์คืออะไร“มันเป็นได้หลายอย่างเลย เพราะตอนเริ่มต้นไอเดียนี้ มันคือเริ่มมาจากคำคำเดียวของภาษาอังกฤษที่ไอซ์รู้สึกว่า ไอซ์มีคำถามกับสิ่งนี้มานานมากแล้ว ว่าทำไมคำคำนี้มันไม่มีในภาษาไทย คือคำว่า grateful หรือ appreciation มันไม่มีคำแปลตรงตัวในภาษาไทย ถ้าเกิดจะให้แปลเป็นภาษาไทย มันคือการเห็นคุณค่า หรือการขอบคุณในคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ อะไรแบบเนี้ย ซึ่งมันไม่ได้มีคำคำนั้นตรงตัว มันอาจจะต้องแปลมาเป็นประโยค เราก็รู้สึกว่าทำไมมันถึงไม่มีสิ่งนี้ ก็เลยอยากจะถ่ายทอดมันออกมาในเพลง พอมันมาเป็นคำว่า เธอ เนี่ย มันเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแฟน ครอบครัว คนที่เรารัก หรือว่าจะเป็นแฟนคลับเองก็ตาม ทำไมทำมาแล้วรู้สึกว่ามันสามารถมอบให้กับทุกคนได้จริง ๆ ทุกคนที่เรารักก็คือคนที่เราอยากจะขอบคุณจริง ๆ ไอซ์รู้สึกว่าคำคำนี้มันเป็นคำที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขง่ายมากในชีวิต แค่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่”ทำไมถึงเลือก Feat. SMEW ร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง“เราทำงานด้วยกันอยู่แล้ว ตั้งแต่งอนตลอด จริง ๆ ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นอีก ตั้งแต่ 789 จนมางอนตลอด แล้วก็รู้สึกว่าน้องเป็นคนที่เก่งมากอยู่แล้ว เราก็อยากร่วมงานกับน้องไปเรื่อย ๆ จนมารอบนี้ จริง ๆ ตอนแรก SMEW ไม่ได้เข้ามาแต่งด้วย คือผมแต่งกับพี่ ๆ กันเอง จนสุดท้ายมันมีท่อนนึงที่มันก็น่าแร็ปดีนะ ก็เลยคิดว่าอยากเอาให้ SMEW มาแต่งด้วย แล้วก็ช่วยแก้คำนู้นคำนี้ใน verse ต่าง ๆ แล้วพอทำไปทำมา ฟังเสียง SMEW คู่กับผม แล้วรู้สึกว่ามันก็ดีเหมือนกันนะ ก็เลยแบบ อะ SMEW ฟีทด้วยกันไปเลย ไม่ต้องมาแค่แต่ง เพราะรู้สึกว่าชอบผลงาน SMEW มาตั้งแต่แรกแล้ว อยากให้คนรู้จัก SMEW เยอะกว่านี้ อยากให้คนไทยได้เห็นเด็กเก่ง ๆ ก็เลยจับ SMEW ฟีทเลยครับ”มาที่พาร์ท MV มาในคอนเสปอะไร“เป็นมิวสิเคิลครับ เรื่องราวง่าย ๆ ก็คือ หนึ่งวันในการไปออกเดท ถ้าเกิดทุกคนได้ดู MV ก็คือตื่นมาแล้วเป็นวันที่จะไปออกเดท ทุกอย่างมันเมจิเคิลไปหมดเลย มีความสุขไปหมดเลย มีการเปิดฉาก เดินจนได้มาเจอนางเอก นางเอกก็จะมีความเขินนิดนึง แบบเพิ่งได้มาออกเดท แล้วพอรีเล็กซ์ขึ้นนิดนึงแล้วก็เต้นด้วยกัน หลังจากนั้นก็เอ็นจอยกันไปยาว ๆ ก็เป็นมู้ดนั้น ซึ่งเราทำเป็นมิวสิเคิล เพราะรู้สึกว่ามันเหมาะกับเพลงนี้ด้วย ด้วยความที่เรามีเสียงหมู่มวลอยู่แล้ว แล้วก็บวกกับว่าช่วงนี้อิน ตั้งแต่เล่นแฟนฉันเดอะมิวสิเคิลมา ดูหนังมิวสิเคิลเยอะขึ้นมาก จริง ๆ ก็ดูอยู่แล้ว แต่ช่วงหลัง ๆ มีหนังมิวสิเคิลมาอยู่บ้าง อย่างล่าสุดเลยก็ Wonka เราดูแล้วก็อินเข้าไปกว่าเดิม เราก็เลยรู้สึกว่าสักครั้งในชีวิต อยากทำมิวสิเคิลที่แดนเซอร์เยอะ ๆ ฟีลเหมือนแบบ Enchanted หนังดิสนีย์ที่คนเต้นเยอะ ๆ แบบมีความสุขสุด ๆ ก็เลยจัดเลยครับ”ทีมที่ทำก็คือโปรดักชันเฮาส์ของไอซ์เองด้วย“ใช่ครับ MAXMOTIVE”ความรู้สึกมันต่างมั้ย ระหว่างเราทำเอง กับคนอื่นทำ MV ให้“ต่างมาก เพราะเวลาเราทำเอง เราก็เหมือนต้องลงไปในทุก ๆ ดีเทลของมันเอง ก็เหนื่อยอีกแบบ แต่ก็สนุกอีกแบบเหมือนกัน ความสนุกมันคือเราได้คิดและเห็นมันออกมาในชีวิตจริง ไอเดียเราเล็ก ๆ น้อย ๆ มันสามารถโผล่มาเป็นความจริงได้ แต่ว่ามันก็จะมีข้อเสีย ตรงที่มันก็จะเหนื่อยกว่าปกติหน่อย มันต้องคิดเยอะ ต้องคิดทุกอย่าง เวลาทีมงานมีคำถามอะไรก็ต้องคิดแล้วก็ตอบ ต้องแอปปรู๊ฟ ต้องทำทุกอย่าง เหนื่อยขึ้นนิดนึง แต่ก็สนุกขึ้นด้วย”ร่วมงานกับ Pimma PiXXiE เป็นยังไงบ้าง“ดีมากฮะ รู้สึกว่าโชคดีมากที่เลือกพิมมา จริง ๆ ตอนนี้ PiXXiE ก็งานเยอะ ก็ไม่ได้มีคิวซ้อมเลย ตอนซ้อมได้ซ้อมกับพิมมาแค่รอบเดียว เป็นการซ้อมยาว ๆ รอบเดียวเท่านั้น แต่ว่าพิมมาก็คือตั้งใจมาก ต่อท่า เอาให้ได้ เห็นถึงความตั้งใจ เราก็ดีใจ แล้วพอไปออกกอง พิมมาก็ชอบพูดว่า พี่ หนูสะใจมากเลยอะ พอนางเห็นแดนเซอร์กับ extra เยอะ ๆ พูดทั้งวันเลยว่าหนูสะใจมากเลย พอเราได้ยินเราก็แฮปปี้ ที่นางเอก MV เราก็อินด้วย”เป็นการทำงานกับพิมมาครั้งแรกด้วยมั้ย“ครั้งแรกครับ”พอทำงานด้วยกันจริง ๆ น้องต่างที่เราคิดไว้มั้ย มีมุมไหนที่เพิ่งมาเห็นตอนร่วมงานกันมั้ย“พิมมาเหรอ มีจังหวะกวน ๆ หลายจังหวะที่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อปากต่อคำได้ หรือว่าอีกอย่างนึง คือเป็นคนที่ชอบพูดว่าตัวเองกินเยอะ แต่อยู่ในกองไม่กินอะไรเลย ผมงงมาก ข้าวกล่องกินไปได้หนึ่งคำครึ่งอะ ผมว่าอันนี้คือมากสุดแล้ว มันยังเหลือแบบเต็ม ๆ เลย แต่พิมมาบอกกินไปแล้ว ไม่เอาแล้ว ผมบอกไม่จริงอะ ยูยังไม่กินอะไรเลย แต่ว่านางก็มาเถียงนะว่าวันนั้นใส่เอวลอย เดี๋ยวกลัวพุงออก ผมก็บอก จริงเหรอ เหมือนยูจะไม่กินอะไรเลยวัน ๆ”มีเรื่องสนุก ๆ อะไรในกอง หรือเรื่องเซอร์ไพรส์เหมือนสีเสื้อมงคลแบบ MV ที่แล้วมั้ย“MV นี้ไม่ได้มีเสื้อสีมงคล มีเซอร์ไพรส์อะไรในกองมั้ยเหรอ ไม่มีนะฮะ คือรู้สึกว่า MV นี้ ด้วยความเป็นมิวสิเคิลวันเทคอะ เราซ้อมกันหนักเหมือนกัน มันเป็น MV ที่เราเตรียมตัวเยอะกว่า MV อื่นมาก ตากล้องผู้กำกับก็คือแทบจะมาซ้อมเต้นกับไอซ์ไปด้วยทุก ๆ ครั้งเลย เราซ้อมหลายรอบมาก เหมือนมันไม่ใช่แค่ซ้อมเต้นแล้ว มันคือซ้อมเต้นกับกล้องไปด้วย คือการเตรียมงานอะยาก เตรียมงานนานกว่าปกติ แล้วก็ยากกว่าปกติ แต่ว่าพอไปถึงหน้ากองไม่ค่อยมีอะไรฮะ เพราะว่าด้วยความที่ทุกคนรู้ว่าเราเวลาน้อยมาก เราถ่ายได้แค่แสงกลางวัน ประมาณ 7 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ก็คือแสงหมดแล้ว เราต้องถ่ายให้ทัน เพราะปกติมันไม่มี MV ไหน ที่เขาถ่ายกันเสร็จ 6 โมงเย็น มันเป็นไปได้ อันนี้ก็คือต้องรีบ”คิดว่าซีนไหนยากที่สุด หรือใช้เวลาเยอะที่สุด“โห พูดยากมากเลยอะ”งั้นไอซ์ชอบซีนไหนที่สุดใน MV“นี่ก็ยากเหมือนกัน จริง ๆ นะ พอเรามานั่งคิด ซีนตรงตู้โทรศัพท์ก็ยาก แล้วเราก็ชอบมาก คือมันยาก แล้วพอเราทำออกมาได้ เราก็ภูมิใจ ตรงซีนที่เต้นหลาย ๆ คนตรงบ่อน้ำก็ยาก นานด้วย เพราะต้องให้ทุกคนไปยืน ปรับบล็อกกิ้งทีละนิด ๆ ให้สวย กว่าจะเริ่มเต้นได้ ถ้าไม่ตรงก็ต้องเริ่มใหม่ ซีนสุดท้ายก็นานก็ยาก กว่าจะขึ้นเปียโนแล้วให้ทุกคนเต้นพร้อม ๆ กัน ก็เลยตอบไม่ได้เลยฮะ ชอบหมดเลย”คาดหวังอะไรจากซิงเกิลนี้บ้าง เอากี่ล้านวิวดี“โอ้ย ผมคาดหวังแบบ ร้อยล้านทุก ๆ ซิงเกิล แต่ว่าด้วยความเป็นจริงแล้ว ก็ให้ได้มากที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ ผมก็จะเต็มที่ในการโปรโมท จนกว่ามันจะสุด ๆ แล้ว”MV ที่แล้ว ครบล้านวิวเลี้ยงหมูกระทะแฟนคลับ MV นี้จะมีมั้ย“เอาอะไรดีอะ”โต๊ะจีนมั้ย“โต๊ะจีนเหรอ ชีวิตนี้ผมไม่ค่อยได้กินโต๊ะจีนเลย”หม่าล่ามั้ย สุกี้หม่าล่า“หม่าล่าเหรอ ผมจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ครั้งที่แล้วดิจิตอลฟุตปริ้นมาก ไอซ์รู้สึกว่าไอซ์แบบ พูดเล่น ๆ กับคนกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยอะ แล้วอยู่ดี ๆ ทุกคนรู้ แล้วทุกคนก็เอามาเป็นหลักฐาน โอเค มันเป็นดิจิตอลฟุตปริ้น ดังนั้นเราจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพราะเราไม่รู้ว่าเราทำได้แค่ไหน”เราได้มองภาพตัวเองในวงการเพลงมั้ย ว่าจุดสูงสุงของความฝันเราในเส้นทางนี้ มันเป็นยังไง“คือ ณ ตอนนี้ ก็ยังมีความฝันเดิม ว่าเราอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง ก็ยังเป็นความฝันนั้นอยู่ ซึ่งคอนเสิร์ตตัวเองมันก็มีหลายปัจจัยเนอะ คอนเสิร์ตเราก็ต้องมีเพลงให้พอก่อนแล้วหนึ่ง เพลงมันก็ต้องมีคนรู้จักพอสมควร ในการที่คนเขาจะซื้อบัตรมาให้เต็ม มันก็เลยมีหลายสเต็ปกว่าที่เราจะไปถึงจุด ๆ นั้นได้ ก็เลยกำลังปั้นอยู่ฮะ”เราจะได้เห็น EP ภายในปีนี้มั้ย“ครบทุกเพลงปีนี้แน่นอนครับ”ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้มีอะไรให้ติดตามกันบ้าง“ก็ฝากเพลงก่อนเลยครับ มีแค่เธอก็พอ (365Days) ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปฟังกันเยอะ ๆ ขอร้องเลย อยากให้ทุกคนเข้าไปฟังกันในสตรีมมิง เข้าไปดู MV กันเยอะ ๆ แบบพลีส ไปดู MV กัน เพราะเรารู้สึกว่าเราตั้งใจทำมาก ๆ ก็เข้าไปดูที่ YouTube Chanel Ice Paris Entertainment เนอะ แล้วก็อยากจะฝากละครไว้ด้วยฮะ เขาบอกว่ากลางปีนี้แหละ โลกหมุนรอบเธอ ใกล้และ มีพี่โบว์เมลดากับพี่เจมส์จิ อันนั้นก็เมามันเหมือนกัน แต่ไม่อยากสปอยล์อะไรเยอะ อยากให้ทุกคนรอติดตาม เขาบอกว่าปีนี้ อัปเดตล่าสุดนะ แล้วก็ฝากอีกบริษัทของไอซ์นะครับ MAXMOTIVE ถ้าเกิดใครอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง โฆษณา MV ซีรีส์ หนัง ได้หมดเลย สามารถมาติดต่อกันได้ ถ้าเกิดอยากดูพอร์ทเราก็ดูในไอจีได้ หรือดูใน MV ของคนในวงการ T-Pop ทั้งหลายเหล่านี้ ช่วงนี้เราก็ทำกันเยอะ ฝากด้วยครับ”

ชวนใส่ใจกับ “bamm” เจ้าของผลงานเพลงสุดน่ารัก “ชอบใส่ใจ”

30 มี.ค. 2023

ชวนใส่ใจกับ “bamm” เจ้าของผลงานเพลงสุดน่ารัก “ชอบใส่ใจ”

"bamm" ศิลปิน Co-ed Group จากค่าย LIT Entertainment กลับมาอีกครั้ง กับผลงานใหม่ล่าสุด เอาใจคนแอบชอบ อย่าง "ชอบใส่ใจ" เพลงจังหวะสนุก ๆ ที่มาพร้อมท่าเต้นสุดน่ารัก วันนี้เราเลยขอชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ "bamm" ให้มาขึ้น พูดคุยถึงความใส่ใจในสไตล์ของ "มาง-อาร์ตี้-เปา" กันอยากให้เล่าคอนเสปของเพลง “ชอบใส่ใจ” ให้เราฟังหน่อยเปา – “คอนเสปเพลงนี้จะสดใสมากขึ้นจากเพลงเก่า ๆ จะค่อนข้างอินเลิฟ เป็นการที่เราชอบใครสักคนนึง แล้วก็อยากจะใส่ใจในทุก ๆ ด้าน เราจะได้ให้เขาถูกอย่างที่เขาต้องการ เช่น เขาชอบผู้ชายอบอุ่น เราก็เอาผ้าห่มมาคลุมตัวเอง ร้อนได้เพื่อเธอ อะไรประมาณนั้น”แต่ละคนชอบท่อนไหนที่สุดในเพลงมาง – “อันนี้ไม่เรียกว่าเผือก เค้าเรียกว่าชอบใส่ใจ”เปา – “ชอบท่อน เย่”มาง – “มีเหรอ”เปา – “มีครับ ๆ เป็นไฮป์”มาง – “พูดจริงปะเนี่ย”เปา – “พูดจริงครับ พูดจริง”อาร์ตี้ – “ชอบท่อนฮุคละกัน”คำคมที่ใช้ในเพลงนี้ใครเป็นคิดbamm – “ช่วยกันหมดเลย”เปา – “เหมือนจริง ๆ แล้ว ซิกเนเจอร์อีกอย่างนึงของ bamm คือท่อนที่มันเป็นแบรคดาวน์ลงไป มันจะมีแอดลิป หรือมีดนตรี มีจังหวะ มีไฮป์ แต่เพลงนี้คือเรารู้สึกว่ามันเป็น special single เลยอยากทำอะไรที่มันแตกต่างจากเดิม ก็เลยมาสุมหัวกัน เลยได้เป็นคำคมขึ้นมาครับ”ที่บอกว่า “คนไทยต้องใส่จาน ส่วนคนทานต้องใส่ใจ” อันนี้ตกลงทำไมคนไทยต้องใส่จานเปา – “อันนี้คือจริง ๆ ผมขอร้องพี่โดมแล้วนะ พี่โดม ผมขอร้อง เปลี่ยนคำได้มั้ย แต่พี่โดมบอก พี่ชอบอันนี้ เอาเลย มันไม่รู้เรื่องดี”แต่ละคนเป็นสายชอบใส่ใจคนอื่น หรือชอบให้คนอื่นมาใส่ใจอาร์ตี้ – “ผมชอบใส่ใจเขามากกว่าครับ ผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผม”มาง – “เอ้า สันโดษซะละ สำหรับหนูจริง ๆ ชอบทั้งสองอย่าง ทั้งใส่ใจคนอื่น แล้วก็ชอบให้คนอื่นมาใส่ใจด้วย”เปา – “ของผมก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นอยากจะกินพวกแร่ธาตุเยอะ ๆ หรือเปล่า เวลาเรากินต้มเลือดหมู มันก็ใส่หมู ใส่เลือด ใส่ใจ”มาง – “ไปเวย์ก๋วยจั๊บต้มเลือดหมูเหรอ”เปา – “จริง ๆ ผมชอบทั้งสองอย่างครับ ผมรู้สึกว่ามันก็จะมีหลายช่วงเวลา ในช่วงที่เรารู้สึกว่าเราเอเนอร์จี้มากพอ เราพร้อมที่จะให้คนอื่นได้ เราก็อยากให้มากกว่า แต่ถ้าช่วงไหนที่เราอ่อนแอมาก ๆ เราก็ต้องการได้รับจากคนอื่นเช่นกัน มันอยู่ที่ช่วงเวลาครับ”ในวง bamm ใครเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากที่สุดเปา – “ไม่มีครับ พวกเราใส่ใจตัวเองกัน อันนี้คือเรื่องจริงครับ”มาง – “ไม่ จริง ๆ ก็แบบ มีเป็นห่วงเป็นใยกัน”เปา – “ไม่มีนะครับ”มาง – “แต่ว่าก็จะดูแลตัวเองด้วยมากกว่า ซะส่วนใหญ่”เปา – “อันนี้เราต้องตอบกันตามความเป็นจริงเลยเหรอ”มาง – “ก็ตอบตามความเป็นจริง ก็คือหมายถึงว่า ใส่ใจกันบ้างในบางโอกาส”อาร์ตี้ – “ปีละครั้ง ตามวันหยุดนักขัตฤกษ์”เปา – “วางโควต้าไว้เป็นปีละครั้ง นัดมาใส่ใจกันซะหน่อย”แล้วช่วงนี้แต่ละคนใส่ใจกับเรื่องอะไรมากที่สุดอาร์ตี้ – “การนอน อยากใส่ใจเรื่องนอน แต่ว่าก็ยังทำไม่ได้”เปา – “ของผมเป็นเรื่องของการออกกำลังกาย ช่วงนี้เห็นข่าวคือสภาพแวดล้อมหลาย ๆ อย่างแย่ ก็เลยรู้สึกว่าเราต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น”มาง – “สำหรับหนูคือการกิน ช่วงนี้กำลังเอ็นจอยการกิน”อยากบอกอะไรแฟนคลับมั้ยมาง – “ขอบคุณ bammboo แล้วก็ขอบคุณแฟนคลับ T-pop ทุกวงเลย ที่ช่วยกันสนับสนุนทั้งพวกเรา แล้วก็วงอื่น ๆ ในวงการ T-pop ช่วยให้พวกเราได้ออกมาเจอกับทุก ๆ คน ได้ทำผลงานใหม่ ๆ ออกมา การที่มีทุกคนรอฟังมันทำให้รู้สึกดีมาก ๆ เป็นแรงใจ เป็นกำลังใจให้พวกเราในการทำผลงานดี ๆ ออกมาให้พวกเขาฟัง”เปา – “ผมเห็นด้วยกับเขาครับ แล้วก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณทุกอย่างเลยครับ ทั้งแฟนคลับ ทั้งศิลปิน ทั้งผู้ใหญ่ในวงการ ที่ทำให้การเดินทางของเรามันเดินมาถึงตรงนี้แล้ว ได้มีเพลง มีอัลบั้มเป็นของตัวเอง รวมไปถึง special single ล่าสุด แล้วก็หวังว่าทุกคนจะชอบเพลงนี้ เพราะว่าเพลงนี้ก็เป็นอีกบรรยากาศนึงที่เราได้ทำงาน แล้วก็ตั้งใจทำมาก ๆ อยากลองทำแบบใส่คำคมก็ได้ใส่ลงไป ก็หวังว่าทุกคนจะชอบครับ”อาร์ตี้ – “ก็รักนะครับ bammboo”เปา – “เขามาแนวโอปป้าเกาหลีอีกแล้ว”มาง – “วันนี้เขามาดี เขามาแนวนี้”สุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ชอบใส่ใจ จะชอบใส่อะไรแทนดีอาร์ตี้ – “ใส่จาน”มาง – “ใส่เดี่ยวละกันค่ะ เสื้อใส่เดี่ยว(สายเดี่ยว)”เปา – “ใส่ไข่ละกันครับ ช่วงนี้ต้องเน้นโปรตีนเป็นหลัก อย่างที่บอกไปว่ากำลังออกกำลังกาย ขอพิเศษใส่ไข่”ฟังเพลงจังหวะสนุก ๆ “ชอบใส่ใจ” (Just Curious) จาก bamm ได้แล้ววันนี้ ทาง YouTube LIT Entertainment และสตรีมมิ่งทุกแพลทฟอร์ม

คุยกับ Tattoo Colour กับคอนเสิร์ตใหญ่ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest"

29 พ.ย. 2023

คุยกับ Tattoo Colour กับคอนเสิร์ตใหญ่ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest"

มาพูดคุยกับ 4 หนุ่ม "Tattoo Colour" พี่รัฐ พี่ดิม พี่ตง และพี่จั้ม ถึงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 5 ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest" ที่เล่าบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ต่างใจจดใจจ่อรอชมความมันส์ของพวกเขา มาดูกันกว่าว่าพวกพี่ ๆ จะเตรียมตัวพร้อมโชว์ให้แฟน ๆ ได้ชมกันหรือยังความรู้สึกเมื่อรู้ว่าวงเรากำลังจะมีคอนเสิร์ต กาลครั้ง 5 tattoo อีกครั้งพี่ดิม : จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่มีคอนเสิร์ตกาลครั้ง 1 เราทำกันมาตลอด จนมาถึงกาลครั้ง 5 เราก็มานั่งทำการบ้าน ว่าเราจะทำให้ครั้งที่ 5 เนี่ย มันยิ่งใหญ่ได้ยังไง ถ้าใหญ่กว่า Music ทั่วไป ก็เป็น Music Festival ดีกว่าไหมก็เลยเป็น กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้มาดู อยากให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่ของมัน ว่าเราทุ่มเทกันมากแค่ไหนนะครับก็ไม่อยากให้พลาดนะครับรู้สึกยังไงบ้าง ที่วงเราอยู่มาอย่างยาวนานแล้ว แต่ก็ยังมีแฟนคลับคอยติดตาม และรอคอนเสิร์ตของวงเราอยู่ตลอดพี่รัฐ : จริงจริงเราดีใจมากนะ แล้วเราก็คิดอยู่เสมอแหละว่ามันเป็นวงไม่กี่วง ที่มีอายุวงได้นานขนาดนี้แล้วก็มีแฟนเพลงอยู่ตลอดเนี่ยครับ ก็ต้องบอกว่าดีใจมากและขอบคุณมากที่แบบให้เกียรติพวกเรายังแบบคอยติดตามมาตลอด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แบบเป็นความขอพูดแทนเพื่อน ๆ ก็คือเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ เหมือนกันที่เราทําได้ตามที่เราตั้งไว้ อย่างเมื่อก่อนตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เคยมีสื่อมาถาม ว่าความคาดหวังของวง Tattoo Colour อยากให้ไปทางไหน เราบอกสื่อว่า อยากให้ Tattoo Colourเลี้ยงตัวเองได้เป็นอาชีพจริง ๆ ให้มันอยู่ได้ยาว ๆ ซึ่งเราก็พยายามทําให้ได้ตลอด แล้วก็ถ้าถามว่าต่อไปเราจะเป็นยังไง เราก็จะตอบว่า เราก็จะเป็นอย่างนี้แหละ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ยุคสมัยหรือตามไอเดียใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แต่เราก็ยังอยากให้วงไปต่อได้เรื่อย ๆ ครับความพร้อมของคอนเสิร์ตตอนนี้กี่เปอร์เซ็นพี่ดิม : ก็พร้อมมาแล้วก็ประมาณ 20% ในการที่ดูเรื่องแบบเวที คือตกตะกอนกันหมดแล้วเหลือจะวิธีทํามันแค่นั้นแหละครับพี่รัฐ : ก็คือว่าในรายละเอียดของคอนเสิร์ตเรามีหลายส่วนนะครับ ส่วนความเป็นนักดนตรีก็ต้องซ้อมเลือกเพลงหรือว่ามีการเรียบเรียงเพลงอีกอย่างนึงฝั่ง ส่วนฝั่งของผู้จัดฝั่งอื่น เช่น เวทีก็ต้องเตรียมเวที ฝั่งไฟก็เตรียมไฟอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยครับ ส่วนเรื่องการขายบัตรได้มากมาย ก็ตอนเนี่ยถ้ามองเป็นตารางเนี่ย เราพร้อมขึ้นตามลําดับเลย ไม่มีตรงไหนพลาดแล้ว พอถึงวันจริงทุกคนน่าจะพร้อมถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุดในวันงานเลยครับเห็น Feedback ของคอนเสิร์ตที่ผ่านมา ได้รับ Feedback ดีมากเลย ทั้งเรื่องโชว์และการเอ็นเตอร์เทรน อยากรู้เคล็ดลับก่อนขึ้นคอนเสิร์ตของพี่ๆทุกคน ว่ามีเคล็ดลับอะไรไหมพี่ดิม : เคล็ดลับของเราก็คงจะเป็นการยืดเส้นยืดสาย แล้วก็คงจะเป็นการเรียบเรียงดนตรีที่แบบว่าตรงเนี้ยท่อนเนี่ยเราจะดรอปลงมาให้คนย่อเพื่อจะกระโดดลงไปยังไง หรือการเรียบเรียงท่อนที่เราอยากให้คนปรบมือยังไง ก็คือเราจะเตรียมตั้งแต่การเรียบเรียงนะครับ แล้วก็ความสนุกสนานของเราก็อยู่ที่หน้างานด้วยว่าหน้างานมีมุกมีอะไรตอนไหนให้แซวไหมสปอยคอนเซปของคอนเสริต์ครั้งนี้หน่อยว่า แฟนๆที่ไปดู จะได้เห็นอะไรบ้าง หรือมีอะไรเซอร์ไพรส์แฟน ๆ บ้างพี่ตง : ด้วยความที่เป็น Festival นะครับเพราะฉะนั้นเรามีหลายเวทีมาก แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าคุณจะนั่งอยู่ตรงไหนก็ตามคุณจะได้สัมผัสเราใกล้ ๆ เลยพี่ดิม : อยู่บนดอยก็อาจจะมีเวทีก็ได้นะ (555)พี่ตง : แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือว่า พวก Lighting หรือว่าเวทีต่าง ๆ คุณจะไม่ได้สัมผัสมันแค่นี้ แต่คุณจะได้สัมผัสมันทั้งหมดนะครับอยากบอกอะไรกับแฟนคลับของวงเรา แล้วก็ให้พี่ๆ เชิญชวนทุกคนไปคอนเสิร์ตพี่จั๊ม : กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest นะครับ 3 กุมภาพันธ์ ที่อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี จองบัตรได้วันที่ 2 ธันวาคมที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์นะครับ เริ่มกดบัตรได้ตอนเที่ยงนะครับก็เตรียมตัวกดบัตรกันดี ๆ นะครับพี่ดิม : อีก 3 วันนะครับทุกคน

คุยกับ “No One Else” ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด “เธอคือกาแฟในตอนเช้า”

03 ส.ค. 2023

คุยกับ “No One Else” ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด “เธอคือกาแฟในตอนเช้า”

สมฉายาเจ้าพ่อเพลงงานแต่ง สำหรับ “No One Else” ที่ล่าสุดเพิ่งปล่อยซิงเกิลหวาน ๆ "เธอคือกาแฟในตอนเช้า" เล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่พัฒนาจากคู่รักมาเป็นคู่ชีวิต พร้อมมิวสิควิดีโอสวย ๆ ซึ่งได้นับเงินและเรียวจิ มาถ่ายทอดเรื่องราวต่อจากเพลง แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน วันนี้เราจึงได้ชวน ใหม่-กิติวัฒน์ แสงประทีป, กุ๊ก-จิตติพล ถาวรกิจ และแนตตี้-จิรุตถ์ ตันติวรอังกูร มาพูดคุยถึงเบื้องหลังซิงเกิลเพราะ ๆ ซิงเกิลนี้กันช่วยเล่าคอนเสปของเพลง “เธอคือกาแฟในตอนเช้า” ให้เราฟังหน่อย“คอนเสปของเพลงนี้ก็คือเป็นอารมณ์ของคนที่มีความสัมพันธ์จนรู้สึกว่าเราอยากอยู่ใกล้ชิดกับคนรักเรามากขึ้นทุกวัน ๆ มันเป็นคล้าย ๆ กับการที่เราติดกาแฟ หรือเครื่องดื่มที่เราชื่นชอบ”“จริง ๆ ตอนแรกก็มีชานมนะครับ ก็เป็นอีกอย่างนึงที่ทุกคนติด แต่ถ้าเราจะเขียนคำว่าชานมลงไปในเพลง ผมว่ามันจะดูตลกนิดนึง เธอคือชานมในตอนเช้า แล้วก็รู้สึกว่ากาแฟ มันดูคลาสสิกด้วย มันสื่อถึงความสัมพันธ์ที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น วัยทำงานมากขึ้น ดูจริงจังมากขึ้น มากกว่าเพิ่งคบกัน”เวลาแต่งเพลงคือใช้ประสบการณ์ส่วนตัวในการแต่งด้วยมั้ย“ผมไม่เคยทานกาแฟเลยครับชีวิตนี้”“นั่นคือข้อที่ 1 ครับ ข้อที่ 2 นะครับ หลาย ๆ เพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลง แค่ไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน เธอคือกาแฟในตอนเช้า ทั้งสองเพลงนี้พี่กุ๊กเขาเป็นคนเขียน แล้วพี่กุ๊กก็ไม่มีแฟนด้วย”ไม่มีแฟน ไม่กินกาแฟ แล้วชอบทะเลมั้ย“ชอบครับ ชอบกินซีฟู้ดมาก แต่ว่าเวลาไปก็คือไม่เตะคลื่นครับ ไม่ชอบเท้าเปียก ผิดทุกอย่าง”ปกติใครเป็นคนตั้งชื่อเพลง“พี่แนตตี้ครับ”ทำไมชอบตั้งชื่อเพลงยาว ๆ“คือเนื่องจากเพลงของประวัติศาสตร์บ้านเรา มันมีมายาวนาน อย่างเพลง แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน จริง ๆ ก็จะชื่อว่า แค่มีเธอ เฉย ๆ เนี่ยแหละ แต่ว่าถ้าเราเสิร์ชไป มันจะซ้ำกับศิลปินหลายท่าน อีกชื่อนึงที่อยากให้เป็นก็คือ เตะคลื่น