รายการ EFM Fandom Live [31 สิงหาคม 2566] มาฟินจิกหมอนไปกับ “แจม - ฟิล์ม” มาพร้อมกับความน่ารัก ความสนุก และเสียงหัวเราะ พร้อมพูดคุยในรายการกับ “ดีเจเเนน และ ดีเจโซเซฟ”
ก่อนที่จะไปพูดคุยกับ “แจม-ฟิล์ม” ในช่วงแรกของรายการพี่ๆดีเจพูดคุยกับตัวแทนของแฟนคลับที่มาพูดถึงความประทับที่มีต่อ “แจม-ฟิล์ม” และ สิ่งที่อยากจะบอก “แจม-ฟิล์ม”
ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับแจม
การแสดงจากที่ได้รับบทเล็กๆไม่มีอะไรเลย เเต่มีเสน่ห์ของแจมที่ดึงดูดคนดู และยังมีความมุ่งมั่นการทำงานผ่านสายตา สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ขอบคุณที่ไม่ละทิ้งความฝันไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหน ก็ฝ่าฟันทำตามความฝันทำให้ก้าวมาถึงจุดตรงนี้ได้
ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับฟิล์ม
ฟิล์มพูดเสมอเลยว่า “ผมไม่ขอให้อยู่กับผมตลอดไป แต่ขอให้ทักคนมีความสุขในทุกนาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน” สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ทุกการเดินทางของเราที่อยู่เคียงข้างฟิล์มมันจะมีความสุข มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม เพราะเรารู้ว่านี่คือความสุขที่สุดของฟิล์ม ในวันที่ฟิล์มเหนื่อยล้าแฟนฟิล์มทุกคนพร้อมจะเป็นลมใต้ปีกให้เสมอ เเละสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นเรารู้ด้วยว่าวันที่เราเหนื่อยล้าฟิล์มก็พร้อมที่จะเป็นลมใต้ปีกให้เราเหมือนกัน
ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับแจมฟิล์ม
ทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันมากๆจากซีรีส์ทำให้ตกหลุมรักคู่นี้ สิ่งที่อยากจะบอกคือ ยินดีสนับสนุนทั้งแจมและฟิล์มทุกๆผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานของตัวเองที่เเสดงกับคนอื่นก็ยินดีที่จะสนับสนุนต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่ามีสโลแกนว่า “Walk Together Support Forever (เราจะเดินไปด้วยกัน ซัพพอร์ตกันเเละตลอดไป)” มีกำลังใจในการทำงานทุกเส้นทาง ยินดีที่จะเป็นพลังรักให้กับทั้งสองคนตลอดไป
มาสู่ช่วงที่สองของรายการที่จะมาพูดคุยไปกับ “แจม-ฟิล์ม”
การเปลี่ยนแปลงของชีวิตในช่วงนี้
“แจม” งานเยอะขึ้นเวลานอนลดลง เพราะว่าต้องทำงานเช้าขึ้น เเต่ก่อนเคยพูดกับพี่ฟิล์มนะว่าผมอยากทำงาน 7 วัน พี่ฟิล์มก็บอกว่าเดี๋ยวก็รู้ เวลาพักผ่อนก็น้อยลงจริงๆเลยต้องหาเวลาแบบที่งานไหนที่ไม่ไหวก็จ้างรถตู้เเล้วก็นอนบนรถ เวลาออกกำลังยังเเบ่งเวลาไม่ค่อยได้ดีสักเท่าไหร่ จริงๆเป็นคนที่กินหมดทุกอย่างจะมีบางมื้อที่จะเน้นอกไก่เน้นโปรตีนเป็นหลัก ตอนนี้ก็กลายมาเป็นอกไก่หายไปเป็นหนังไก่แทน แต่ก็ยังออกกำลังมีเเตะบอล ตีแบตกับเพื่อน เพราะว่าชอบออกกำลังกายอยู่เเล้ว
