เช็คลิสต์ 6 สัญญาณ Toxic Relationship ต้องรีบออกมาให้ไว

Movie & Trend

เช็คลิสต์ 6 สัญญาณ Toxic Relationship ต้องรีบออกมาให้ไว

26 พ.ค. 2023

Toxic Relationship คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้ที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ และที่น่าเศร้าคือ บางครั้งหลายคนก็ไม่รู้ตัวด้วย ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับ Toxic Relationship อยู่ ได้แต่หลอกตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองตกอยู่ใน Toxic Relationship หรือไม่ เราขอแนะนำให้มาเช็คลิสต์ 6 สัญญาณอันตรายของความสัมพันธ์ที่เป็นพิษไปพร้อม ๆ กัน จะได้รีบหนี ก่อนจะสายเกินไป

  • ไม่เคยเชื่อใจ ระแวงกันตลอด

ความสัมพันธ์แบบที่ต่างคนต่างไม่เชื่อใจกัน พูดอะไรไปก็ต่อมเอ๊ะทำงานตลอด จะต้องคอยระแวง มีพิรุธ มีเรื่องให้สงสัย หรือจับผิดอยู่เสมอ มันถือเป็นความสัมพันธ์ที่เหนื่อย เหนื่อยทั้งคนคอยระแวง เหนื่อยทั้งคนถูกจับผิด ซึ่งนี่เป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ไม่เฮลตี้เอาซะเลย เพราะถ้าความสัมพันธ์มันดี จะต้องไม่มีใครต้องมาคอยหวาดระแวง หรือไม่เชื่อใจใครกันแบบนี้หรอกนะ

  • โดนบงการ ไม่มีอิสระ

เคยมั้ย จะไปไหนต้องรายงาน อยู่กับใครบ้างก็ต้องถ่ายรูปส่ง กลับกี่โมงก็ต้องเป๊ะ หรือแม้แต่เรื่องการแต่งตัว ก็ถูกบังคับให้ใส่ตามที่อีกฝ่ายต้องการ แทนที่จะได้แต่งตัวสนุก ๆ ตามใจตัวเอง การโดนบงการ ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิตแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนถึงความ Toxic เพราะจริง ๆ แล้วคนเราคบกัน ก็ควรอยู่ในความสัมพันธ์ที่พอดี ไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ ถ้าไม่สามารถเป็นตัวเองได้แบบนี้ ถึงเวลาที่ต้องคิดแล้วว่าควรที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ต่อไปมั้ย

  • ถูกโยนให้เป็นคนผิดตลอด

เป็นปกติอยู่แล้วสำหรับทุกความสัมพันธ์ ที่จะต้องมีกระทบกระทั่ง มีปากมีเสียงกันบ้าง แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ ทะเลาะกันทีไร ดันถูกโยนให้เป็นฝ่ายผิดตลอดนี่สิ โดยปกติแล้วเวลาทะเลาะกัน ก็ควรคุยกันด้วยเหตุผล ถูกผิดก็ว่ากันไปตามนั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทำอะไรก็ผิด เป็นฝ่ายผิดเสมอ แบบนี้มันคืออีกหนึ่งสัญญาณของ Toxic Relationship แล้วล่ะ

  • ขุดเรื่องในอดีตมาพูดเสมอ

เรื่องราวความผิดพลาดที่เราอาจจะเคยทำไว้ แทนที่จะปล่อยให้มันเป็นเพียงเรื่องในอดีต เรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วมูฟออน อยู่กับปัจจุบัน กลับกลายเป็นถูกหยิบเรื่องในอดีตเหล่านั้น มาพูดมาตอกย้ำให้รู้สึกผิดอยู่เสมอ โดนแค่บางครั้งก็พอทน แต่ถ้าโดนแบบนี้บ่อย ๆ ก็ต้องถามตัวเองแล้วแหละ ว่าจะเลือกเดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่มัน Toxic แบบนี้ได้หรือยัง

  • ทะเลาะกันทีไร ขู่จะเลิกทุกที

ทะเลาะกันแต่ละที แทนที่จะหันหน้าคุยกันด้วยเหตุผล กลับเอะอะก็ขู่จะเลิก จริง ๆ การบอกเลิกไม่ใช่คำตอบของปัญหาไปซะทุกครั้ง ถ้าไม่ได้ถึงจุดที่ประคับประคองความสัมพันธ์ไปไม่ไหวจริง ๆ ไม่ควรเอาเรื่องใหญ่อย่างการบอกเลิกมาเป็นใช้พร่ำเพรื่อ ถ้าหยิบเรื่องการเลิกกันมาใช้ในทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ถึงจุดนึงมันก็จะถึงเวลาแล้วล่ะที่ต้องเลิกกันจริง ๆ สักที