แต่ก็กลัวคนฟังไม่เข้าใจกันอีก เตะทำไม ผมก็เลยเอาสองคำนี้มารวมกัน ก็เลยเป็น แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน ส่วนอย่างเพลงนี้ เธอคือกาแฟในตอนเช้า เราก็เอาสิ่งที่ทุกคนฟังแล้วจะเอ๊ะขึ้นมาก่อน ก็คือ กาแฟ แล้วก็คิดต่อว่า เอาคำว่าอะไรดีกับกาแฟ มาทำให้เป็นประโยค ก็จะอ้างอิงจากในเนื้อเพลง มันจะมีท่อนนึงที่ร้องว่า เธอคือกาแฟในตอนเช้า ผมก็เลยเอาประโยคนี้มาใช้ ซึ่งถามว่าต่อไปจะยาวขึ้นอีกเรื่อย ๆ มั้ย น่าจะมีทิ้งทวนอีกเพลงนึงที่ยาว ๆ แล้วก็จะพยายามที่จะไม่ทำแล้ว”“คือเวลาเราไปโชว์แล้วเราเขียนลิสต์เพลง เราเมื่อยมือมากครับ เราต้องเขียนแจกประมาณ 5 คน เราต้องเขียนชื่อเพลงไปจนครบเนี่ย มันเมื่อยมือ ก็เลยจะไม่ตั้งชื่อเพลงยาวแล้ว”“แล้วก็ประสบปัญหาคือคนดูเวลาจะขอเพลงก็ไม่รู้จะเขียนยังไงด้วย”เคยได้ชื่อเพลงอะไรแปลก ๆ จากคนดูมั้ย“เคยได้ชื่อวงแปลก ๆ ครับ”แปลกยังไง“On One Else บ้าง No One Eraser บ้าง”“แล้วอย่างเพลง ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอเท่านั้น ก็จะเขียนว่า ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ อะไรแบบนี้ครับ มันจะไม่มีอะไรถูกเลยสักอย่าง แต่ก็น่ารักดีครับ ผมว่ามันก็เป็นโมเมนต์ที่ดี ๆ มากกว่า พวกผมไม่ได้ซีเรียส ยิ่งอ่านมันก็ยิ่งสนุกดี แต่จะทำให้สั้นลงมั้ย ก็จะพยายามบีบลงเรื่อย ๆ ไม่เกิน 10 พยางค์ครับ”รู้สึกยังไงที่คนอื่นยกให้ No One Else เป็นเจ้าพ่อเพลงงานแต่ง“รู้สึกดีครับ จริง ๆ 2-3 ปีมานี้ เราได้เริ่มวางคอนเสปของเราให้เป็นแบบนั้นแล้วจริง ๆ ตามคุณแทน ก็คือคุณแทนเข้ามาช่วยแต่งเพลง ต่อจากนี้เพลงรักทุกเพลงจะเป็นของเธอเท่านั้น จริง ๆ เนื้อหาเพลงของ No One Else ก็มีเพลงอกหัก เพลงเศร้าเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้เศร้าสุด แต่เพลงที่คนชอบฟังจะเป็นเพลงรัก เขาก็ให้ข้อสังเกตแบบนี้ เขาก็เป็นคนที่คอยวางคอนเสปของทั้งวงด้วย ก็คุยกันกับคุณแทน ว่าเรานี่ควรจะทำเพลงที่มันเกี่ยวกับงานแต่งเนอะ เพราะว่าเรามานั่งคุยกันเองก่อนทำวง ว่าอะไรที่เราอยากทำ โอเค คนชอบฟังเพลงรัก เราชอบเล่นงานแบบไหน งานกลางคืน หรืองานแต่งงาน เฮ้ยเราชอบเล่นงานแต่งงาน ของกินเยอะ แอร์เย็น เครื่องดื่มฟรี ทุกคนแต่งตัวดี แอลกอฮอล์ฟรี งานสบาย ทำยังไงก็ได้ให้เราได้ไปเล่นในงานแต่ง”“แต่ถ้าให้พูดตามจริง งานแต่งก็คือเป็นงานที่ทุกคนแฮปปี้ เป็นบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ซึ่งพอเราไปอยู่ด้วย เรามีความสุขไปด้วย”พาร์ทของ MV ทำไมถึงเลือกทำเป็นภาคต่อของ แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน แทนการทำสตอรีใหม่“อันนี้สตาร์ทไอเดียมาจากพี่บิ๊ก ผู้กำกับ เขามองว่าพอเพลงมันมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เขาก็เลยพยายามจะหาคู่ที่เป็นผู้ใหญ่ โตตามเพลงของเรา แล้วทีนี้ความบังเอิญ คุณนับและคุณจิ เขาเพิ่งขอแต่งงานกัน แล้วเพิ่งแต่งงานกันไป เราก็มองกันว่า เฮ้ย คู่นี้มีภาพของความเติบโต ถ้าเอามาต่อกัน มันจะได้ชัดเจนว่ามันมีการพัฒนาของความสัมพันธ์ เนื้อหาของเพลงมันมีความจริงจังของการใช้ชีวิตมากขึ้น ก็เลยคิดว่าคู่นี้น่าจะเหมาะ จะได้ต่อเนื่องด้วย”MV ของ No One Else จะให้ความเรียลตลอดเลย เป็นความตั้งใจมั้ยที่อยากเล่าเป็นแนวนี้เหมือนกันหมด“ตอบว่าครึ่งนึงครับ ครึ่งนึงคือตั้งใจ โดยที่พี่บิ๊กมองภาพรวมเป็นชอตต่อเนื่องเลย แล้วก็เป็นความตั้งใจเล็ก ๆ ที่ว่า มันก็ใช้ต้นทุนไม่สูง”“ก็จริง ๆ แล้ว ผมมองว่า