“กำหมัด” เพลงใหม่จาก PAPER PLANES ในซาวด์ดนตรีแบบ Emo Trap ผสม Hip Hop ที่ขอฟาดนิ่มๆ แต่ซัดใจคนถูกหลอกจนรู้สึกโง่

NEW RELEASE

“กำหมัด” เพลงใหม่จาก PAPER PLANES ในซาวด์ดนตรีแบบ Emo Trap ผสม Hip Hop ที่ขอฟาดนิ่มๆ แต่ซัดใจคนถูกหลอกจนรู้สึกโง่

16 ธ.ค. 2021

ห่างไปนาน แต่ไม่ได้หายไปไหน สำหรับวง PAPER PLANES กับสมาชิกลุคคูลทั้ง 3 คน อย่าง ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ, หยก-คีตเมศร์ เสรีดุสิตพัชร์ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ศิลปินรุ่นใหม่ฝีมือดีแห่งค่าย genie records ที่ซุ่มทำงานเพลงกันถึง 1 ปีเต็ม ล่าสุดคัมแบคมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ “กำหมัด” ที่ปล่อยมาซัดใจคนที่เจ็บปวดจากการถูกหลอกจนรู้สึกว่าตัวเองโง่ ตามท่อนฮุก “กลายเป็นคนโง่ๆ ที่ถูกเธอหลอกเงียบๆ กลายเป็นคนอย่างเขา ที่เข้ามาแทนฉัน” ขอบอกเลยว่าฟังวนกี่ครั้งก็ยังคงเจ็บจึ้ก! ประกอบกับการนำเสนอดนตรีในแนว Emo Trap ที่มีส่วนผสมของเพลงร็อกอีโมตามแบบฉบับของวง แถมเพิ่มฮิปฮอปเข้ามาผสาน พร้อมตกแต่งดนตรีด้วยซาวนด์สังเคราะห์ในยุคนี้ สร้างความสดใหม่ให้กับ PAPER PLANES ต่างจากซิงเกิลก่อนๆ ที่ผ่านมา

ฮาย นักร้องนำ เป็นตัวแทนของวงพูดถึงซิงเกิลนี้ว่า “คำว่า กำหมัด สำหรับผมคิดว่าเป็นการกระทำที่เหมือนกับการพยายามเก็บอารมณ์ เก็บความรู้สึกโกรธเอาไว้ เป็นการอดทนกับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามหรือใครก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ไม่พอใจ มันเหมือนแบบเก็บสุดๆแล้ว แต่ก็ยังทนไว้อยู่ ไม่ได้แสดงออกหรือตอบโต้อะไรออกไป เราแค่รอให้เค้าได้รับผลในสิ่งที่เค้าทำเองจากปัจจัยอื่นๆครับ เนื้อเพลงนี้เลยพูดถึงความรู้สึกเจ็บปวดจนต้องกำหมัด จากการถูกคนรักหลอก มารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนโง่ที่โดนนอกใจไปมีใครอีกคนเข้ามาแทนเรา สุดท้ายก็ทำได้แค่ปล่อยเธอให้ไปเจอกับคนใหม่ที่ศีลเสมอกันครับ ซึ่งวงตั้งใจที่จะนำเสนอเพลงในมุมของความไม่ชัดเจน ไม่มีถูกที่สุดหรือผิดที่สุด ไม่มีดีที่สุดหรือเลวที่สุด และไม่มีขาวที่สุดหรือดำที่สุด แต่ทุกสิ่งคือ “สีเทา” อย่างในเพลงนี้คือไม่มีใครเศร้าที่สุดหรือสุขที่สุด ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความคิดและการตีความของแต่ละคน เราเลยถ่ายทอดความไม่ชัดเจนผ่านตัวละครผู้หญิงชื่อ Alisa Grey ที่เปรียบเป็นมาสคอตของความไม่ชัดเจนผ่าน Art Direction ต่างๆของวง อย่างที่ได้เห็นกันไปบ้างแล้วใน Lyric Video ที่เพิ่งปล่อยมาให้ฟังกันก่อนหน้านี้ครับ”

