คุยกับ fellow fellow ถึง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า

Beauty & Health

คุยกับ fellow fellow ถึง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า

11 ก.ย. 2023

fellow fellow กลับมาลุยงานเพลง ภายใต้ต้นสังกัดใหม่อย่าง Kicks Records พร้อมสองซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ที่ต้องบอกเลยว่า ทันทีที่ปล่อยออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับดีสุด ๆ วันนี้เราเลยขอชวน ข้าว—ปณิธิ เลิศอุดมธนา และ ที—พิษณุ หทัยพัธลักษณ์ จาก fellow fellow มาพูดคุยถึงการทำงานในสองซิงเกิลนี้กัน

 

ช่วยเล่าคอนเสปของเพลง "ดาวหางฮัลเลย์" ให้เราฟังหน่อย

ข้าว – “ผมเป็นคนชอบเรื่องอวกาศอยู่แล้ว แล้วก็พอจะรู้จักดาวหางฮัลเลย์คร่าว ๆ เราได้ยินมาตอนเด็ก ๆ ก็พอจะรู้ว่าเป็นดาวหางที่จะวนมาที่โลกเรื่อย ๆ ซึ่งพอไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ก็รู้ว่ามันจะวนกลับมาให้เห็นด้วยตาเปล่าทุก 75 ปี เลยรู้สึกว่ามันโรแมนติกดี ถ้าเราจะเอามาเปรียบกับเรื่องความรัก มาพูดกับใครสักคนว่า เราอยากจะรอดูดาวหางฮัลเลย์กับเธอจัง มันแปลว่าเราอยากอยู่ไปจนแก่นะ อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ”

เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

ที – “น่าจะประมาณเดือนกว่า ๆ ครับ”

คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้

ข้าว – “คอนเสปนี่แหละครับ ดาวหางฮัลเลย์นี่แหละ”

ที – “ผมว่าน่าจะเป็นช่วงตอนเขียนแหละ”

ครั้งนี้ fellow fellow กลับมาในแนวที่เปลี่ยนไปด้วยใช่มั้ย

ข้าว – “หลายคนอาจจะจำ fellow fellow ว่าทำเพลงเศร้า จริง ๆ แล้วเราก็มีมุมโรแมนติกครับ แค่ยังไม่ได้นำเสนอให้ทุกคนเห็นบ่อย ๆ”

ที – “น่าจะเป็นเพราะว่าเราหายกันไปพักใหญ่ด้วย ปีกว่า ๆ ทุกคนเลยอาจจะมองว่ามันเปลี่ยนไป แต่ผมว่าสไตล์เพลง วิธีการเล่าเรื่อง มันก็คล้าย ๆ กับก่อนหน้านี้ที่เราทำ แต่อาจจะมีสี หรืออะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัย”

ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง "ดาวหางฮัลเลย์"

ข้าว – “มันจะมีท่อนนี้ครับ ผมเขียนว่า ยังมีเพลงรักเป็นพันบทเพลงรอแชร์ให้เธอได้ฟัง ยังไม่รวมถึงลูกที่เราจะมีด้วยกันในอนาคต ที่จะเป็นสัญญาความรักของเรา”

ที – “ตอนแรกที่ข้าวเขียนมา ผมก็ตกใจเหมือนกัน ข้าวมันจะไม่เขินเหรอ ร้องท่อนอะไรแบบนี้”

ข้าว – “ตอนแรก ๆ ก็เขียนไปเขินไป แต่รู้สึกว่ามันต้องใส่ รู้สึกว่าการที่เราพูดกับใครสักคนเรื่องลูก แปลว่าเรามองสเต็ปไปไกลมาก มันมากกว่าความรักทั่วไปละ แสดงว่าเราต้องการที่จะมีเขาในชีวิต”

ที – “ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าเพลงนี้เรามีความเติบโตทางด้านอารมณ์ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น”

มีฟีดแบคจากคนฟัง บอกว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงงานแต่งในอนาคต รู้สึกยังไง

ข้าว – “ดีครับ ยินดีเลยครับ”

มาที่อีกเพลง "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" เพลงนี้เริ่มต้นมาจากอะไร

ข้าว – “มันมาจากการที่ผมคิดว่าเนื้อหาแบบนี้ทุกคนน่าจะเคยผ่านมา ก็คือเราอาจจะเคยมีความทรงจำกับใครสักคน อาจจะเป็นเพื่อนเก่า แฟนเก่า”

ที – “คนที่เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เกินกว่า 3 ปีขึ้นไป อะไรแบบนี้”

ข้าว – “วันนึงเราอาจจะบังเอิญเจอรูปภาพที่ทำให้เราระลึกย้อนเรื่องราวในอดีต แล้วเราอาจจะคิดว่า ตอนนั้นเราก็มีความสุขดีเนอะ ทีนี้ก็อยากจะย้อนถามอีกฝั่งนึงว่า แล้วเธอล่ะ เวลาเธอนึกถึงเรา มันเป็นความทรงจำที่ดีหรือเปล่า ถ้าบังเอิญเจอหน้ากัน เดินสวนกัน เธอจะทักเรามั้ย หรือว่าเธอจะหลบหน้า เหม็นหน้าเรา อะไรแบบนี้อะครับ”

เพลงนี้ได้ guncharlie มาร่วม feat. ด้วย การร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง

ข้าว – “คือน้อง guncharlie เนี่ย เป็นศิลปินร่วมค่ายอยู่แล้ว เป็นศิลปินรุ่นพี่ใน kicks records ครับผม เราเห็นความสามารถของเขาอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นแรปเปอร์ที่มีสไตล์การแรปที่ค่อนข้างเป็นเด็กรุ่นใหม่ แล้วก็คิดว่าน่าจะเหมาะ”

ที – “แล้วเพลงที่เขาปล่อย ๆ มาก่อนหน้านี้ ก็ดูเหมาะกับมู้ดเพลงที่เรากำลังทำอยู่พอดี แล้วด้วยความที่เราก็ย้ายบ้านใหม่มาอยู่ในบ้านเดียวกันด้วย ก็เลยง่ายเลยครับ ก็เลยคุยกับพี่แทนว่าอยากได้น้องกันมาร่วมฟีท”

ข้าว – “ตอนแรกก็คิดถึงคนอื่นเยอะแยะ แต่สุดท้ายก็คุยกับพี่แทนว่าน้องกันเนี่ยแหละ ผมว่าน้องกันน่าจะเวิร์ค”

