Siam Center x CryTeddy: เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ที่สาย Art Toy ไม่ควรพลาด!

Food & Beverage

Siam Center x CryTeddy: เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ที่สาย Art Toy ไม่ควรพลาด!

23 พ.ย. 2024

วันนี้  Atime ขอชวนคุณมาเติมพลังบวกและความสดใสกับกิจกรรมสุดพิเศษ Siam Center x Cryteddy กับการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่  "CryTeddy Holding On" และ "CryBunny Letting Go" ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์สุดพิเศษซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านผลงานของ Molly Factory Studio แบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในโลกของคาแรคเตอร์ดีไซน์ 


ไฮไลต์ของงานคือ Pop-Up Store สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่จัดแสดงสินค้าในคอลเลกชันใหม่ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่นี่ที่เดียว! ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา เสื้อผ้า หรือของสะสมสุดพิเศษ ทุกชิ้นล้วนสะท้อนถึงความน่ารักและคาแรคเตอร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์


 

เดินเข้ามาภายใน Siam Center คุณจะได้พบกับ Cryteddy ตัวใหญ่กว่า 7 เมตร ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดอลังการแห่งใหม่ งานนี้ใครเป็นสายถ่ายรูปต้องเตรียมกล้องมาถ่ายรูปกันให้จุใจ

นอกจากนี้ บริเวณลานด้านนอก Parc Paragon ยังมี CryBunny กระต่ายตัวใหญ่ ที่ออกแบบเป็นบ้านบอลลูน พร้อมมอบความสนุกให้กับทุกคนในรูปแบบบ้านบอลที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้

สำหรับภายในงานยังมีกิจกรรมและของขวัญสุดพิเศษจาก Hatari กับพัดลมไอเทมรุ่นพิเศษ Hatari x CryBunny x CryTeddy และไอศกรีมสุดน่ารักที่คอลแลปกับ Guss Damn Good มอบประสบการณ์รสชาติที่แฟน CryTeddy จะต้องหลงรัก

ใครไม่อยากพลาดความสนุกสุดพิเศษแบบนี้ มาเจอกันได้ที่ Siam Center และลาน Parc Paragon มาร่วมแบ่งปันความสุขและปลดปล่อยความคิ้วท์ไปด้วยกัน!

  • กิจกรรมนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
  • พิกัด Atrium 1-2 ชั้น G และ ลาน Parc Paragon
  • BTS สยาม

 

 

ผู้เขียน : วิภูษิตา ญาติจันทึก
 

related Food & Beverage

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ศูนย์รวมมรดกสิ่งทอไทย และฉลองพระองค์สุดวิจิตร

04 ธ.ค. 2025

พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ศูนย์รวมมรดกสิ่งทอไทย และฉลองพระองค์สุดวิจิตร

วันนี้ Chillon จะพาไปสัมผัสความงามและความภาคภูมิใจของชาติ ณ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่งดงามที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานครนั่นคือ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถที่นี่ไม่ใช่แค่พิพิธภัณฑ์ แต่เป็นจุดที่ศิลปะสิ่งทอและพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้บรรจบกันอย่างวิจิตรตระการตา และเป็นการ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้มรดกสิ่งทอไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกพิพิธภัณฑ์ผ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตาม พระราชปณิธาน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ผ้าไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและกำลังจะเลือนหายไปพิพิธภัณฑ์ผ้าจัดตั้งขึ้นภายในอาคาร หอรัษฎากรพิพัฒน์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พระบรมมหาราชวัง อาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับการบูรณะให้เป็นอาคารจัดแสดงที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาผ้าโบราณพิพิธภัณฑ์ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวม จัดเก็บ จัดแสดง และเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับผ้าไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกผ่านโครงการศิลปาชีพหัวใจสำคัญของพิพิธภัณฑ์คือการแสดงให้เห็นถึง พระอัจฉริยภาพในการนำเสนอเอกลักษณ์ไทย ในเวทีโลกชุดไทยพระราชนิยมทรงริเริ่มการออกแบบ ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ (เช่น ชุดไทยจักรพรรดิ, ชุดไทยจักรี) โดยทรงผสมผสานรูปแบบการตัดเย็บสากลเข้ากับผ้าไหมไทยและเอกลักษณ์ไทย ทำให้เครื่องแต่งกายประจำชาติมีความสง่างามและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลฉลองพระองค์ในเวทีโลกในปี พ.ศ. 2503 เมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกา การที่ทรงสวมฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทย ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ ผ้าไหมไทยกลายเป็นที่ต้องการและได้รับการยกย่องจากนักออกแบบแฟชั่นระดับโลกทันที นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผ้าไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกผ้าไหมแต่ละผืน ไม่ว่าจะเป็น มัดหมี่อีสาน ที่ซับซ้อน หรือ ผ้ายกภาคใต้ ที่หรูหรา ล้วนถักทอด้วยเทคนิคโบราณที่สืบทอดกันมา ลวดลายต่างๆ เช่น "ลายนาค" หรือ "ลายขอ" ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็น สัญลักษณ์ของความเชื่อและวิถีชีวิต ที่ชาวบ้านใช้บันทึกประวัติศาสตร์ของพวกเขาจินตนาการถึงสีครามเข้มจากต้นคราม หรือสีเหลืองทองจากแก่นขนุน นี่คือเสน่ห์ของ การย้อมสีธรรมชาติ ที่ทำให้ผ้าไทยมีมิติและดูมีชีวิตชีวา ไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือผลงานหัตถศิลป์ที่ใช้ความอดทนและเวลาพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯจึงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมมรดกเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ที่นี่ คุณจะได้ชม ฉลองพระองค์จริง ที่ทรงสวมใส่ในโอกาสสำคัญต่างๆ ซึ่งแต่ละชุดคือผลงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงความประณีตของการปักและการทอผ้าไหมไทยชั้นสูง คุณจะเห็นว่า ผ้าไทยผืนหนึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นอาภรณ์ที่งดงามและทันสมัยเหนือกาลเวลาได้อย่างไรที่ตั้ง: หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวังเวลา: เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.30 น.เขียนโดย : เบญญาภา แนบเนียน

