[Review] The Creator : หนังไซไฟสุดยูนีก มาพร้อมกับวิชวลโลกอนาคตแบบไทย ๆ สุดตื่นตา

HOLLYWOOD GOSSIP

[Review] The Creator : หนังไซไฟสุดยูนีก มาพร้อมกับวิชวลโลกอนาคตแบบไทย ๆ สุดตื่นตา

27 ก.ย. 2023

สร้างความฮือฮาในกลุ่มแฟนหนังชาวไทยตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างแรกออกมาแล้ว สำหรับ The Creator หนังไซไฟแอ็กชันผลงานล่าสุดของ กาเร็ธ เอ็ดเวิร์ธ ผู้กำกับจาก Godzilla และ Rogue One หนังภาคแยกของ Star Wars ที่ไม่ว่าจะทำหนังเรื่องไหน ก็กวาดคำชมมาโดยตลอด นับตั้งแต่หนังแจ้งเกิดอย่าง Monsters หนังไซไฟทุนต่ำที่ทำออกมาเหนือกว่าหนังฟอร์มใหญ่หลายต่อหลายเรื่อง การกลับมาครั้งนี้ ดึงความสนใจของแฟนหนังวิทยาศาสตร์ได้ตั้งแต่แรก ด้วยงานภาพที่แปลกตา เพราะ 80% ของหนังถ่ายทำในประเทศไทย ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด และเมื่อถูกนำไปดีไซน์ใส่ไว้ในหนังโลกอนาคตยิ่งดูมีความสดใหม่มากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ตัวหนังเองยังมีทีมงานและนักแสดงชาวไทย รวมแสดงฝีมือทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเพียบ จนกลายเป็นอีกหนึ่งหนัง “ควรดู” สำหรับคนไทยอยู่ไม่น้อย

The Creator เล่าถึงโลกอนาคตอันใกล้ ที่หุ่นยนต์เอไอถูกประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อทำงานให้กับมนุษย์ แต่ฝันร้ายครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อเอไอได้จุดระเบิดนิวเคลียร์ ทำลายแอลเอ ทำให้โลกตะวันตกประกาศกวาดล้างหุ่นยนต์อย่างสิ้นซาก มีเพียงโลกฝั่งตะวันออกในดินแดนที่เรียกว่านิวเอเชีย ยังคงพัฒนาหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง ฝั่งตะวันตกจึงส่ง โจชัว (รับบทโดย จอห์น เดวิด วอชิงตัน จาก Tenet) ทหารหนุ่มร่วมทีมภารกิจเพื่อตามล่าหาอาวุธร้ายแรงที่ซุกซ่อนอยู่ในนิวเอเชีย ที่อาจทำให้พวกเขาชนะสงครามระหว่าง มนุษย์กับเอไอได้ แต่โจชัว กลับช็อกเพื่อพบว่าปลายทางนั้น กลายเป็นหุ่นในร่างเด็กน้อยคนหนึ่ง หรืออนาคตของโลกทั้งใบ จะขึ้นอยู่กับความเป็นอยู่ของเด็กคนนี้ ?

เชื่อว่า พล็อตที่เกี่ยวกับมนุษย์และเอไออาจไม่ใช่เรื่องใหม่ ฮอลลีวูดมีการสร้างหนังที่มีธีมคล้ายกันนี้มามากมาย นับตั้งแต่หนังอย่าง The Terminator แต่สำหรับ The Creator ก็ยังมีเอกลักษณ์มากพอ ทั้งในแง่ของวิชวลและพล็อต จนทำให้หนังมีความ Unique และเป็นที่จดจำได้ โดยเฉพาะการผสมผสานสิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามในหลาย ๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่งาน Production Design หนังมีความเป็นไซไฟโลกอนาคต แต่ก็มีกลิ่นอายแบบ Dystopia หรือโลกที่ล่มสลายอยู่ในนั้น หลังหลายเมืองผ่านการโดนทำลายล้างของนิวเคลียร์ ทำให้เกือบทุกซีน ผู้ชมจะเห็นภาพความล้ำสมัยของอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในเฟรมเดียวกับภาพความเสื่อมโทรม ความล้าสมัย ภาพของหุ่นยนต์ที่อยู่ท่ามกลางทุ่งนา ดูจะเป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นนักในหนังเรื่องไหน แต่เห็นในหนังเรื่องนี้ ทำให้ฉากส่วนใหญ่ของ The Creator ค่อนข้างโดดเด่น และเป็นที่จดจำ หากตัดภาพนิ่งซีนนั้น ๆ มา เชื่อว่าจะบอกได้ทันทีว่าคือ The Creator

ส่วนอื่นที่มีการผสมผสานขั้วตรงข้ามที่ชัดเจน คือ คาแรกเตอร์ตัวละคร ที่มีภาพคนและวัฒนธรรมแบบตะวันตกและตะวันออก ผสานเข้าด้วยกัน สิ่งเชื่อมโยงกับธีมของหนัง ที่แม้จะเป็นวิทยาศาสตร์ แต่แก่นหนังจริง ๆ กลับเป็นเรื่องของความเชื่อ ศาสนา และความเป็นความตาย ตัวหนังเองมีการตั้งคำถามถึงการเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ และการดับสูญ ซึ่งหนังถ่ายทอดจุดนี้ได้อย่างลึกซึ้งกว่าที่คาด ทำให้นอกจากผูชมจะสนุกไปพล็อตหนัง ติดตามการเดินเรื่องแล้ว ยังมีอีกหลายปมที่หนังตั้งคำถาม และปล่อยให้คนดูได้คิดตาม ทำให้ The Creator ไม่ใช่หนังไซไฟที่ดูเอาเพื่อความบันเทิงอย่างเดียว แต่ยังทิ้งอะไรไว้ให้กับผู้ชมอีกพอสมควร หลังจากเดินออกมาจากโรงแล้ว

สำหรับแฟนหนังชาวไทย การดู The Creator อาจเพิ่มเลเวลความสนุกขึ้นกว่าประเทศอื่น ด้วยการดู Easter Egg ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลเคชั่น ที่ชวนนึกตามว่า สถานที่ดังกล่าวคือที่ไหน ฉากไหนคือประเทศไทยบ้าง รวมถึงเหล่าตัวละครแวดล้อม ก็ล้วนพูดภาษาไทยเกือบทั้งหมด ทำให้คนไทยอาจจะเข้าใจหลาย ๆ บทสนทนามากกว่าคนดูประเทศอื่นในโลก (บางซีนก็ไม่แปลด้วยซ้ำ มีแต่คนไทยที่เก็ตว่าชาวบ้านคุยอะไรกัน) ตรงนี้ก็เป็นส่วนเพิ่มอรรถรสเข้ามา โดยรวม The Creator ถือเป็นหนังไซไฟแอ็กชัน ที่มีความออริจินัลและเอกลักษณ์สูงมาก ทั้งดูสนุก น่าจดจำ และมีอะไรให้คิดเพียบ แฟนหนังไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด

ชมตัวอย่าง The Creator ก่อนจะเข้าฉาย 28 กันยายนในโรงภาพยนตร์

album

0
0.8
1