ที – “พอระบุเป็นน้องกันปุ๊บ เราก็ส่งเดโม่ไปเลยครับ น้องกันก็เขียนกลับมาภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงเลยเนอะ ได้เดโม่แรกกลับมาเลย”

ข้าว – “ใช่ เด็กสมัยนี้ไฟแรง”

ที – “สุดท้ายก็คุยกัน แก้ไปแก้มา ผมก็ทำดนตรีเพิ่ม เหมือนคุยกันว่าอยากได้มากกว่านี้ เพิ่มท่อนมั้ย ผมก็ทำดนตรีเพิ่มส่งกลับไป แป๊บ ๆ ก็ได้กลับมาครบทั้งท่อนหมดเลย”

เพลง "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ใช้เวลาทำนานมั้ย

ข้าว – “มาควบคู่กับดาวหางฮัลเลย์เลยครับ แต่งมาพร้อม ๆ กัน”

ที – “ใช่ ทำในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ก็ประมาณเดือนกว่า ๆ เหมือนกันครับ”

เป็นความตั้งใจของ fellow fellow มั้ย ที่อยากให้สองซิงเกิลที่ปล่อยมาอารมณ์คอนทราสกัน

ข้าว – “จริง ๆ ก็คือความตั้งใจนะครับ จริง ๆ เริ่มเขียนเพลง ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอหรือเปล่า ก่อน เสร็จแล้วก็รู้สึกว่าเราต้องทำเพลงอีกสักเพลงนึง แต่งมาเผื่อ แล้วความรู้สึกมันไม่ควรจะไปซ้ำกับอีกเพลงนึง ก็เลยพยายามแต่งอีกเพลงที่มันแตกต่างออกมา ก็เลยมาเป็นเพลงดาวหางฮัลเลย์”

ตัว VISUALIZER ของทั้งสองเพลง เป็นเหมือนภาคต่อกันด้วยมั้ย

ที – “จริง ๆ ด้วยความที่มันถ่ายพร้อม ๆ กันด้วยแหละครับ แต่วิธีการสื่อสารมันอาจจะไม่ได้ต่อกัน หรือมันอาจจะต่อกันก็ได้นะ แล้วแต่คนตีความ แต่มันเป็นความบังเอิญที่เราถ่ายทำพร้อม ๆ กัน คนแสดงก็ใช้คนเดียวกัน”

 

ทำไมถึงเลือกใช้เป็น VISUALIZER แทนการทำเป็น MV

ข้าว – “ผมรู้สึกว่าผมอยากให้คนฟังเพลงอะครับ ผมอยากให้ภาพ VISUALIZER มันทำหน้าที่เสริมอารมณ์ในการฟังเพลง ให้มันเห็นภาพมากขึ้น แต่ไม่ได้มาแย่งซีนของเพลง”

ที – “เหมือนส่วนใหญ่เวลาเราเห็นคอมเมนต์ของ MV ที่เป็นเส้นเรื่อง หลัก ๆ คอมเมนต์ข้างล่างมันจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งเนอะ มันจะเป็นฝั่งที่เรามาวิเคราะห์เนื้อเรื่องของ MV กัน แล้วอีกฝั่งก็จะคอมเมนต์เรื่องเพลง แต่พอมาเป็น VISUALIZER มันจะตัดเรื่องนั้นออกไป เพราะมันไม่ต้องมีการเชื่อมโยงอะไรทั้งสิ้น คือเราฟังเพื่อเป็นภาพประกอบมู้ดของเพลง”

ข้าว – “คืออยากให้คนฟีลกับภาพ รู้สึกว่าภาพสวย แล้วอารมณ์มันไปกับดนตรีด้วย”

อยากให้ทั้งสองเพลงนี้ เป็นอะไรสำหรับคนฟัง

ข้าว – “ดาวหางฮัลเลย์ ก็อยากให้เป็นเครื่องมือในการที่แบบ ถ้าเราสักใครสักคนนึง ที่เรารู้สึกว่ารักเขามาก ๆ อยากจะอยู่กับเขาไปตลอด เพลงนี้ใช้ได้ ใช้เป็นสื่อ ใช้เป็นเพลงงานแต่งได้ครับ”

ที – “ส่วน ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอหรือเปล่า อาจจะให้เป็นมุมมุมนึงไว้ให้เขาคลายเหงาละกันครับ ผมว่ามันน่าจะเหมาะสมกับแบบนั้นมากกว่า มันจะออกสื่อมากก็ไม่ได้เนอะ”

ข้าว – “อ่า ใช่”

ที – “แต่ถ้าโสดจริง ๆ ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน”

ข้าว – “ถ้าโสดใช้ได้ มีแฟนก็ใช้ได้ แต่ถ้าแฟนถามก็บอกว่าเพื่อนเก่า (หัวเราะ)”

พูดอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตาม fellow fellow อยู่หน่อย

ที – “ขอบคุณแฟนคลับตั้งแต่ยุคดั้งเดิมที่ติดตามกันมาจนถึงปัจจุบัน แล้วใครก็ตามที่ฟังเพลงใหม่ ๆ เรา แล้วก็ โห เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยที่เคยฟัง ก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยครับ มันก็เป็นเหมือนกำลังใจสำหรับเราเหมือนกันนะ เวลามีใครมาคอมเมนต์ หรือว่าโพสต์สตอรีแล้วแท็กบอกเราว่าชอบเพลงนี้มาก ๆ”

ข้าว – “เราเก็บทุกคอมเมนต์ พวกคอมเมนต์ในยูทูปหรือเฟซบุ๊คอะไรแบบนี้ คนทั่วไปอาจจะคิดว่าศิลปินคงไม่ค่อยตั้งใจที่จะดูที่จะอ่าน แต่พวกผมอ่านทุกบรรทัดนะครับ”

ที – “บางทีอาจจะไม่ได้อยากไปตอบมาก เพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวมันอาจจะดูรก แต่ว่าเราอ่านหมด”

สปอยล์งานในอนาคตหน่อย เราจะได้เห็นอะไรจาก fellow fellow อีกบ้าง

ที – “ก็ในปีนี้ คิดว่าน่าจะมีเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลงครับ สปอยล์ได้มากสุดเท่านี้”

