
19 พ.ค. 2023
LYKN ก็คือหมาป่า และเมื่อ On Stage ขึ้นมาพวกเขาก็ไม่ต้องรอเวลาให้ Full Moon
หนึ่งในรายการแข่งขันเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสุดๆ ก็คงหนีไม่พ้น รายการ ‘ ProjectAlphaTH ’ ที่ค้นหาเด็กหนุ่มมากความสามารถมาเข้าร่วมในทีมและเดบิวขึ้นเป็นศิลปินในสังกัด RISER MUSIC ในเครือ GMM TVเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา EFM Fandom Live ได้ต้อนรับสมาชิกทั้ง 5 จากวง LYKN (วิลเลียม - เลโก้ - ตุ้ย - ฮง - นัท ) บอยแบนด์หน้าใหม่ผู้ชนะจากรายการ ProjectAlphaTH !ซึ่งในช่วงแรกทางรายการก็ได้เปิดหน้าไมค์ให้เหล่าแฟนคลับได้มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวความแสบของน้องๆ LYKN ให้ชาว EFM Fandom Live ได้รับฟังกัน“ LYKN กับจุดเริ่มต้นทำความรู้จัก ”หลังจากที่ได้เปิดสายให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุย ทางรายการก็ได้ถามถึงความประทับใจแรกกับที่ไปที่มาว่าทำไมถึงมารู้จักทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ได้ โดยเหล่าแฟนคลับก็ได้กล่าวเป็นรายคนเริ่มที่บ้านของ ‘ เลโก้ รพีพงศ์ ’ที่ได้กล่าวว่าตนนั้นโดนน้องตกจากความสามารถของน้อง และเชื่อว่าใครหลายๆ คนก็คงจะต้องชื่นชอบความสามารถเช่นเดียวกัน เพราะเลโก้ถือว่าเป็นมาตรฐานทางการเต้นที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะผ่านการแข่งขันระดับโลกอย่าง HHl มาเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใครได้เข้ามารู้จักน้องด้วยใจจริงจะรู้ว่าเลโก้เป็นคนที่เปราะบางมาก ถึงจะมีดื้อหน่อย แต่ใส่ใจคนรอบข้างและคิดบวกเสมอ เพราะแบบนี้จึงทำให้เรารู้สึกตกหลุมรักเด็กคนนี้เข้าอย่างจังเลยทีเดียว นอกจากนี้เลโก้ยังชอบมีคำเรียกแฟนคลับว่า “ Everything ! “ กันอีกด้วยต่อกันที่ “ ฮง พิเชฐพงศ์ ” หนุ่มน้อยหน้าตี๋สุดน่ารักที่หลายๆ ชอบเรียกกันว่า “ ฮงชิ ” และแฟนคลับก็ได้แอบกระซิบมาว่าพี่ฮงของเราชอบทานของหวานชนิดหนึ่งเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “ ไอศกรีม ” นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของพิฮงก็คือการชื่นชอบทาน จนสามารถทานได้ทุกวันกันเลยทีเดียวส่วนคนถัดไป ผู้ชายสาย “ โกลเด้น ” อย่าง “ นัท ธนัท ” ที่ชอบถูกแฟนคลับแซวว่ามีความ ‘ บ๊อกแบ๊ก ’ ซุกซน ขี้เล่น เหมือนหมาน้อย ก็ทำให้แฟนคลับเกิดตกหลุมรักในความอัธยาศัยดีของเขา ที่ถึงแม้จะรู้จักกันครั้งแรกใครหลายคนอาจจะคิดว่านัทเป็นคนนิ่งๆ แต่ชาว ‘บีนนี่’ แฟนคลับของนัทก็ต่างบอกว่าถ้ามารู้จักจริงๆ นัทชอบเล่นมุขตลกกับแฟนคลับมากๆส่วน “ วิลเลียม จักรภัทร ” พ่อหนุ่มลูกเสี้ยวสายกรี๊ดก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ต่างถูกตกหลุมรักเขาจากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นร้องเต้น เขาคนนี้ก็สามารถทำมันออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก แต่เรื่องที่จะแอบเมาส์จากแฟนคลับก็คงจะเป็นเสียงกรี๊ด อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ที่อยากให้ทางรายการได้รับฟัง