02 ก.พ. 2023
[REVIEW] ‘Knock At The Cabin’ เคาะกระท่อมระทึก ตึงเครียดหนักตั้งแต่ต้นจนจบ| GOSSIP GUN
หลังจากแจ้งเกิดจาก The Sixth Sense ชื่อของผู้กำกับ เอ็ม.ไนท์ ชยามาลาน ก็ไม่เคยหายไปจากฮอลลีวูดอีกเลย เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังระทึกขวัญที่มาพร้อมกับพล็อตหักมุม หรือหลายครั้งที่เล่าถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ชื่อของ เอ็ม.ไนท์ นั้น ไม่ได้การันตีว่าหนังจะออกมาดี ตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา หนังของเอ็ม.ไนท์ ถือว่าผาดโผนในแง่คำวิจารณ์พอสมควร มีตั้งแต่หนังที่ดีมากๆ ไปจนถึงหนังที่ห่วยมากๆ ทำให้หลายครั้งที่แฟนหนังเข้าไปชม และนอกจากจะต้องลุ้นกับพล็อตแล้ว ยังต้องลุ้นไปถึงคุณภาพหนังอีกด้วย แต่ดูเหมือนผลงานล่าสุดอย่าง 'Knock At The Cabin' น่าจะจัดเข้ากลุ่มหนัง เอ็ม.ไนท์ ที่คว้าคะแนนบวกไปเสียส่วนใหญ่ โดยล่าสุดคะแนนจาก Rotten Tomatoes สามารถแตะคะแนนบวกได้ถึง 71% แม้จะไม่สูงเท่า The Sixth Sense แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกับUnbreakable, Signs และ Split'Knock At The Cabin' มาพร้อมกับเรื่องราวที่เกิิดขึ้นในเพียงสถานที่เดียว แต่คอนเซปท์สุดล้ำ เล่าถึง เอริคและแอนดรูว์ คู่รักชายชาย ที่พาลูกสาวบุญธรรมของพวกเขาไปพักผ่อนในบ้านพักตากอากาศ ซึ่งเป็นกระท่อมกลางป่าที่ห่างไกลจากผู้คน แต่จู่ๆ เสียงเคาะที่ประตูของกระท่อมพวกเขาก็ดังขึ้น พร้อมกับคนแปลกหน้าที่ปรากฏตัวทั้งหมด 4 คน ซึ่งต่างที่มาที่ไป แต่พวกเขามีจุดประสงค์เดียว คือ ต้องการหยุดวันสิ้นโลก ! โดยผู้ที่จะหยุดหายนะนี้ได้ มีเพียง 3 คนในกระท่อมเท่านั้น โดยเพียงเขาต้องตัดสินใจ เสียสละ 1 ชีวิต โดยพวกเขาต้องเลือกกันเอง และฆ่ากันเอง มิฉะนั้น หายนะวันสิ้นโลกจะมาถึง และทุกชีวิตบนโลกจะถึงจุดอวสานแน่นอนว่า 'Knock At The Cabin' จัดเข้ากลุ่มหนัง เอ็ม.ไนท์ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ข้อดีมากๆของมันคือการที่หนังสามารถรักษาระดับความตึงเครียดไว้ได้ดีตลอดทั้งเรื่อง เพียงไม่กี่นาทีหลังหนังเริ่มฉาย ก็เข้าสู่พล็อตหลักแบบทันที หนังไม่ปล่อยให้มีเวลาน่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย และตั้งแต่วินาทีนั้น หนังสามารถบิวด์ระดับความระทึกได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเหตุการณ์เริ่มไต่ระดับความบีบคั้น โดยความเจ๋งคือ หนังสามารถตรึงผู้ชมได้อยู่หมัด แม้ว่าจะเล่าเรื่องราวเพียงเหตุการณ์เดียว และในสถานที่เดียว เอ็ม.ไนท์ ยังคงเก่งกาจในการตรึงคนดูไว้กับเหตุการณ์สุดเหวอบนหน้าจอได้เสมอไฮไลต์สำคัญ คือ ทีมนักแสดงที่อาจกล่าวได้ว่า เล่นได้ดีแบบยกทีม นี่คือหนังที่ต้องอาศัยฝีมือการแสดงอยู่ไม่น้อย เพราะแต่ละตัวละครถ้าไม่อยู่ในภาวะสับสน ก็จะต้องมีความซับซ้อนทางอารมณ์ ตัวละครหลักที่สำคัญของหนังคือบท ลีโอนาร์ด ชายปริศนาร่างยักษ์ ซึ่งรับบทโดย เดฟ บอทิสต้า จาก Guardians of the Galaxy หนังเปิดโอกาสให้เขาแสดงเป็นตัวละครที่มีความลึกทางอารมณ์ และเดฟก็ทำได้ดีมากๆเลยทีเดียว โดยเฉพาะฉากที่ผู้กำกับเลือกที่จะโคลสอัพหน้าของเขา แม้ตัวละครนี้จะแสดงออกอย่างนุ่มนวล แต่มันกลับน่าขนลุก และน่าหดหู่อยู่ไม่น้อยสิ่งที่น่าเสียดายเบาๆสำหรับ 'Knock At The Cabin' อาจจะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของหนัง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเป็นหนังของ เอ็ม.ไนท์ ผู้ชมจะต้องคาดหวังไปก่อนแล้วว่า จะเจอกับบทสรุปที่ไม่คาดคิด หรือตอนจบที่ไม่ธรรมดา แต่ปรากฏว่าหนังไม่สามารถพาผู้ชมไปได้ถึงระดับนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'Knock At The Cabin' ถือเป็นหนังที่ High Concept มากๆ ปูพล็อตมาค่อนข้างแรง แต่กลับแลนดิ้งตอนท้ายอย่างเบาบาง จนแอบเสียดายนิดๆ เมื่อเทียบกับงานชิ้นก่อนอย่าง Old แม้จะแลนดิ้งพลาด แต่ก็ยังปล่อยของหนัก เมื่อเทียบกับผลงานล่าสุดนี้โดยรวม 'Knock At The Cabin' คือหนังของ เอ็ม.ไนท์ ชยามาลาน ในระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจเลยทีเดียว หนังมีความน่าสนใจทั้งในแง่พล็อต การสร้างสถานการณ์สุดตึงเครียด ไปจนถึงหลายจุดที่ไม่คาดคิด มาพร้อมกับการแสดงที่ยกระดับฝีมือของหลายต่อหลายคน ใครที่เป็นแฟนหนังของผู้กำกับคนนี้ ก็ไม่น่าพลาดเช่นเดิมชมตัวอย่าง Knock At The Cabin เสียงเคาะที่กระท่อมภาพ : UIP Thailand