ข้าว – “สปอยล์มากกว่านี้ไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ได้ทำ”

ที – “มันก็จะเป็นแนวที่เราทำกันอยู่แล้วอะครับ แต่อกหักหรือสมหวังยังไม่แน่ใจ ให้รอติดตามครับ”

สามารถเข้าไปฟังและชม OFFICIAL VISUALIZER ของทั้ง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ได้แล้ววันนี้ บน YouTube: fellowfellowband และทุกบริการ Music Streaming

related Beauty & Health

Talk with “Jeff Satur” ถึงเบื้องหลังการทำซิงเกิลล่าสุด “Black Tie”

20 ต.ค. 2023

Talk with “Jeff Satur” ถึงเบื้องหลังการทำซิงเกิลล่าสุด “Black Tie”

เมื่อแฟชั่นมาพบกับดนตรี "Jeff Satur" หรือ "เจฟ-วรกมล ซาเตอร์" เซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยซิงเกิลภาษาอังกฤษซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการ "Black Tie" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคอลเลกชัน Black Tie ของ Valentino ซ่อนนัยยะการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองเอาไว้ภายใต้เสียงทรงพลัง และซาวน์ดนตรีอันหนักแน่น เราจึงไม่พลาดชวน เจฟ ซาเตอร์ มาพูดคุยถึงเบื้องหลังในการทำซิงเกิลนี้กันซิงเกิลใหม่ “Black Tie” เริ่มต้นมาจากอะไร“จริง ๆ มันเริ่มมาจากการตั้งคำถามกับสังคม เรื่องของบิวตี้สแตนดาร์ด เจนเดอร์ สแตนดาร์ดต่าง ๆ ที่คนชอบมอบให้กับคนคนนึง ว่า success ต้องเป็นยังไง คนที่สวยงามคนที่ดีต้องเป็นยังไง ก็เลยทำให้เรามีไอเดียตรงนี้อยู่ แล้วพอได้เห็นคอลเลกชัน Black Tie ของ Valentino ก็เลยรู้สึกว่า คอนเสปมันเป็นเรื่องที่เรากำลังคิดอยากจะแต่งเพลงแบบนี้อยู่ เลยกลายเป็นเพลงที่ชื่อว่า Black Tie โดยที่ในเนื้อเพลงจะพูดถึงเรื่องของการตีความคำว่า Black Tie เป็นเรื่องของการที่ต้องอยู่ในกฎระเบียบ การที่ต้องอยู่ในสแตนดาร์ดของอะไรบางอย่าง ที่คนอื่นเป็นคนมาแขวนให้เรา ว่านี่คืออยู่ในกฎระเบียบ ต้องโตแล้ว ต้องทำงาน ต้อง success โดยที่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ เราสามารถมีเส้นทางเป็นของตัวเองก็ได้ มันก็เลยเหมือนคอลเลกชัน Black Tie ที่เป็นการตีความไทด์ในแบบที่ไม่เหมือนกันเลย เป็น Black Tie เหมือนกัน แต่ไม่มี Black Tie ธรรมดาเลย เป็น Black Tie ที่ต่างกันออกไปหมดเลย”สำหรับซิงเกิลนี้ เจฟได้เนื้อร้องหรือเมโลดี้มาก่อน“เป็นเมโลดี้ก่อน ผมขึ้นโครงดนตรีก่อน แล้วผมก็นั่งร้องไปกับดนตรีว่าจะขึ้นว่าอะไรดี ก็เลยขึ้นคำว่า Black Tie มา ที่ใส่ไปตรงท่อนฮุค หลังจากนั้นก็มีท่อนลาลาลาตามมา”เจฟลงคลิปสปอยล์เพลงนี้ใน TikTok ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเลย ตอนนั้นแต่งเสร็จหรือยัง“ตอนนั้นก็ยังแต่งไม่เสร็จครับ เพิ่งเอามานั่งแต่งใหม่ตอนช่วงก่อนจะปล่อยเพลง ตอนแรกก็มีแค่ท่อนนั้นแหละครับ (หัวเราะ)”ใช้เวลาทำเพลงนี้นานมั้ย“จริง ๆ ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนเลย เพราะมี schedule หลายอย่าง ก็เลยทำบ้าง พักบ้าง แต่ว่าตอนที่ทำจริง ๆ ประมาณ 2-3 วัน ก็เสร็จแล้วครับ”ทำไมครั้งนี้ถึงเลือกทำเป็นเพลงภาษาอังกฤษ“ผมรู้สึกว่าอะไรที่มันเป็นครั้งแรก มันควรจะเป็นการบ่งบอกตัวตนเราได้ดีที่สุด ก็เลยกลายเป็นว่า เพลงนี้มันเป็นการรวมกันของแฟชั่น งานศิลป์ วิชวล งานเพลงทั้งหมด แล้วก็เป็นภาษาอังกฤษ ปกติเราก็ฟังเพลงสากลใช่มั้ยฮะ แล้วเราก็อยากจะเขียนเพลงฟีล ๆ แบบนี้มานานแล้ว