และเพื่อให้ฟังเพลงแล้วเข้าถึงอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น ในพาร์ทของมิวสิกวิดีโอ PAPER PLANES ตั้งใจใช้วิธีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ คือ เลือกที่จะไม่โชว์การเล่นดนตรีใน MV แต่เน้นโชว์ความรู้สึกโดยการแสดงออกในแบบนามธรรม เน้นหนักในเรื่องของ Emotional ให้เป็นภาพที่ทุกคนสามารถดูและตีความกันได้เองว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากการแสดงของตัวละคร การใช้สี รวมถึงการใช้สัญลักษณ์ต่างๆที่ถูกซ้อนไว้ใน MV มีการออกแบบ Art Direction ที่เติมความแฟชั่นและความทันสมัยลงไปในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ได้ MANGTO มากำกับให้ตามไอเดียที่วงต้องการ โดยในเรื่องจะได้เห็น “ฮาย” แสดงเป็นตัวแทนของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกแฟนนอกใจโดยไม่รู้ตัว โดนหลอกให้รัก หลอกให้เชื่อใจซ้ำๆ สีสันของ MV จะออกมาเท่ขนาดไหน ต้องลองเข้าไปดูกัน นี่บอกได้แค่ว่า เท่จนใจเจ็บเลยค่ะคุณผู้ชม!


related NEW RELEASE

“ได้โปรดจดจำฉันไว้ (MEMORY)” เพลงใหม่จาก LOMOSONIC ที่จะชวนคุณไปตั้งคำถามว่า ในวันที่ต้องลา..คุณอยากถูกจดจำแบบไหน?

12 ธ.ค. 2021

“ได้โปรดจดจำฉันไว้ (MEMORY)” เพลงใหม่จาก LOMOSONIC ที่จะชวนคุณไปตั้งคำถามว่า ในวันที่ต้องลา..คุณอยากถูกจดจำแบบไหน?

หลังจาก LOMOSONIC ได้ปล่อยเพลง “หมดรัก (EXPIRE)” และ “ส่งเธอได้เท่านี้ (GOODBYE)” ออกมากระแทกใจคนฟังกันไปแบบจุกๆ ด้วยเนื้อหาเพลงที่ทิ่มแทงอารมณ์ซะเหลือเกิน คราวนี้ถึงคิวของซิงเกิลที่ 3 “ได้โปรดจดจำฉันไว้ (MEMORY) เพลงเร็วเพลงแรกในอัลบั้มใหม่ชุดที่ 5 ภายใต้สังกัด genie records ที่ตั้งใจปล่อยออกมาสะกิดต่อมความรู้สึกของคนที่กำลังจะต้องจากลา ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ย่อมมีหมดเวลาไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่สิ่งที่จะทำได้คือ “จดจำ” ช่วงเวลาที่ดีที่สุดนั้นเอาไว้ตลอดไป เรียกว่าปล่อยเพลงออกมาตอกย้ำซ้ำอารมณ์คิดถึงให้นึกย้อนความทรงจำการลาจากอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว แถมเพลงนี้ยังได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คู่ใจ อ๊อฟ Big Ass รวมถึง เหนือ-เหนือวงศ์ ต่ายประยูร จาก Mango Team ที่มาช่วยเกลาเนื้อเพลงให้ในฐานะ Lyric Director อีกเช่นเคยบอย นักร้องนำ พูดถึงเพลงและมิวสิกวิดีโอนี้ให้ฟังว่า“ในเนื้อเพลง ได้โปรดจดจำฉันไว้ (MEMORY) จะมีการตั้งคำถามกับคนฟังว่า ในวันที่ต้องจากลากัน คุณอยากถูกจดจำแบบไหน? เพราะยังไงทุกคนบนโลกนี้ก็ต้องแยกจากกันในสักวันอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบ เพื่อน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งคนรัก ไม่มีงานเลี้ยงไหนที่ไม่เลิกราและถ้านี่คือวันสุดท้ายจริงๆ เราก็อยากขอให้เธอจดจำว่าฉันจะรักเธอจนวินาทีสุดท้ายที่ต้องจากกันส่วนดนตรีของเพลงนี้จะเป็นร็อกในสไตล์ของโลโมโซนิก ที่พอฟังแล้วจะนึกถึงพวกเราได้ทันทีครับ คือจะมีเสียงคอรัสที่เหมือนเป็นหมู่มวลอยู่ในทั้งเพลง โดยเฉพาะท่อนฮุกที่มีเสียงคอรัสคู่ไปกับเสียงของผม เพื่อเพิ่มความใหญ่และพลังของเพลงให้ได้อารมณ์ฮึกเหิมมากขึ้น ฟีลเหมือนเฮโลกันไปเป็นทีมเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ ประมาณนั้นครับในมิวสิกวิดีโอเราเลยใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ของกลุ่มเพื่อน ที่ต้องจากลาในวันสุดท้ายของการจบการศึกษาในระดับมัธยม ที่มีทั้งเด็กเนิร์ด เด็กเกเร เพื่อนสายฮา สายเอนเตอร์เทน ดาวเดือนประจำโรงเรียน ประกอบกับสถานการณ์หลายรูปแบบที่เกิดขึ้นในชีวิตมัธยม เช่น การโดดเรียน ลอกข้อสอบ มีเรื่องต่อยตี มีความรัก หรือการแอบชอบเพื่อน ที่สุดท้ายต้องทำใจจากลา แต่ต่างตรงที่จะจดจำกันแบบไหนในวันที่ต้องลาจาก ซึ่งเราได้ผู้กำกับ บิณฑ์ บัวหมื่นชล มาช่วยบอกเล่าเนื้อเพลงให้เห็นเป็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ใครได้ดูเอ็มวีแล้วนึกถึงความทรงจำเรื่องไหน มาคอมเมนต์บอกเล่ากันบ้างนะครับ พวกเราจะรออ่านทุกการจดจำของทุกคน หวังว่าทุกคนจะสบายดี”