“ฟิล์ม” เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ได้เรียนรู้ ย้อนไปเมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้วเราก็มาจากละครปกติมากกว่า ได้เรียนรู้กลุ่มคนใหม่ๆที่ได้ทำแล้วก็สนุกเหมือนกัน แล้วก็มีน้ำหนักที่ลดลงในช่วงต้นปีกินคลีนทำได้ประมาณ 90% แรกๆก็เครียดหลังๆมาก็คิดว่ากินแค่ไม่อดตายให้อิ่มท้องพอ ก็ลงมาประมาณ 6 - 7 กิโลกรัม ใช้เวลา 9 เดือน
“Laws of Attraction กฎแห่งรักดึงดูด” เคยคิดไหมว่าทั้ง 2 คนได้มาเจอเป็นเรื่องของแรงดึงดูด
ในมุมมองของแจมคือทำงานกับใครก็หวังให้ไปด้วยกันอยู่เเล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้ขนาดไหน ก็ไม่ได้คืดเหมือนว่าจะมาได้ขนาดนี้
บทบาทใหม่ของทั้งคู่จาก “คุณเทียน - อาจิว” สู่ คุณครู กับ ทนาย”
“แจม” ในชีวิตจริงผมเรียนจบครุศาสตร์ดนตรี ได้เป็นนักศึกษาฝึกสอนแล้วบรรจุได้ พอบรรจุเเล้วยังเรียกลำดับยังไม่ถึง ที่เคยเรียนเป็นพวกดนตรีไทย ดนตรีสากล ดนตรีพื้นเมือง พิน โปรงลาง ถ้าตอนไปสอนจะเป็นดนตรีสากล ส่วนในเรื่องจะเป็นครูสอนกีฬาก็คือ กีฬาเทควันโด ซึ่งไม่เคยเล่นไม่เคยเรียน ไปเวิร์คช็อปวันเดียวเเล้วสายดำทันที ความท้าทายของผมคือเทควันโดกับความดราม่าที่ไม่เคยเล่นขนาดนั้นมาก่อน เป็นซีนอารมณ์ที่หนัก ด้วยเวลาที่เร่งถ่ายก็คือต้องทำการบ้านแบบเร็วๆ
“ฟิล์ม” ก็คือต้องจำบทเพราะบทยาว ด้วยเวลาที่มีให้เตรียมตัวน้อยมาก สิ่งที่เราทำได้จริงๆเราไม่ได้ไปนั่งศึกษากฎหมายสิ่งที่ต้องทำคือเวลาได้บทมามันคือการจำบท เป็นอะไรที่ยากกว่าปกติ เพราะเป็นภาษาที่ไม่สามารถที่จะพลิกแพลงหรือเปลี่ยนคำพูดแล้วให้ความหมายเเบบเดิมได้ ภาษากฎหมาย หรือประมวลกฎหมายมันต้องพูดแบบเดิมทุกคำ คำว่าและกับหรือต่างกันแล้ว ความหมายเปลี่ยนทันที คำต้องเป๊ะหมด ต้องใช้เวลาในท่อง 3 - 4 เท่าของซีนปกติ คาแรคเตอร์ก็จะได้รับบีฟจากคนเขียนบทหรือผู้กำกับว่าเป็นแบบนี้นะ ที่เหลือเราก็จะต้องไปหามาเสริมเพิ่มเติมเอง เลยรู้สึกว่าเป็นการบ้านที่ต้องทำเยอะที่สุดเเล้ว
แจม พูดเรื่อง ฟิล์ม บนเครื่องบิน
ตอนนั้นไปแฟนมีทครั้งแรกมาเก๊า เวลาพี่ฟิล์มอยู่บนเครื่องก็คือใส่เครื่องนวดตานอน คือมันมีเสียงเพลงเเล้วมีไฟ แล้วบนเครื่องมันมืด เเล้วมันไฟก็กระจายบนเครื่อง
ฟิล์ม พูดเรื่อง แจม บนเครื่องบิน
เขาก็นอนเหมือนกัน ใส่หูฟังเสร็จก็นอนไม่ต่างกัน
เล่นละครด้วยกันมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของทั้งคู่แล้ว
เวลาเข้าซีนด้วยกัน จริงๆไม่มีอะไรจะเขินนะ ไม่รู้จะเขินอะไร เพราะว่าเป็นตัวละคร แต่เวลาซ้อมมันก็จะมีนิดๆ ด้วยความที่ยังเป็น แจมกับฟิล์ม ยังไม่ได้เอาตัวละครเข้ามาอยู่ในตัวเองจะรู้สึกว่า หึ้ยยย มันแปลกอะ...