รับรองว่าตราตรึงใจอย่างแน่นอนและปิดท้ายด้วยหนุ่มมากความสามารถสายบีตบ็อกซ์อย่าง “ ตุ้ย ชยธร ” ที่แฟนคลับให้สมญานามเลยว่าความ “ โคตรตุ้ย ” มันสุดมากจริงๆ ในที่นี่ก็หมายถึงความสามารถที่หลากหลายและไปสุดทางของน้องจนพูดได้เลยว่า ตุ้ยสุดทุกทาง อย่างแท้จริง นอกจากนี้ตุ้ยยังครีเอทชื่อแฟนคลับตัวเองให้ชื่อว่า “ เหล่านัตสึ ” กันอีกด้วย เพราะตุ้ยเปรียบกับแฟนคลับเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งของตัวเอกในเรื่องของ Reborn ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ทั้งคู่ก็จะเคียงข้างกัน เดินไปด้วยกันเรื่อยๆ ในทุกๆอุปสรรคแต่วีรกรรมของทั้ง 5 หนุ่ม LYKN ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเราจะพาทุกท่านไปร่วมเอนจอยกันกับการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ในแบบฉบับ EFM Fandom Live !LYKN (ไลแคนท์) มันยิ่งกว่าหมาป่า !เมื่อถามถึงความหมายของชื่อวง หนึ่งในสมาชิกจากไลแคนท์ อย่างตุ้ยก็ได้ให้นิยามความหมายของ LYKN ว่า “จริงๆ แล้วไลแคนท์ก็คือหมาป่าเช่นเดียวกับ Werewolf แต่ความพิเศษของไลแคนท์มันอยู่ตรงที่สามารถที่จะแปลงร่างได้เลยไม่ต้องรอวัน Full Moon หรือพระจันทร์เต็มดวงใดๆ ซึ่งเปรียบเสมือนกับเวลาหลังจากเรา On Stage เสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราก็สามารถสวิตช์ร่างกลับมาคุยกับแฟนคลับแบบเป็นกันเองและเข้าถึงง่ายได้ดังเดิมนั่นเอง”“ ใคร…ที่สุดใน LYKN ? ”เมื่อพูดถึงความที่สุดในแต่ละรูปแบบทางรายการจึงให้สมาชิกแต่ละคนใน LYKN นิยามมาว่าใครที่สุดในเรื่องอะไรกันบ้าง เริ่มกันที่ ‘ ใครพูดน้อยที่สุด ? ’ พอถามคำถามนี้ทุกคนก็ต่างชี้ไปที่ “ ฮงชิ ” ว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกที่พูดน้อยที่สุด ในที่นี้อาจจะไม่ได้หมายถึงไม่ค่อยพูดแต่เลโก้เสริมมาว่าฮงจะเป็นประเภทที่หลังจากเวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไปเอเนอร์จี้เขาจะมาทันที ชอบที่จะใช้ชีวิตตอนกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ถ้าให้บอกจริงๆ คงเป็นช่วง 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่มซะมากกว่าที่ฮงจะพูดน้อย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็คือเอเนอร์จี้เขาจะดีดกว่าปกติเลยทีเดียว ส่วนคำถามต่อมาก็คือ “ ใครพูดเยอะที่สุด ? ” คำตอบนี้เรียกได้ว่าล็อคมงกันสุดๆ เพราะเสียงเป็นเอกฉันท์ว่าคือ “ ตุ้ย ” นั่นเองเพราะอย่างที่แฟนคลับและเมมเบอร์บอกว่าตุ้ย ความสามารถของเขาก็คือ จะสามารถพูดได้เรื่อยๆ พูดเรื่องนู้นเชื่อมมาเรื่องนี้ ถ้าเราโยน Topic อะไรไปเขาสามารถพูดได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว ส่วน “ ใครชอบกรี๊ดที่สุด ? ” ก็คงหนีไม่พ้นวิลเลียมที่ได้ออกมาบอกว่าเขาเป็นคนเป็นประเภทหนึ่งที่ถ้าเกิดเหตุการณ์เดดแอร์หรือความเงียบสิ่งที่เขาชอบทำก็คือการกรี๊ด หรือว๊ากออกมา เพื่อทำลายความน่าอึดอัดนั้น ส่วนข้อสุดท้าย “ใครกินเก่งที่สุด ? ” ข้อนี้ตอบได้เลยว่ายากมาก เพราะแต่ละคนก็จะมีความชอบที่ต่างกัน กินเก่งหมดแต่ความชอบกินมันไม่เหมือนกัน อย่างนัทจะเป็นสาย Healthy ชอบทานสลัด ส่วนวิลเลียมจะเป็นเยลลี่ ฮงจะเป็น ไอศกรีม และเลโก้ก็คือทานได้ทุกรูปแบบ โดยสรุปนั่นก็คือชอบทานทุกคนเลยนั่นเองการได้ขึ้นเป็น LYKN เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเราไปบ้าง ?