“เจ้าของที่” เพลงใหม่จากวง Mirrr เปิดอัลบั้มเต็มชุดแรก พร้อมชวน เติร์ด Tilly Birds นั่งเก้าอี้ผู้กำกับ Music Video

12 มี.ค. 2022

“เจ้าของที่” เพลงใหม่จากวง Mirrr เปิดอัลบั้มเต็มชุดแรก พร้อมชวน เติร์ด Tilly Birds นั่งเก้าอี้ผู้กำกับ Music Video

หลังจากที่ปล่อยเพลง“ดอกไม้ไฟ”, “นินจา”และ“ตลอดไปไม่มีจริง”ออกมา ก็ได้รับกระแสตอบรับแรงเป็นอย่างดี ส่งให้วงดนตรีดูโอ้ Mirrr โดย โต-เลอทัศน์ เกตุสุข และ นาว-วิชชานนท์ ว่องวีรชัยเดชา สังกัดค่ายเพลง What The Duck ต่อยอดความเท่ ปล่อยมิวสิกวิดีโอซิงเกิลล่าสุด“เจ้าของที่” (My Favorite)ออกมาบีบหัวใจคนฟังที่ยังไม่มูฟออน โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ยกพื้นที่ในหัวใจให้ใคร เพราะไม่ว่าจะผ่านไปนานสักแค่ไหน เจ้าของที่ในใจก็ยังเป็นเธออยู่ดี ในส่วนของมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้ เติร์ด-อรุณโรจน์ เกตุเลขา นักร้องนำแห่งวง Tilly Birds มาช่วยถ่ายทอดเนื้อหาความคิดถึง และความรู้สึกที่ยังค้างคาอยู่ในทุกพื้นที่ความทรงจำ งานนี้ เติร์ด แอบบอกว่า “เขียนบทจากเรื่องตัวเองเลย” ทั้งยังร่วมกันออกไอเดียกับ 2 หนุ่ม โตและนาวเพื่อนให้ภาพในมิวสิกวิดีโอมีรายละเอียด ที่เต็มไปด้วยกิมมิกให้คนดูมีความรู้สึกร่วมไปกับการ flashback ของเรื่องราวในมิวสิกวิดีโอนี้ด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นอยากให้ไปหาคำตอบกันในมิวสิควีดีโอตัวล่าสุดเพลง “เจ้าของที่” (My Favorite) ของวง Mirrr ได้ที่ Youtube Channel : What The Duck ภาพ : What The Duck

แบบนี่สิสุดปัง! MILLI ร่วมงานกับค่ายเพลงระดับโลก 88rising ด้วยการรีมิกซ์เพลง “The Weekend” ของศิลปินสุดฮอต BIBI

22 ธ.ค. 2021

แบบนี่สิสุดปัง! MILLI ร่วมงานกับค่ายเพลงระดับโลก 88rising ด้วยการรีมิกซ์เพลง “The Weekend” ของศิลปินสุดฮอต BIBI

แบบนี้สิที่เรียกว่า “สุดปัง” ของจริง! เพราะล่าสุดแร็ปเปอร์สาวชื่อดังอย่าง MILLI หรือ มิลลิ ดนุภา จากค่าย YUPP! ก็ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในฐานะศิลปิน ที่ได้ร่วมงานกับค่ายเพลงระดับโลก 88rising พร้อมสร้างผลงานด้วยการร่วมรีมิกซ์เพลง “The Weekend” ของ BIBI ศิลปินหญิงที่กำลังมาแรงของเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นการโกอินเตอร์อีกครั้งของเธอ หลังจากปลายปีที่แล้ว MILLI เคยไปร่วมงานกับทาง 88rising ในคอนเสิร์ตออนไลน์ “DOUBLE HAPPINESS Winter Wonder Festival”ไม่เพียงเท่านั้น ระดับความสุดปังของเธอ ยังเคยสร้างความฮือฮาด้วยการไปขึ้นบิลบอร์ดขนาดใหญ่ยักษ์ใจกลางมหานครนิวยอร์ก และสกิลการแร็ปแบบเผ็ดจี๊ดในเพลง “Mirror Mirror” ทำให้ชื่อของ MILLI ถูกพูดถึง และถูกยกให้เป็นคลื่นลูกใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองมากๆโดย มิลลิ เล่าว่า การทำงานในครั้งนี้ทำให้เธอตื่นเต้นและดีใจมากๆ เพราะส่วนตัวเธอเอง BIBI ก็เป็นศิลปินคนโปรดอยู่แล้ว และการกลับมาทำงานกับทาง 88rising ในครั้งนี้ ก็ยิ่งประทับใจที่เขายังเปิดโอกาสให้เราอยู่"เพลงนี้ตีความเพิ่มเนื้อเพลงของ BIBI ค่ะ จริงๆ ถึงมันจะดูสนุกแต่มันเป็นเพลงเศร้านะคะ น้องก็แต่งเป็นเรื่องราวของการที่เราชอบใครสักคนมากจนฟุ้งซ่านควบคุมตัวเองไม่ได้และทนไม่ไหวอีกต่อไป ตอนจบก็เลยเขียนให้เราฆ่าคนนั้นตายเพราะไม่อยากให้ไปเจอใครอีกแล้ว นอกจากเราคนเดียว ฝากผลงาน Remixเพลง The Weekend- BIBIver.MILLIในช่อง 88rising นะคะ และผลงานเพลงของ MILLI เอง ในช่อง YUPP! ค่ะ"

หนุ่ม กะลา ตื่นเต้น! ร่วมงาน พี่เบิร์ด ธงไชย ครั้งแรก พร้อมชวน โบว์-กลัฟ ร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอ “ทุกวันได้ไหม” แรงติดเทรนด์ส่งท้ายปี

24 ธ.ค. 2021

หนุ่ม กะลา ตื่นเต้น! ร่วมงาน พี่เบิร์ด ธงไชย ครั้งแรก พร้อมชวน โบว์-กลัฟ ร่วมแสดงมิวสิกวิดีโอ “ทุกวันได้ไหม” แรงติดเทรนด์ส่งท้ายปี