พัฒนาการของแจมในมุมมองของฟิล์ม
ก็เห็นรายละเอียดที่มากขึ้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์บางสิ่งบางอย่างมันพูดเเล้วมันทำเลยไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอาศัยประสบการณ์ แต่ว่าผมได้เห็นการพัฒนาการด้านการแสดงรายละเอียดที่มันมากขึ้นมากกว่าเรื่องที่เเล้ว เเล้วก็เห็นถึงความสบายตัวที่มากขึ้น
ทางรายการ EFM Fandom Live ของเราก็มีเกมให้ “แจม-ฟิล์ม” ได้เล่นสนุกๆกันด้วย ชื่อเกมว่า “ท้าพิสูจน์ กฎแรงดึงดูด แห่ง…” (เข้าไปชมได้ใน Youtub : ATIME)
มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการเเล้ว ทางรายการเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “แจม-ฟิล์ม”
To... แจม
ดีใจด้วยที่วันนี้ประสบความสําเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว มีคนรู้จักเยอะขึ้น สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้คือซ่อมแซมบ้านให้คุณย่าได้ ก็คือความพยายามของเเจมนะที่ทำให้เเจมมาถึงตรงนี้ อยากให้ดูแลสุขภาพ พักผ่อนเยอะๆ พร้อมที่จะซัพพอร์ตตลอด
To... ฟิล์ม
อยากจะบอกว่าดีใจมากๆที่ได้เจอนักแสดงเก่งๆอย่างฟิล์ม จากที่ได้ดูรายการอื่นและละคร ทำให้รับรู้ถึงทัศนคติดีๆของฟิล์ม การที่มาซัพพอร์ตพี่ฟิล์มทำให้เป็นคนที่เก่งขึ้น เเละมีความสุขมากขึ้น อยากให้พักผ่อนเยอะ พร้อมซัพพอร์ตเสมอ
“แจม-ฟิล์ม” พูดถึงกันและกัน
ฟิล์ม To เเจม
อยากให้น้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิตให้ถูก เพราะเป็นคนจัดลำดับความสำคัญยังไม่ถูก ทำบางสิ่งบางอย่างคิดว่าสำคัญแล้วไม่ได้นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่มุกคนเป็นห่วงเรื่องการพักผ่อน ทำให้สุขภาพมันเเย่ พูดกับเขาเเล้วไม่ค่อยฟัง ก็ฝากแฟนๆบ้านคู่แล้วก็บ้านแจมเตือนเรื่องการพักผ่อน บางทีปากเขาบอกว่านอนมาเเต่อาการวันนี้มารู้ว่าเมื่อวานอดนอนเรารู้ทันที มันดูออกไม่ยากเลย อันนี้เป็นสิ่งที่ห่วงมากจริงๆ แล้วก็ทุกวันนี้ก็ดีเเล้วอะไรที่มันดีอยู่เเล้วเก็บรักษาไว้ อะไรที่มันไม่ดีเราต้องยอมรับแล้วคอยปรับ เรายอมรับเพื่อให้เราได้เติบโต
แจม To ฟิล์ม
ขอบคุณตลอดเวลา 1 ปีกว่าๆได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะ เขาก็สอนวิธีการตีความตัวละคร แม้กระทั่งมุมกล้องเขาก็จะคอยดูให้ตลอด เขาก็คอยช่วยบอกช่วยสอน เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย
สุดท้ายนี้... EFM Fandom Live ก็ขอขอบคุณ “แจม-ฟิล์ม” ที่มาร่วมสนุกและสร้างเสียงหัวเราะภายในรายการทั้งคู่น่ารักกันมาก ฝากซีรีส์ล่าสุดเรื่อง “Laws of Attraction กฎแห่งรักดึงดูด” ทนายไร้หัวใจและครูผู้ต้องการความยุติธรรมมาปะทะกัน จะเป็นแรงดึงดูดให้พวกเขาใกล้ชิดกันได้อย่างไร? ตามลุ้นกันได้เลย...
สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทาง
เจอกันใหม่ Week หน้าค่าา