อย่างที่รู้กันว่าเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนกับพัฒนาการกว่าจะมาเป็นหนึ่งในศิลปินจาก LYKN ที่ดังและก็ปังขนาดนี้ ทุกคนก็ต้องผ่านความเป็นอุปสรรคและขวากหนามมาอย่างโชกโชน ทางรายการจึงอยากรู้ว่า การที่ได้มาเป็นศิลปินที่ได้ชื่อว่า ‘ LYKN ‘ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างกับตัวเรา ฮง พิเชฐพงศ์ - เราไม่คิดว่าจะมีคนมาสนใจในชีวิตเรามากขึ้นถึงขนาดนี้ เพราะเมื่อก่อนเราก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย พอเริ่มมีสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วมีคนมาซับพอร์ตในสิ่งที่เราชอบ มันทำให้เรารู้สึกดีใจมากๆ อย่างเวลาเราไปทานอาหารร้านไหน แฟนคลับบางคนก็จะมีการไปเช็คอินตามร้านที่เราเคยไปบ้าง บ้างก็แท็กร้านขนมหมานมา ชวนคุยว่าวันนี้เราทานไอศกรีมแล้วรึยังอะไรแบบนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราประทับใจมากๆนัท ธนัท - นัทรู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเยอะมากหลังจากที่เราเริ่มเข้ามาใน ProjectAlphaTH อย่างบางทีแฟนคลับก็มาเจอเราที่ใต้ตึก ก็รู้สึกดีใจมาก ที่เขามารอเรา บางทีก็ดึกมาก แต่เขาก็รอ ก็เลยไม่คิดว่าจะมีคนซับพอร์ตเราถึงขนาดนี้ตุ้ย ชยธร - ก็จะคล้ายกับสมาชิกคนอื่นเลยครับ พอมีคนมารอเราตั้งแต่เช้า เราซ้อมเสร็จกลับดึก บางทีก็ยังเห็นเขาอยู่ เราดีใจมาก มันคล้ายกับว่ามีคนเดินตามฝันไปพร้อมกับเรา ดังนั้นเลยเป็นแรงผลักดันให้เรา ทุกครั้งเวลาซ้อมเราจะตั้งใจทำมันมากๆ เพื่อให้ผลงานออกมาตอบแทนแฟนคลับที่ซับพอร์ตเราขนาดนี้วิลเลียม จักรภัทร - เมื่อก่อนที่เรายังไม่ได้ขึ้นเป็นศิลปิน เวลามาซ้อมที่ตึกเราเห็นพี่ๆ ดาราศิลปินที่มีแฟนคลับมารอ เราก็รู้สึกว่าอยากมีคนมาซับพอร์ตแบบนี้บ้างจัง ถ้ามีแบบนี้ก็คงจะดี แล้วพอมาถึงวันนั้นมันเหมือนความฝันเราเป็นจริง ก็เลยภูมิใจในตัวเองมากๆ เวลาเราท้อหรือเหนื่อยอะไร แค่เราเข้าไปขอกำลังใจจากแฟนคลับ มันก็เหมือนช่วยฮีลใจเราไว้เป็นอย่างมากเลโก้ รพีพงศ์ - พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตของผมมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้เราจินตนาการไว้อยู่แล้วว่าอยากที่จะเป็นศิลปินเพื่ออะไร มอบความสุขให้ใคร และได้อะไรกลับมาซึ่งหนึ่งในนั้นมันคือกำลังใจจากแฟนคลับ แล้วมันเกิดขึ้นมาจริงๆ เราก็รู้สึกแฮปปี้กับมัน ซึ่งบางทีเขาก็ซับพอร์ตเราเหมือนเราเป็นหนึ่งในครอบครัวเขาด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นอะไรในครอบครัวเขาเลย เขาแค่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้จากเรามันคือความสุข