แล้วก็เล่าเรื่องของตัวเราให้ออกมาชัดที่สุด แล้วผมก็อยากจะเปิดเพลงแรกที่มันเป็นภาษาอังกฤษด้วยเพลงที่ค่อนข้างเร็ว”เจฟได้ใส่เสียงเอื้อนและเสียงดนตรีไทยมาในเพลงด้วย ใช้เครื่องดนตรีชนิดไหน แล้วทำไมถึงเลือกทำออกมาในรูปแบบนี้“ก็จะมีเป็นกลอง คือการที่เราต้องการจะเล่าเรื่องในเพลงสากลเพลงแรก เราอยากให้มันมีความเป็นตัวเรามากที่สุด คือเสียงพวกนี้เราเคยเรียนมาตอนนาฏศิลป์ เราเคยฟังมา ยังไงคนไทยก็ต้องได้ยินอะไรแบบนี้สักครั้งนึงในชีวิต เพราะฉะนั้นการที่เราเล่าเรื่อง แล้วก็การที่เราจะแตกต่างจากคนอื่น สร้างเพลงสากลขึ้นมาโดยที่มันไม่เหมือนใคร มันจะต้องเป็นตัวเองมากที่สุด เล่าเรื่องตัวเองมากที่สุด เราก็เลยเอา element พวกนี้มาใส่”คิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ยากหรือท้าทายที่สุดในเพลงนี้“ผมว่าเป็นการทำเพลงสากลยังไงก็ได้ ที่ไม่ได้เป็นการบังคับให้เมโลดี้ต้องเป็นไปตามคอนเสปของเพลง เพราะว่าพอเราไปอิงคอนเสปมาก ๆ บางทีเราไปยึดเนื้อร้อง จนทำให้เมโลดี้หรือโครงสร้างมันเสียหาย คืออันนี้ผมยึดเมโลดี้หรือดนตรีเป็นหลักไว้ก่อน ส่วนคอนเสปมันจะมาเองในวันที่ดนตรีกับเมโลดี้มันพร้อมแล้ว”เจฟชอบท่อนไหนที่สุดในเพลง ทำไมถึงชอบท่อนนี้“Now I’m in the wedding of my tears and my despair ตอนนี้ผมอยู่ในงานแต่งงานของน้ำตาและความสิ้นหวัง Soon I’d be at the funeral of all the things I care หลังจากนั้นผมจะไปงานศพที่มีแต่สิ่งที่ผมแคร์ เพราะทั้งสองที่ ทั้งงานแต่งงาน และงานศพ เราต่างใส่ Black Tie ครับ”'มีท่อนที่ร้องว่า “Seven years old losing that part of my soul” ทำไมต้องเป็น 7 ขวบ“เพราะว่า 7 ขวบ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของทุกคน ถ้าสมมุติ 7 ขวบที่เราเติบโตมา เราเติบโตมาดี หลังจากนั้นเราจะเป็นคนที่มี positive energy แต่ถ้าเราโตมาแบบครอบครัวทำร้าย โดนกดขี่ ก็จะโตมาอีกแบบ ซึ่งผมรู้สึกว่า 7 ปีมันสำคัญที่สุด ถ้ามันหายไปจากชีวิตเลย ในช่วงเวลาวัยเด็กอะไรแบบนี้ หมายความว่าเราก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความเป็นเด็กเลย ก็ต้องโตแล้ว ต้อง success แล้วก็ไม่มีเวลาที่จะเล่น ไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือความครีเอทีฟเลย”มาที่ MV บ้าง สตอรีของ MV นี้เป็นยังไง“MV นี้ เราจะได้เห็นคนที่ทำตามกันมาก ๆ อย่างแดนเซอร์หลายคนที่ทำท่าคล้าย ๆ กัน เหมือนอยู่ในคำสั่ง อยู่ใน norm ของอะไรบางอย่าง ที่บังคับให้ทุกคนต้องทำตามแบบเดียวกันหมด ส่วนเราก็คือคนที่หลุดออกมาจากกรอบ เราอยู่อีกที่นึงกับพวกเขาแล้ว เรา wear my own black tie เราเลยไม่จำเป็นต้องทำตามใคร เป็นมาสเตอร์ เหมือนพอคนที่มันหลุดออกมา มันก็จะมีคนที่จะตามคนเหล่านั้นไป เพราะฉะนั้นจริง ๆ สแตนดาร์ดมันไม่มี มันมีแค่ว่าสแตนดาร์ดที่เราถูกสร้างขึ้นมาจากคนที่แยกออกมาจากสแตนดาร์ดเก่า มันก็จะกลายเป็นสแตนดาร์ดใหม่ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องแคร์เรื่องสแตนดาร์ด ฉะนั้นในแต่ละพาร์ทของ MV มันก็จะมีสัญลักษณ์หรืออะไรบางอย่างที่บ่งบอกเรื่องนั้น”ลุคใน MV ดีทุกลุคเลย มีลุคไหนเป็นลุคโปรดของเจฟมั้ย“สองลุคที่ Valentino เขา customize ให้แล้วกัน Pierpaolo เป็นคนที่ลงมาดูงานตรงนี้ด้วยตัวเอง แล้วก็มันเป็นเกียรติมาก ๆ ที่จะมีชุด customize ของตัวเอง มีชื่อ Jeff Satur อยู่บนหลัง เป็นอะไรที่ภูมิใจมาก ๆ ครับ”มีเรื่องเล่าสนุก ๆ หรือเรื่องเซอร์ไพรส์อะไรตอนถ่าย MV บ้างมั้ย“เรื่องเซอร์ไพรส์นี่เล่าทุกที่เลย เป็นเรื่องระหว่างถ่ายทำครับ ซีนสุดท้าย เพราะว่ามันหมดเวลาแล้ว จะไปถ่ายอีกซีนนึงที่ต้องย้ายโลไปถ่าย แล้วมันใกล้จะเช้าแล้วด้วย เราก็เลยตัดสินใจถ่ายซีนสุดท้ายเป็นซิงค์เอา แล้วถ้าถ่ายซีนสุดท้ายเป็นซิงค์เอามันก็จะแห้งมาก ๆ เพราะว่ามันจะไม่มีอะไรเลย แต่ปรากฏว่าอยู่ดี ๆ ฝนตก ฝนตกในซีนแรก ตอน verse มาตกปรอย ๆ แล้วไดเรคเตอร์เขาก็ถามว่า เจฟไหวหรือเปล่า แต่ก็ถ่ายต่อไปเรื่อย ๆ เพราะผมคิดว่ามันคงจะดีถ้ามันมีฝนตก ช่วงท่อนฮุคแรกก็ฝนตกหนักประมาณนึง แล้วก็หายไปในช่วงท่อน verse 2 ตามดนตรี พอดนตรีหนักขึ้น ฝนก็ตกหนักขึ้นตามดนตรี จนสุดท้ายก็คือตกหนักเลย แล้วพอถ่ายเสร็จฝนก็หยุดตกเลย ตกแค่ในจังหวะ 2 นาทีนั้นที่เราถ่าย”ก็คือสมฉายาลูกพระพิรุณ“ครับ (หัวเราะ)”ซิงเกิลนี้ก็ซิงเกิลที่ 8 แล้ว ยังไม่มีเพลงรักที่สมหวังเลย ในอนาคตจะมีมั้ย“มีแน่นอนครับ อาจจะเป็นซิงเกิลต่อไปก็ได้”มีแพลนจะรวมเป็นอัลบั้มเต็มมั้ย จะปล่อยออกมาช่วงไหน“น่าจะช่วงต้นปีหน้าครับ ตอนนี้เพลงใกล้ครบแล้ว”บอกได้มั้ยว่าจะมีทั้งหมดกี่เพลง“น่าจะประมาณ 12 เพลงครับ”พูดอะไรถึงคุณวันเสาร์ที่ติดตามเจฟอยู่หน่อย“อยากขอบคุณจริง ๆ เพราะตอนนี้เราก็อยู่กันมานานมาก บางคนก็เพิ่งได้รู้จักกัน ก็ขอบคุณที่สนับสนุนมาโดยตลอด ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราสามารถสนุกไปด้วยกันได้อีก มีอีกหลายโปรเจคที่ยังพูดไม่ได้ แล้วก็เป็นอะไรที่ผมตื่นเต้นด้วย แล้วก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง แล้วเราสนุกไปด้วยกัน journey ไปด้วยกันครับ”ฝากอะไรถึงคนที่กำลังทำตามความฝันแบบเจฟหน่อย“ผมเคย give up ไปหลายรอบแล้ว แล้วก็มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะ give up เราก็เป็นมนุษย์ ถ้าเราทำไปแล้วมันไม่ work สักที อยากให้มองว่าความฝันมันค่อย ๆ ทำไปได้ มันไม่จำเป็นต้องอายุเท่านี้อายุเท่านั้นถึงจะทำสำเร็จ แล้วถ้าทำไม่สำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องผิดหวัง ความฝันมันไม่จำเป็นต้องมีแค่อันเดียวนะครับ เราอาจจะทำอย่างอื่นด้วยก็ได้ แต่ลองทำมันดูก่อน แต่ถ้าเฟลก็ไม่เป็นไรนะ ผมก็เคยคิดอย่างนั้นแหละ มันก็เลยไม่มีแรงกดดัน แล้วก็ทำไปดู ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้เจฟมีอะไรให้ติดตามกันบ้าง“ก็มีเพลง Black Tie นะครับ ฟังได้ใน YouTube และทุก Music Streaming แล้วก็มี Wuju Bakery เป็นซีรีส์ที่ไปถ่ายที่ประเทศเกาหลีกับบาร์โค้ด แล้วก็หนังกับ GDH น่าจะเป็นช่วงปีหน้า แล้วก็อัลบั้ม สุดท้ายจะเป็นทัวร์ 6 ประเทศ อ่อ แล้วก็มี Call Me by Fire เป็นเรียลลิตี้ที่จีน กำลังออนแอร์อยู่ครับ”ทำหลายอย่างมาก เจฟได้นอนมั้ย“ไม่ค่อย นี่ก็อยากนอนอยู่ แต่กินกาแฟดำไปแล้ว ก็เลยนอนไม่ได้แล้ว (หัวเราะ)”สุดท้าย บอกเราหน่อยว่า “Black Tie” ในแบบของ “Jeff Satur” เป็นยังไง“Black Tie ในแบบของเจฟ คือ Black Tie ที่ไม่เหมือนคนอื่นเลย แล้วผมก็อยากให้ทุกคนมี Black Tie ที่ไม่เหมือนคนอื่นเลย เพราะว่า Black Tie ที่สวยงามที่สุด ก็คือ Black Tie ในแบบของเรา อะไรก็ตามที่เรามองกระจกแล้วรู้สึกว่ามันดูดีที่สุด มันก็ดูดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องดีที่สุดสำหรับคนอื่น แต่ดีที่สุดสำหรับเรา เราเป็นสแตนดาร์ดของตัวเอง”