  • ใช้ความรุนแรง ลงไม้ลงมือ

สัญญาณที่ถือว่าเป็น Red Flag ต้องหนีให้ไว คือเมื่อเกิดการใช้ความรุนแรงต่อกัน ถ้าเริ่มมีการลงไม้ลงมือกันเมื่อไหร่ ให้คิดไว้เสมอว่า มีครั้งแรกได้ ก็ต้องมีครั้งต่อ ๆ ไปได้เหมือนกัน ไม่ควรมีใครต้องเจ็บตัวจากการโดนทำร้ายโดยคนที่อ้างว่ารัก เพราะคนที่รักกันจริง ๆ เขาจะถนอมเรา ไม่ทำให้เราเจ็บทั้งจากคำพูดและการกระทำตั้งแต่แรก

related Movie & Trend

8.8 ฮะจิบัง ราเมน เดย์ ราเมนทุกชาม 88 บาท วันเดียวเท่านั้น!

07 ส.ค. 2023

8.8 ฮะจิบัง ราเมน เดย์ ราเมนทุกชาม 88 บาท วันเดียวเท่านั้น!

ใครเป็นคอราเมน ห้ามพลาด! 8.8.2023 วันเดียวแห่งปี อร่อยสุดคุ้ม พบกับโปรโมชันสุดพิเศษ ฮะจิบัง ราเมน เดย์ “ราเมนทุกชาม 88 บาท” เท่านั้นชอบเมนูไหน สั่งได้ไม่อั้น ทุกชมราคาเดียว เพียง 88 บาท โปรโมชันนี้เฉพาะทานที่ร้านฮะจิบัง ราเมน ทุกสาขา และซื้อกลับบ้าน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ตลอดทั้งวัน

LGBTQ+ Pride Flags and What They Stand For

13 มิ.ย. 2025

LGBTQ+ Pride Flags and What They Stand For

LGBTQ+ Pride Flags ธงไพรด์ถูกสร้างขึ้นในปี 1978 โดย Gilbert Baker ตามคำขอของ Harvey Milk เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจของ LGBTQ+ โดยแต่ละสีมีความหมายธงไพรด์ (Pride Flag / Rainbow Flag)ความหมาย: ตัวแทนของ LGBTQ+ ทั้งหมดสี: ชมพู (เพศ), แดง (ชีวิต), ส้ม (เยียวยา), เหลือง (แสงแดด), เขียว (ธรรมชาติ), ฟ้าน้ำทะเล (ศิลปะ/เวทมนตร์), คราม (ความสงบ), ม่วง (จิตวิญญาณ)ธงฟิลาเดลเฟียไพรด์ (Philadelphia Pride Flag)ความหมาย: เน้นการเรียกร้องสิทธิของ LGBTQ+ ที่เป็นคนผิวสีProgress Pride Flag (เวอร์ชันรวม Intersex)สีใหม่: วงกลมม่วงบนพื้นเหลือง (แทนอินเตอร์เซ็กซ์)ความหมาย: รวมความหลากหลายของ LGBTQ+ โดยเฉพาะ คนข้ามเพศ, คนผิวสี และคนอินเตอร์เซ็กซ์ธงเควียร์ไพรด์ (Queer Pride Flag)สี: เขียว: ตัวตนที่ไม่เป็นไปตามเพศกำหนด, ขาว: ความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด, ม่วง: การหลอมรวมระหว่างเพศและรสนิยมหลากหลายความหมาย: ตัวแทนกลุ่มที่ไม่จำกัดเพศหรือรสนิยมใด ๆ โดยเฉพาะคนที่ระบุตัวเองว่า "เควียร์"ธงคนข้ามเพศ (Transgender Flag)สี: ฟ้า (ชาย), ชมพู (หญิง), ขาว (ไม่ระบุเพศหรือกำลังเปลี่ยนผ่าน)ธงอินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex Flag)วงกลมม่วงบนพื้นเหลืองสี : เหลือง: สีที่ไม่อิงเพศ, วงกลมม่วง: ความสมบูรณ์และสิทธิในการกำหนดเพศด้วยตนเองธงอเซ็กชวล (Asexual Flag)สี: ดำ (ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศ), เทา (บางระดับ), ขาว (พันธมิตร), ม่วง (ชุมชน)ธงไบเซ็กชวล (Bisexual Flag)สี: ชมพู (เพศเดียวกัน), น้ำเงิน (เพศตรงข้าม), ม่วง (ทั้งสอง)ธงพานเซ็กชวล (Pansexual Flag)สี: ชมพู (รักเพศหญิง), เหลือง (ไม่จำกัดเพศ), น้ำเงิน (รักเพศชาย)ธงเลสเบี้ยน (Lesbian Flag)เวอร์ชันนิยม: แถบสี 7 เฉด (ส้ม-ชมพู)สี: ส้มเข้ม: ความเป็นเพศหญิง , ส้มอ่อน: ความเป็นอิสระ , ขาว: ความรักที่บริสุทธิ์ , ชมพูอ่อน: ความอ่อนโยน , ชมพูเข้ม: ความรักระหว่างผู้หญิงธงนอนไบนารี (Nonbinary Flag)สี: เหลือง: คนที่ไม่ใช่เพศชายหรือหญิง , ขาว: ตัวตนหลายเพศหรือทุกเพศ , ม่วง: การผสมผสานระหว่างเพศชายและหญิง , ดำ: ผู้ไม่มีเพศเลยขอบคุณข้อมูลจาก :VolvogroupThe Human Rights Campaign