แค่นี้เราก็รู้สึกว่าอยากทำผลงานตอบแทนเขาให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกันก่อนจบรายการทั้ง 5 หนุ่มจาก LYKN ก็มีความในใจที่อยากจะบอกซึ่งกันและกัน…LEGO “ขอบคุณในทุกๆ วันที่ทุกคนยังมี passion กับการทำงานอยู่ ช่วงนี้มันอาจจะหนักไปบ้าง แต่ก็อยากให้รู้ไว้ว่าถ้าเรามีความสุข ก็ยังมีคนที่รอดูเราอยู่ อยากให้ตั้งใจที่จะทำมันต่อไปเรื่อยๆ ให้คิดว่า LYKN เป็นเหมือนประเทศหนึ่ง ให้คนที่เข้ามาเขาอยากที่จะอยู่ ทำหน้าที่ของเราให้ดีต่อไป รักมากๆ ครับ”HONG “ ขอบคุณทุกคนมาก เพราะถ้าไม่มีทั้ง 5คนก็คงไม่มีเราในทุกวันนี้ ขอบคุณที่เหนื่อย ขอบคุณที่พยายาม ขอบคุณที่ไม่หยุดพัฒนา และเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่วันแรก และก็ขอบคุณที่รักกัน เป็นเหมือนอีกครอบครัวหนึ่ง ที่ทำให้ทุกเช้าตื่นมายังมีคนที่ใส่ใจเรา ดูแลเรา เป็นกลุ่มเป็นก้อนตลอดมา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ เลยครับ”WILLIM “ผมเข้าไปรายการตอนแรกผมอยากเป็นศิลปินเดี่ยวครับ แต่พอได้ลองมันคือไม่ใช่ทางเลยมันดูโหวงมาก พอเราได้ทำงานเป็นกลุ่มเราก็รู้สึกดีมากๆ ที่เพื่อนทั้ง 4 คนคอยซับพอร์ตผมเสมอ ทำให้เราอยากจะทำงานด้วยจริงๆ อยากจะขอบคุณที่บางทีเราอาจจะเต้นไม่ได้ ก็ขอบคุณที่มาคอยช่วย บางทีอยู่มุมห้อง ก็เห็นและคอยมาช่วยเสมอ ขอบคุณมากๆ ครับ”NUT “ ก็ขอบคุณทุกคนเลยที่ทำให้ทุกวันของเราอยากที่จะมาซ้อมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อย แต่พอเรามาซ้อมด้วยกันมันก็มีความสุขมากๆ แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ตั้งใจทำผลงานของเราได้ออกมาให้ดีสุดๆ และผลงานต่อๆไปเราก็จะตั้งใจทำเหมือนวันแรกที่เราทำเพลงของเรา และตั้งใจแบบนี้ต่อๆ ไปเรื่อยเลยครับTUI “ ก็อยากจะขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เต็มที่กับมันมากๆ ที่ผ่านมาเรารู้ว่าทุกคนผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งฝึก ทั้งอะไรก็ตาม เรารู้ว่าทุกคนเต็มที่มาก วันแรกทุกคนตั้งใจยังไง ก็อยากให้ทุกคนตั้งใจอย่างนั้น เหมือนวันแรกที่เราได้เจอกัน และบางทีก็อยากขอโทษที่เราอาจจะทำให้ใครไม่พอใจในบางอย่าง หรือล้ำเส้นอะไรไปก็ขอโทษเหมือนกัน แต่ทุกอย่างที่เราทำไป เพราะเราไม่รู้ว่าคำว่า LYKN มันจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่เรารู้สึกว่าผมดีใจมากที่ได้ทำงานกับทั้งสี่คนนี้ และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจในชีวิตเลยก็ว่าได้ ที่เราได้เป็นศิลปินร่วมกัน”สุดท้ายนี้ EFM Fandom Live ก็ขอบคุณสมาชิกจาก LYKN ทุกคนที่มาร่วมสนุกกันภายในรายการ น้องๆ ทุกคนน่ารักกันมากๆ ก็หวังว่าในภายภาคหน้าจะได้พบเจอกันอีก ขอฝากผลงานล่าสุดอย่าง “ เลิกกับเขาเดี๋ยวเหงาเป็นเพื่อน ( MAY I? ) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยน้า และเร็วๆ นี้ LYKN จะมีเดินสายไปยังประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก ก็ฝากเป็นกำลังใจให้เด็กๆ และตะโกนชื่อ “ LYKN ! “ กันให้สุดเสียงไปเลยภาพ EFM Fandom Live