นนท์ ธนนท์ กลับมาอีกครั้งกับคอนเสิร์ตใหญ่ NONT EP.02 SO SERIOUS จริงๆจังๆ CONCERT

12 ก.ค. 2023

นนท์ ธนนท์ กลับมาอีกครั้งกับคอนเสิร์ตใหญ่ NONT EP.02 SO SERIOUS จริงๆจังๆ CONCERT

นนท์ ธนนท์ เตรียมจัดเต็มกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกที่ อิมแพ็ค อารีน่า กับ “MITSUBISHI ELECTRIC Mr.SLIM Presents NONT EP.02 SO SERIOUS จริงๆจังๆ CONCERT” คอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบที่จริงจัง จัดใหญ่ จัดเต็ม และ SO SERIOUS กว่าครั้งไหนสำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ นนท์เล่าว่า “เป็นการต่อยอดมาจาก EP.01 โดยรวบรวมไอเดียจากทีมงานด้วย ว่าถ้าเราทำคอนครั้งต่อไป อยากให้จริงจังขึ้นหน่อย ถ้าจะจริงจัง ก็เลยให้ชื่อจริงจังไปเลย EP.02 ก็เริ่มมาจากตรงนั้น ในส่วนของชื่อ จริงๆจังๆ แค่รู้สึกว่าอยากให้ซีเรียสขึ้น แต่ถ้าใช้ชื่อจริงจังเลย มันจริงจัง แต่พอเป็น จริงๆจังๆ มันดูไม่ค่อยจริงจัง ซึ่งมันเป็นการย้อนแย้งบางอย่างของ wording แค่ 4 พยางค์ ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวเรา”“ในปีที่แล้วเรามีเกสต์เยอะมาก ทำให้ตัวผมมีเวลาในการเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าห้องน้ำ ทานอาหาร ตักบุฟเฟต์ ในช่วงที่เกสต์เล่น ก็รู้สึกว่าชอบระบบนี้ ผมชอบการได้เดินแล้วก็เลือกแบบไม่ต้องรีบ ได้ตักบุฟเฟ่ต์กินข้างหลัง เกสต์ก็ให้รอติดตามกัน ซึ่งก็เห็นแฟน ๆ ที่เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันกันอยู่เยอะ จริง ๆ ในรูปที่เราโพสต์ไปก่อนหน้านี้ เราพยายาม hint หลาย ๆ อย่างไปในนั้น ก็ลองไปสืบกันดู แต่เท่าที่ผมดูฟีดแบคนะ ยังไม่ถูกอยู่เยอะ”“จากครั้งที่แล้ว ที่เราเล่นที่เล็กกว่านี้ ก็ยังเอาสลิงไปโหนได้เลย เพราะฉะนั้นการขยายมาที่ Impact Arena เมืองทองธานี ก็น่าจะมีไอเดียที่มันพิเรนทร์ ๆ อยู่ จากทีมโปรดักชัน ผมก็สนุกไปกับมันเหมือนกัน ในความรู้สึกผมมันกดดันอยู่แล้ว มันใหญ่ขึ้น มันกว้างขึ้น โดยส่วนตัวผมชอบเล่นในที่ที่มันกำลังพอดี ๆ แต่ในปีที่แล้วเราก็เล่นที่ Impact Arena เมืองทองธานี มาหลายรอบมาก เป็นเกสต์คอนเสิร์ต มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราคุ้นชินกับที่นี่ด้วย หวังว่าแฟน ๆ จะมากัน หลัก ๆ คือเรารับฟีดแบคจากคนดูด้วย ว่าขอที่ที่ใหญ่กว่านี้ เราก็สนองให้”เรื่องราคาบัตร “ตัวผมพยายามให้เข้าถึงง่าย เพราะตัวเราในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เจอความหลากหลายของแฟน ๆ ที่เป็นเด็ก ๆ เลย ที่เป็นผู้ใหญ่เลย ผมเลยรู้สึกอยากทำราคาบัตรที่ทุกคนเข้าถึงได้ ให้เงินตรงนั้นไปใช้กับการเดินทาง โรงแรม ที่พัก”“นี่เป็นการกลับมาใน EP.02 เต็มรูปแบบมากขึ้น ใหญ่มากขึ้น นั่งได้เยอะมากขึ้น ราคาย่อมเยาว์มากขึ้น เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ยังไงก็มาเจอกันได้ครับ เราเล่นคอนเสิร์ตถึง 2 เดือนด้วยกัน เราเล่น 2 เดือนนะครับ แต่เดือนละวันเท่านั้นเอง เราเล่นวันแรกนะครับ 30 กันยา นั่นคือเดือนแรกนะครับ แล้วก็เล่นเดือนถัดไปเลย ก็คือวันที่ 1 ตุลานะครับ 2 รอบการแสดงด้วยกัน คิดว่าไม่น่าเพิ่มแล้ว เพราะน่าจะปวดหลัง”พร้อมทิ้งท้ายถึง EP.03 ว่า “ผมว่าผมจะขายบัตรวิ่งนะ ให้วิ่งดู เหนื่อยก็ take out ออกไปเลย หน้าที่ของเวทีก็คือหมุน คุณอยากดูข้างหน้า คุณต้องวิ่งให้ทัน ซึ่งผมว่าจะเป็นมหกรรมคาดิโอที่ดีมาก ๆ ผมอาจจะครอสกับพี่เบเบ้ก็ได้ ทำ T25 ด้วยก่อนที่จะเริ่มคอนเสิร์ต”เตรียมตัวให้พร้อม วอร์มนิ้วให้ดี จัดเต็ม 2 รอบการแสดง วันเสาร์ 30 กันยายน 2566 และ วันอาทิตย์ 1 ตุลาคม 2566 Impact Arena เมืองทองธานี บัตรราคา 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,800 บาท จำหน่ายบัตรวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 ทาง The Concert Application#NONTEP02จริงๆจังๆConcert#NONTTANONT#LOVEiSENTERTAINMENT

Talk with "PAWAE" ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด "แพ้หว่ะ"

26 ก.ย. 2023

Talk with "PAWAE" ถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลล่าสุด "แพ้หว่ะ"