Starbucks ฉลอง 25 ปี แถมฟรี Mini Tote Bag และคูปองส่วนลด

07 มี.ค. 2023

Starbucks ฉลอง 25 ปี แถมฟรี Mini Tote Bag และคูปองส่วนลด

คอกาแฟมาทางนี้ Starbucks Thailand เขาฉลองครบรอบ 25 ปี มอบความพิเศษ 2 ต่อ ทั้ง Mini Tote Bag สุดน่ารัก มีให้เลือกสะสม 2 สี พร้อมคูปองส่วนลดอีก 7 ใบ!ต่อที่ 1 : รับ Mini Tote Bag ฟรี 1 ใบ เมื่อซื้อสินค้าครบ 450 บาทขึ้นไป / บิลต่อที่ 2 : รับคูปองส่วนลด Starbucks Privilege E-Coupons จำนวน 7 ใบ รวมมูลค่าสูงสุด 700 บาท แค่คลิก https://qr.ilov.io/lh7wrv เพื่อ Add เป็นเพื่อนใน LINE Starbucks Thailand และลงทะเบียนร่วมกิจกรรมตั้งแต่ 7 มี.ค. 66 – 30 เม.ย. 66 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดตามไปเก็บสะสมได้เลยที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาหมายเหตุ- Mini Tote Bag 1 ใบ กว้าง 14 ซม. x สูง 20 ซม. (ลายสีดำ หรือ ลายสปริงค์) มูลค่า 400 บาท- กรุณาเก็บใบเสร็จเพื่อใช้ในการกรอกข้อมูล และตรวจสอบสถานะคูปอง- ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ และการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท- ยกเว้นการซื้อผ่านบริการ Mobile Order-ahead Pick Up at Store และบริการจัดส่งทุกประเภท