พอมันเป็นเรื่องของคนสองคนอะครับ ให้มันมีแค่คนสองคน มันก็สวยงามที่สุดแล้วครับ”“มันจริงด้วยครับ เพราะอย่างตอนนั้น ตอนเตะคลื่น น้องสองคนนี้เขาก็ใกล้แต่งงานแล้วด้วยนะครับ แล้วก็มีการแต่งงานจริง ๆ แล้วก็การใช้ชีวิตอะไรมันเรียบง่าย มันเหมือนเพลงของพวกเรา เหมือนคาแรคเตอร์ของพวกเรา ต้องขอบคุณพี่บิ๊กที่มองทุกอย่างขาด แล้วที่บอกว่าครึ่งนึงเนี่ย อีกครึ่งนึงคือผมได้ไปคุยกับเพื่อน ๆ ที่เขามาดูเอ็มวี No One Else เนี่ย ตั้งแต่เพลงต่อจากนี้อะครับ พอเปิดมา 4-5 เพลง ไม่รู้จะกดไปดูเพลงไหน เพราะว่าภาพคล้ายกัน โทนสีมันคล้าย ๆ คนจะงงด้วย กดไปดูเพลงเก่าซ้ำ เพิ่มยอดวิว ก็เลยไม่รู้ว่าพี่บิ๊กเนี่ย ตั้งใจหรือเปล่า (หัวเราะ)”“โดยสรุปก็คือ มันเป็นโอกาสที่เขาได้ไปที่นู่นอยู่แล้ว ที่อเมริกา เราก็ขอให้เขาเก็บฟุตเทจอันนี้มาใช้กับเอ็มวีของเรา ก็เป็นความตั้งใจส่วนใหญ่”มีเพลงไหนที่พี่ ๆ จะไปเล่น MV เองบ้างมั้ย“เราเคยอยู่ใน MV ของเราแล้วครับ ไม่รู้จักใช่มั้ยครับ เพราะมันไม่ดัง (หัวเราะ) เราก็เลยสรุปเอาเองว่า ถ้าเราไม่อยู่ แล้วเพลงดัง เราไม่ต้องอยู่ก็ได้”“พอไม่มีเราอยู่แล้วมันดัง หรือว่า สิ่งที่เราทำมาทั้งหมด มีสิ่งผิดอยู่อย่างเดียว นั่นคือพวกเรานี่เอง (หัวเราะ)”“แล้วหลังจากที่พวกเราเอาตัวเองออกมาปุ๊บ เฮ้ย 40 ล้านวิว แต่อย่างที่น้องถามว่าจะมีพวกเรามั้ย เพลงหน้าครับ เพลงหน้าจะต้องสนุกแน่นอน”มีเต้นมั้ย“ไม่เต้นครับ ถ้าเต้นเราอาจจะต้องไปรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อ”อยากให้เพลง “เธอคือกาแฟในตอนเช้า” เป็นอะไรสำหรับคนฟัง“เราอ่านคอมเมนต์ หลาย ๆ คนเข้ามาบอกว่า ยังไม่มีคนที่เป็นกาแฟยามเช้าเลย แต่ว่าต้องมานั่งฟัง แต่ก็จะทนฟังไป จริง ๆ แล้วความรักมันก็เหมือนกาแฟจริง ๆ อะครับ คือมันรักได้ทุกอย่าง คุณสามารถรักอะไรก็ได้ ความรักเป็นสิ่งที่ดีครับ คือการแบ่งปัน บางทีคุณอาจจะไม่ใช่คนที่ถูกรักก็ได้ แต่คุณเป็นฝ่ายถ่ายทอดมันออกไป อยากให้เพลงนี้เป็นตัวแทนของความรักแล้วกัน”“ถ้าคนฟังที่ยังไม่มีแฟน ก็ให้รู้ไว้ว่าคนแต่งเพลงนี้ก็ไม่มีเหมือนกัน ไม่ต้องไปอิจฉาเขา (หัวเราะ)”มีเพลงแนวไหนที่รู้สึกว่าอยากลองทำ แต่ยังไม่ได้ทำบ้างมั้ย“เราจะมีเพลงที่ชอบกันอยู่ลึก ๆ อยู่ แต่ว่ารอวันเวลาที่มันพอดี แล้วเดี๋ยวอาจจะค่อยนำเสนอกัน”“นี่ผมเพิ่งรู้เลยว่าพี่ใหม่ชอบเพลงร็อค ยิ่งพอเราไปโชว์กัน ยิ่งทำให้รู้เลยว่าคุณใหม่เป็นคนที่ร้องเพลงร็อคได้ดีมาก”“มันอาจจะฉีกไป แต่เดี๋ยวค่อยว่ากัน ในอนาคตมันอาจจะเปลี่ยนไป”“ต่อจากนี้เพลงร็อคทุกเพลงจะเป็นเพลงของเธอ”สุดท้าย ฝากซิงเกิลนี้ และงานอื่น ๆ ในอนาคตหน่อย“ก็เราจะมีอัลบั้มเต็มนะครับ พร้อมกับคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเรา วันที่ 16 กันยายน ซึ่งวันนั้นจะมีของขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีดีอัลบั้มเต็ม ไวนิล แล้วก็มีพวก merch ของที่ระลึกทั้งหลาย อยากให้ทุกคนมาเจอกันในคอนเสิร์ต เพราะว่าคอนเสิร์ตนี้จะเป็นคอนเสิร์ตที่เล่นเพลงที่เป็นตัวตนของพวกเราเยอะที่สุดที่เคยเล่นมา”“เพราะว่าหลายทีที่เราไปเล่นคอนเสิร์ต จะมีแฟนเพลงกลุ่มนึงอยากฟังเพลงลึก ๆ เราก็อยากเล่น แต่กลัวว่ามวลมหาชนจะไม่เข้าใจกัน งานนี้จะเป็นงานที่ทุกคนจะต้องบอกว่า พี่เล่นทุกเพลงแล้ว จนเขาไม่สามารถจะขอเพลงอะไรจากเราได้อีกแล้ว ผมจะเล่นให้ทุกเพลงจริง ๆ”“ถึงเขาขอมาก็เล่นให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ขอลิขสิทธิ์ไว้ (หัวเราะ)”

album

0
0.8
1