PAWAE (พาแว) หรือ แพรวา - แพรรุจิรา โกมลารชุน จากค่าย kiddo records กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลล่าสุด "แพ้หว่ะ" แต่งมาจากความรู้สึกของพาแว ที่ไม่อยากแข่งกับใคร แค่แข่งกับใจตัวเองให้ไหวก็พอ วันนี้เราได้ชวนพาแวมาร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้กันเพลง "แพ้หว่ะ" เริ่มต้นมาจากอะไร“เริ่มมาจากช่วงชีวิตนึงที่รู้สึกว่าเราแพ้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องความรัก รู้สึกว่าเราท้อด้วย บวกกับชื่อแพรวา ก็สามารถเล่นเสียงเป็นแพ้หว่ะได้ด้วย ก็เลยได้มาเป็นไอเดียนี้ค่ะ”เพลงนี้ได้ลงมือเขียนเองด้วยใช่มั้ย“จริง ๆ ช่วยกันเขียนกับพี่ตูน Three Man Down แล้วก็พี่ไมโล Tilly Birds ด้วยค่ะ”การร่วมงานกันกับพี่ ๆ ทั้งสองคนเป็นยังไงบ้าง“ดีค่ะ สนุก แล้ว process การทำงานก็โอเคเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเกร็ง ๆ แต่พอมาทำงานจริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าพี่เขาน่ารัก เป็นกันเองมาก เวลาเล่าเรื่องอะไรให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจในมุมเราด้วย แล้วก็เหมือนทำเพลงออกมาให้เป็นตัวหนูมากที่สุด”คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้“ยากที่สุดน่าจะเป็นดนตรี จริง ๆ เนื้อเพลงมันค่อนข้างจะไปทางเศร้า ท้อ ๆ นิดนึง แต่ว่าพอมาทำเพลง ก็คิดว่าอยากทำเป็นแนวร็อค การทำดนตรีมันก็เลยยากนิดนึง กว่าจะออกมาเป็นผลงานไฟนอล ก็คือต้องมีเป็นดราฟหลาย ๆ อัน เปรียบเทียบกัน”ซิงเกิลนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย“ไม่นานค่ะ ประมาณ 2 วัน จริง ๆ เพลงนี้มันเป็นโปรเจคที่เคยพับเอาไว้ แล้วก็ปล่อยเพลงอื่นไปก่อน”ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง“ชอบท่อนฮุคค่ะ แค่เพียงสักครั้ง ที่เธอจะมองที่ฉัน”ปกติเรามักจะแพ้กับเรื่องอะไร“ก็มักจะแพ้กับเรื่องความรัก เรื่องการเรียน อะไรแบบนี้ค่ะ”แล้วมีเรื่องอะไรบ้างที่รู้สึกว่าเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด“น่าจะเรียนการเรียนค่ะ เพราะรู้สึกว่าชอบเอาชนะด้วย เหมือนเราก็จะพยายามเต็มที่ของเรา ไม่อยากให้ใครมามองว่าเราทำไม่ได้”ลุคใน MV ออกแนวพังค์นิด ๆ เรามีส่วนร่วมในการออกไอเดียมั้ย“มีส่วนร่วมด้วยค่ะ จริง ๆ ผู้กำกับเขาก็จะมีเป็นไอเดียอยู่แล้วว่าอยากจะได้ประมาณนี้ หนูจะมีส่วนว่าตรงนี้ขอเอาออกได้มั้ย อยากแต่งหน้าประมาณนี้นะ”ปกติแล้วสไตล์จริง ๆ ของตัวเองเป็นแบบไหน“จริง ๆ ก็คล้าย ๆ ใน MV นะคะ หนูว่าหนูเป็นคนสองคาแรคเตอร์ เวลาทำงานทั่วไป ไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ก็จะแต่งตัวชิล ๆ หน่อย แต่ว่าถ้าขึ้นคอนเสิร์ตก็จะเป็นแนวร็อคไปเลย เวลาขึ้นคอนเสิร์ตก็อยากให้คนเห็นตัวตนที่แท้จริงของเราแบบชัด ๆ เลย”พาแวหุ่นดีมาก มีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองมั้ย“จริง ๆ เคยออกกำลังกายอยู่ช่วงนึงค่ะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ออก แต่ว่าจะคุมอาหาร ไม่กินของทอด แต่หนูเป็นคนที่ค่อนข้างเผาผลาญดีอยู่แล้ว เหมือนเป็นคนที่กินแล้วไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่ จริง ๆ อยากให้อวบขึ้นกว่านี้ พยายามสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเป็นคนขี้หนาวค่ะ”เพลงของพาแวจะชอบมาในแนวรักไม่สมหวัง ซิงเกิลต่อไปจะมีเพลงรักสมหวังบ้างมั้ย“อาจจะมีในอนาคตค่ะ จริง ๆ ส่วนนึงที่ปล่อยเพลงแนวนี้ออกมา เพราะเพลงทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจะเป็นคอนเสป Loser อะค่ะ เป็นคอนเสปแบบเราแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้ในรูปแบบ มีแฟนแล้วแฟนติดเพื่อน หรือว่ามีมือที่สาม หรือเรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่า รวมไปถึงเพลงนี้ ที่ว่าเราแพ้ตัวเองนะ แล้วเราก็แพ้คนอื่นด้วย ตอนนี้กำลังจะทำ EP Album ด้วยค่ะ ก็เลยอยากคงคอนเสป Loser”มีแพลนจะรวมเป็นอัลบั้มด้วย จะปล่อยช่วงไหน“เป็น EP Album แบบมินิอัลบั้มค่ะ จริง ๆ ยังไม่มีกำหนดการที่สามารถบอกได้ แต่ว่าน่าจะภายในปีนี้”จะมีซิงเกิลเพิ่มด้วยมั้ย“มีเพลงนึงค่ะ จริง ๆ แอบปล่อยเป็นอะคูสติกเวอร์ชั่นไปแล้ว ชื่อเพลงจมอยู่กับน้ำตา”ฝากอะไรถึงคนที่กำลังอยู่ในสถานะคนแพ้แบบในเพลง "แพ้หว่ะ" หน่อย“สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร หรือรู้สึกว่ากำลังแพ้อะไรก็แล้วแต่ จริง ๆ แล้วเราก็ปล่อยจอยไปก็ได้ค่ะ อย่างของหนูที่รู้สึกว่ามันช่วยมาก ๆ ก็คือปล่อยจอย ชิล ๆ ไป เราไม่จำเป็นต้องชนะทุกเรื่องก็ได้ ถ้าใครกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ”สุดท้าย อยากให้เพลง “แพ้หว่ะ” เป็นอะไรสำหรับคนฟัง“อยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนสำหรับคนฟังค่ะ เป็นเพลงที่จะอยู่กับคนฟังในวันที่รู้สึกว่าท้อ แต่ว่าเราจะไม่ถอยนะ”

Talk with Whal & Dolph ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai)

23 ก.พ. 2024

Talk with Whal & Dolph ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai)