7 เคล็ดลับจัดกระเป๋ายังไงให้ประหยัดพื้นที่

19 เม.ย. 2023

7 เคล็ดลับจัดกระเป๋ายังไงให้ประหยัดพื้นที่

ปัญหาที่ทุกคนเจอเวลาต้องแพ็กกระเป๋าไปเที่ยว โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ก็คือต้องบริหารพื้นที่ในกระเป๋าให้ดี ไหนจะเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว รวมไปถึงต้องเผื่อพื้นที่สำหรับใส่ของฝากกลับมาด้วย Chill Online เอาใจสายเที่ยว ขอแชร์เคล็ดลับที่อยากบอกต่อ จัดกระเป๋ายังไงให้ประหยัดพื้นที่ เรามาดูกันได้เลยรูปภาพจาก Pinterestม้วนแทนพับวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราลองแล้วเวิร์คมาก ๆ คือเปลี่ยนจากการพับเสื้อผ้า เป็นการม้วนเอาแทน นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าเดินทาง สามารถวางเรียงได้อย่างเป็นระเบียบ หรือใส่ตามซอกเล็กซอกน้อยได้แล้ว ยังช่วยให้เสื้อผ้าไม่เป็นรอยพับ ยับน้อยลงอีกด้วยใส่ถุงสูญญากาศสำหรับใครที่ต้องจัดกระเป๋าไปเที่ยวเมืองหนาว แล้วต้องพกเสื้อโค้ท เสื้อไหมพรม หรือสเวตเตอร์หนา ๆ ไปหลายตัว ถุงซิปล็อกสูญญากาศถือเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลย การเอาเสื้อผ้าใส่ถุงสูญญากาศแล้วสูบลมออก จะช่วยลดการใช้พื้นที่ในกระเป๋าไปได้มาก แถมยังช่วยรักษาความสะอาดได้ด้วยรูปภาพจาก Pinterestของใช้ไซซ์พกพาเวลาไปเที่ยวแต่ละครั้ง ทุกคนก็ต้องพกของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ ไปด้วย เช่น ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมทาผิว สกินแคร์ แน่นอนว่าถ้าหากเอาไปทั้งขวดจากที่บ้าน ก็จะเปลืองพื้นที่ในกระเป๋าไม่ใช่น้อย ดังนั้นควรเลือกซื้อของใช้ไซซ์พกพาเอาไว้ สำหรับใช้เวลาไปเที่ยวโดยเฉพาะ หรือหาซื้อขวดหรือกระปุกเล็ก ๆ เพื่อแบ่งไปแทนหยิบเสื้อผ้าสีพื้นไปด้วยการแต่งตัว ถ่ายรูป อัปโซเชียล ถือเป็นสิ่งที่มาคู่กันกับการท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ในกระเป๋า จะพกเสื้อผ้าจากบ้านไปเยอะ ๆ ก็กลัวจะไม่เหลือพื้นที่ใส่ของฝากกลับมา ดังนั้นเราแนะนำว่านอกจากเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดที่ดูมีเอกลักษณ์แล้ว ให้หยิบเสื้อผ้าสีพื้นที่ใส่ง่ายแมตช์ได้หลายลุคไปด้วย เช่น สีดำ สีขาว ยีนส์ จะช่วยให้ทุกครีเอทลุคใหม่ ๆ ได้ง่าย ใส่ซ้ำได้ โดยไม่เปลืองเสื้อผ้าและพื้นที่กระเป๋ารูปภาพจาก Pinterestเก็บถุงเท้าไว้ในรองเท้าสำหรับคนที่มีความจำเป็น หรือต้องการพกรองเท้าไปหลายคู่ เพื่อแมตช์กับหลาย ๆ ลุค สิ่งหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ คือการม้วนถุงเท้าเก็บไว้ในรองเท้า แต่ถ้าหากกังวลเรื่องความสะอาด ก็สามารถนำถุงเท้าใส่ถุงซิปล็อกก่อน แล้วค่อยเก็บไว้ในรองเท้าก็ได้เช่นเดียวกันเก็บชุดชั้นในตามซอกกระเป๋าชุดชั้นในถือเป็นเสื้อผ้าชิ้นเล็ก ๆ ที่สามารถเก็บไว้ตามซอกกระเป๋าได้ เราจึงแนะนำให้ทุกคนลองจัดเสื้อผ้า และของใช้อื่น ๆ ลงกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อน แล้วดูว่าตรงไหนมีพื้นที่เหลือพอที่จะเก็บชุดชั้นในได้บ้าง ค่อยเหน็บชุดชั้นในไว้ตามที่ว่าง อาจจะเน้นตามด้านข้างกระเป๋า เพื่อให้สามารถหาและหยิบใช้ได้ง่ายรูปภาพจาก Pinterestถือเสื้อผ้าหนัก ๆ ขึ้นเครื่องอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดพื้นที่และน้ำหนักกระเป๋าได้ ก็คือการถือเสื้อผ้าหนัก ๆ ขึ้นเครื่อง ใครที่เอาเสื้อโค้ท หรือแจ็กเก็ตไปหลาย ๆ ตัว ให้เลือกสักตัวมาใส่หรือถือขึ้นเครื่องไปด้วย นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังใช้ถือเป็นพร็อบเก๋ ๆ ถ่ายรูป Airport Look ได้ด้วยนะใครเป็นสายเที่ยว จัดกระเป๋าตามเคล็ดลับที่เราเอามาแชร์เหล่านี้ รับรองว่าทริปหน้ามีพื้นที่กระเป๋าเหลือเยอะกว่าเดิมแน่นอน เที่ยวให้สนุกแบบชิล ๆ แล้วก็อย่าลืมระวังทรัพย์สินมีค่ากันด้วยนะ