หนุ่ม กะลา ส่งความสุขชุดใหญ่ส่งท้ายปลายปี ในวาระเป็นการเฉลิมฉลองอัลบั้มชุดที่10 “JOY” กับ 22 ปีในวงการเพลง พร้อมซิงเกิลบิ๊กเซอร์ไพรส์ล่าสุด “ทุกวันได้ไหม” ที่ได้ร่วมงานกับ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของเมืองไทย ที่มาร่วมสร้างมวลความคิดถึงต้อนรับอากาศหนาวกับเทศกาลส่งท้ายปี เป็นเพลงแห่งความคิดถึงที่ดนตรีฟังสบายๆ เมโลดี้ร้องตามง่ายๆ กับความเหงาแบบฟีลกู้ดส่วนมิวสิกวิดีโอก็ได้นักแสดงสุดฮอต! กลัฟ คณาวุฒิ ประกบคู่นางเอกสาว โบว์ เมลดา ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของเพื่อนรักหนุ่ม-สาว ที่เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันในเกือบทุกช่วงวัย แต่เพราะบางอย่างไม่เป็นใจ ทำให้เขาทั้งคู่ต้องห่างจากกัน และไม่กล้าติดต่อกันนานหลายปี มวลความคิดถึงที่ยาวนานในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ก่อนวันสิ้นปีจึงเกิดขึ้น และทันทีที่มีการเปิดตัวมิวสิกวิดีโอให้ได้ชมกัน ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากแฟนๆ จนขึ้นไปติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย พร้อมๆ กับยอดวิวที่ผ่านหลักครึ่งล้าน! ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงเท่านั้นโดย หนุ่ม กะลา เล่าการทำงานเพลงนี้อย่างตื่นเต้น และมีความสุขให้ฟังว่า “ทุกวันได้ไหม เป็นเพลงที่พูดถึงความคิดถึง ถูกแต่งขึ้นช่วงโควิด แต่งด้วยความคิดถึง วันหนึ่งผมโพสในเฟซบุ๊กถามแฟนเพลงว่าอยากให้ผมฟีเจอริ่งกับใครในอัลบั้มนี้ โพสเสร็จ พี่นกน้อย-ผู้จัดการ พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ ส่งไลน์มาบอกว่า พี่มีเด็กในสังกัดคนนึงหนุ่มสนใจมั้ยตอนนั้นผมคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น แซวกันเล่น จนพี่นกน้อยบอกว่าพี่เบิร์ดขอฟังเพลง ผมก็เห้ย! จริงหรอ! และผมก็รีบส่งเพลงให้ฟัง 5 นาทีต่อมาพี่เบิร์ดโทรกลับมาเอง เพลงเพราะมากเลยหนุ่ม เดี๋ยวเรามาร่วมกันร้องเพลงนี้ให้แฟนๆ ของเรากันนะ นาทีที่พี่เบิร์ดพูดเสร็จ ผมไม่ได้ยินอะไรอีกแล้วคือหูมันอือไปหมด กระโดดโลดเต้นดีใจสุดๆ ในบ้านเลย เกินฝันมากๆ ครับ ผมติดตามพี่เบิร์ดมาตั้งแต่ป.3 อัลบั้มบูมเมอแรง หลังจากนั้นก็เป็นไอดอลและรักมาตลอดเป็นคนเดียวที่ไม่เคยอยู่ในความฝัน เพราะมันไกลเกินกว่าที่เราจะฝันถึงเรื่องนี้ มันเหมือนการฟีเจอริ่งที่เป็นการทำงานร่วมกับแกรมมี่ทั้งตึก และที่สำคัญคือพี่เบิร์ดไม่เคยออกมาฟีเจอริ่งกับนักร้องคนไหน ซึ่งผมเป็นคนแรกและเป็นโปรเจกต์ของผมเองผมเป็นแฟนเพลงพี่เบิร์ดรู้สึกว่าพี่เขาหายจากเราไปสักพักนึง ผมเลยอยากให้ร้องในท่อนที่เหมือนบอกแฟนเพลงว่า “ก็นานเท่าไหร่แล้วเธอที่เราไม่ได้พบกัน ฉันรอแต่เธอทุกวันจนใจจะขาด ได้เพียงแต่ส่งข้อความ เธอนั้นจะรู้หรือเปล่า ว่าใจดวงนี้มันเหงาจนทนไม่ไหว”ได้เพียงแต่ส่งข้อความนั่นหมายความว่าช่วงหลังพี่เบิร์ดเล่นโซเซียลมันเป็นแค่การส่งข้อความหากันเหมือนบอกแฟนเพลงว่ามาแล้วนะ พอฟังมาสเตอร์ผมรู้สึกว่าดังไม่ดังไม่สำคัญแล้ว คือสำคัญแค่ว่าผมตายตาหลับ พอพี่เบิร์ดมามันเหมือนบูสเพลงไปไกลมาก เราวางเพลนที่จะปล่อยเพลงนี้ในช่วงปลายปี เพราะรู้สึกว่าพี่เบิร์ดคือตัวแทนของความสุขของผมและคนทั้งประเทศ คือพลังงานบวก ผมรู้สึกว่าคนไทยเหนื่อยมา 2 ปีแล้วกับโควิด ฝากเพลงทุกวันได้ไหม เป็นตัวแทนของความสุข ช่วงส่งท้ายของปีตอนนี้ก็ฟังและชมได้แล้วในทุกๆช่องทาง ขอส่งความสุขด้วยเพลงนี้ให้กับทุกๆ คน ขอให้จอยกับอัลบั้มชุดที่ 10 นะครับ”

album

0
0.8
1