Whal Dolph ปล่อยซิงเกิลใหม่รับวาฬเลนไทน์ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai) ที่ได้ชาวปลามาเติมความพิเศษให้ซิงเกิลนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงได้ชวน ปอ-กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ และ น้ำวน-วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ มาพูดคุยถึงเรื่องราวการทำงานในซิงเกิลนี้กันซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” เริ่มต้นมาจากอะไรปอ – “มันเริ่มต้นมาจากช่วงนั้นผมกำลังจะแต่งงาน ผมก็เลยคิดว่าอยากจะมีเพลงสักเพลงนึง ไว้ถามภรรยาของผม ว่าเขาดีใจหรือเปล่าที่ได้เจอกับผม ดีใจหรือเปล่าที่ได้รักผมคนนี้ ก็เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา”คิดว่า "ดีใจรึเปล่า" มีความโดดเด่นหรือแตกต่างจากเพลงรักเพลงก่อน ๆ ของ Whal Dolph มั้ยปอ – “เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เราได้ร่วมงานกับเพื่อนเรา เป็นโปรดิวเซอร์คนนึง ตอนแรกเขามาเที่ยวบ้าน แล้วเราก็บอกว่า เราอยากทำเพลงที่มีกรู๊ฟ มีความโมทาวน์เล็ก ๆ แล้วเพื่อนเราก็บอกได้ ๆ งั้นพวกเอ็งแต่งมา แล้วเดี๋ยวเขาไปขึ้นเบสขึ้นกลอง เขาก็ทำเบสทำกลองมาให้เรา ซึ่งมันก็ตรงใจกับเรา เราไม่เคยทำเพลงที่กรู๊ฟประมาณนี้ ถ้าถามความโดดเด่นในด้านดนตรี คือมันจะฟังเพลิน มีความโยกได้เบา ๆ ประมาณนี้”อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในขั้นตอนการทำเพลงนี้น้ำวน – “ตอนแรกผมว่าพาร์ทที่ยากที่สุดคือพาร์ท rhythm ของเพลงนี้แหละครับ ตอนแรกเราทำมารอบนึงละ แล้วเรารู้สึกว่าเฉย ๆ ไม่ได้ชอบ จนมีเพื่อนคนที่ปอบอกเมื่อกี้อะครับมาช่วย มันก็ทำให้ทุกอย่างมันดูลงตัวมากขึ้น”ทั้งคู่ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลงน้ำวน – “ผมชอบท่อนโซโล่ครับ มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน คือการโซโล่คู่กัน”ปอ – “ซึ่งมันเป็นไอเดียของเพื่อนเราที่ชื่อบิลลี่คนนี้แหละครับ บอกว่าอยากให้ปอกับน้ำวนโซโล่คู่กันให้ดูหน่อย มันอยากเห็น ซึ่งเราไม่เคยคิดเลยนะ”น้ำวน – “ใช่ เราไม่เคยทำเลย”ปอ – “ส่วนผม ถ้าเป็นเนื้อเพลงนะ จริง ๆ ชอบทุกท่อนเลย แต่ถ้าให้เลือกมาอันนึงนะ ชอบท่อน ‘ให้เธอได้รักไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเสียใจ โปรดรู้ว่ารักครั้งนี้จะไม่ยากสักเท่าไร ดีใจรึเปล่า’ มันความรู้สึกแบบ เธอไม่ต้องกลัวกับความรักครั้งนี้แล้ว เพราะมันไม่ยากหรอก อะไรประมาณนี้”มาที่พาร์ท MV กันบ้าง MV นี้สตอรีเป็นยังไงน้ำวน – “เป็นเรื่องราวของแฟนเพลงของเราครับ คนที่อยู่ใน MV เรา คือแฟนเพลงเราจริง ๆ ที่เราคัดเลือกเขาเข้ามาด้วยการเล่นกิจกรรม ให้เขาพาคนที่รู้สึกดีด้วยในความสัมพันธ์ของคุณมา ซึ่งก็จะมีมาหลายรูปแบบเลย เพื่อน พี่น้อง คู่รัก สัตว์เลี้ยง ให้เขามานั่งฟังเพลงด้วยกัน แล้วเราก็เก็บรีเอคชันเขาว่ารู้สึกยังไงกับการฟังเพลงครั้งแรก”ปอ – “เรามีกิจกรรมให้แฟนเพลงส่งคำตอบมา ถ้าได้มาฟังเพลงใหม่ และอยู่ใน MV ของ Whal Dolph คุณอยากพาใครมา ด้วยเหตุผลอะไร ก็มีส่งมา 500-600 คน แล้วเราก็คัดเลือกจากข้อความที่เราชอบที่สุด”บรรยากาศการถ่ายทำเป็นยังไงบ้างน้ำวน – “เท่าที่ดูคร่าว ๆ นะครับ คือผมอยู่แหละ แต่เขาไม่ได้ผมลงมา คือมันจะมีชอตที่เซอร์ไพรส์แฟนเพลง คือให้พวกผมเล่น ก็ดูชื่นมื่นดีนะครับ ทุกคนก็พาคนรู้ใจมา ทุกคนก็คุยกัน เฮฮา”ชอบซีนไหนที่สุดใน MVปอ – “ชอบซีนสุดท้าย ที่เป็นข้อความขึ้นตรงคน เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากมา มันคือเหตุผลจริง ๆ ที่เขาเขียนมา แล้วเราเอามาขึ้นตรงนั้นตอนท้าย ไปจนถึงตอนจบ แล้วก็มีคู่สุดท้ายที่เขากำลังจะแต่งงานกันเพราะของเรา เราก็รู้สึกเรามีประโยชน์ดีนะ ภูมิใจ”ขอ 1 ประโยคบอกรัก ที่ไม่มีคำว่ารักน้ำวน – “กินข้าวหรือยัง”ปอ – “เป็นไงมั่ง”ความรักที่ดี ในมุมมองของ Whal Dolph เป็นยังไงปอ – “ความรักที่ให้อภัยกันได้ เข้าใจกัน แล้วก็มีเวลาให้กัน มีที่ว่างให้กัน สำหรับผมมันก็คือเป็นความรักที่ดีแล้วครับ”อยากร่วมงานกับใครบ้างมั้ยในอนาคตปอ – “ถ้าสักคนนึงในชีวิตอะ ผมอยากร่วมงานกับพี่ปาล์มมี่นะ ผมชอบเขามาก ทั้ง performance ทั้งเพลงของเขา ผมรู้สึกว่าถ้าไปถึงจุดนั้น แล้วเราสามารถเขียนเพลงขึ้นมาเพลงนึง แล้วให้พี่ปาล์มมี่มาร้องเพลงกันเราได้ น่าจะฟินมากเลย”น้ำวน – “พี่โป่ง หินเหล็กไฟ ละกันครับ ชอบมากส่วนตัว”เป็นธรรมเนียมของ Whal Dolph ใช่มั้ย ที่จะปล่อยเพลงใหม่ทุกวาเลนไทน์ปอ – “ใช่ครับ หนึ่งในการปล่อยเพลง จริง ๆ เราปล่อยทั้งปี แต่คนชอบคิดว่าเราปล่อยแค่วาเลนไทน์ ห้ามใช้คำนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวเพลงอื่นจะไม่มีคนฟัง (หัวเราะ) ปล่อยทั้งปีนะครับ แต่วาเลนไทน์เราก็จะปล่อยเป็นซิงเกิลเปิดปีในทุก ๆ ปี แต่ถ้าปีไหนเราทำไม่ทันจริง ๆ เราก็จะบอก อย่างปีที่แล้วเราทำไม่ทัน เราก็จะบอกว่าไม่มีนะปีนี้ ไม่ต้องรอ”พูดอะไรถึงชาวปลาที่ติดตาม Whal Dolph กันอยู่หน่อยปอ – “สำหรับชาวปลาทุกคนที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้นะครับ ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แปลว่าคุณเป็นแฟนปลาตัวจริง เพราะคุณอ่านมาจนจบ ต้องขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่กับเราตั้งแต่วันที่คุณรู้จักเรา จนกระทั่งวันนี้ บางคนตามมานาน หรือว่าบางคนเพิ่งมาติดตามกัน แต่ไม่เป็นไรเลย ขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณในทุก ๆ ข้อความที่ส่งมา ทุก ๆ การมาดูของคุณ มันมีความหมายนะครับกับวงดนตรีวงนึง แค่คุณมาดู แค่คุณแชร์เพลงของเรา หรือแค่คุณคอมเมนต์ มันต่ออายุชีวิตของวงดนตรีวงนึงได้จริง ๆ ก็ขอบคุณที่เกิดมาเป็นแฟนเพลงของพวกเราครับ”