"Siam Street BIG RETURN 2024" เทศกาลการแสดงระดับโลกใจกลางสยาม

21 ธ.ค. 2024

"Siam Street BIG RETURN 2024" เทศกาลการแสดงระดับโลกใจกลางสยาม

มาสนุกกับเทศกาลยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีกัน กับ “Siam Street BIG RETURN 2024” เทศกาลการแสดงตามท้องถนนระดับนานาชาติที่ยกขบวนนักแสดงชื่อดังจากทั่วโลกมาสร้างสีสันใจกลางกรุงเทพครั้งนี้ “Siam Street BIG RETURN 2024” จะยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยการขนทัพนักแสดงจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา สเปน เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน รวมถึงประเทศไทย มากกว่า 300 โชว์ มอบประสบการณ์สุดหวาดเสียวและความบันเทิงที่หาไม่ได้จากที่ไหน กับการแสดงสดกว่า 8 เวทีทั่วพื้นที่สยามสแควร์ไม่ว่าจะเป็นการแสดงกายกรรมผาดโผน การแสดงทักษะของร่างกายที่หลากหลาย การเต้นสตรีทแดนซ์ที่สะกดทุกสายตาจากหลากหลายประเทศ ทุกโชว์รับรองว่าตื่นเต้นเกินคาดจนต้องปรบมือให้ไม่หยุดนอกจากการแสดงแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษจากผู้สนับสนุนงานมากมาย ที่พร้อมแจกให้เป็นของขวัญส่งท้ายปีแก่ผู้เข้าชมมาเป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ ส่งท้ายปี 2567 อย่างมีความสุขไปกับเทศกาลนี้ แล้วมาสัมผัสความสนุกที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจด้วยกัน!ระยะเวลา 20 – 22 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 12:00 – 22:00 นพิกัด Siam Squareเข้าชมฟรีผู้เขียน วิภูษิตา ญาติจันทึก

นลินี อาร์ตทอยสายมู แสนน่ารัก

26 ต.ค. 2024

นลินี อาร์ตทอยสายมู แสนน่ารัก

หากนึกถึงพระพิฆเนศ หรือองค์เทพต่าง ๆ หลายคนอาจจะต้องคิดว่า องค์ท่านต้องดูน่าเกรงคราม แต่แบรนด์นลินี (Nalini) ที่ผลิตผลงานโดย คุณธนโชติ เกตุบุรมย์ (โชต) มีความคิดที่ต่างออกได้ โดยคุณโชตได้บอกว่า ตนเองนั้นชื่นชอบ และบูชาพระพิฆเนศอยู่ก่อนแล้ว แต่เมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง จึงเกิดความคิดปรับสายมูให้เข้าถึงได้ง่าย จึงเกิดมาเป็นผลงานแบรนด์นลินีนลินี แบรนด์นี้มีความน่ารัก สีสันสดใส และจุดเด่น คือ ลูกค้าสามารถออกแบบเลือกสีได้เองตามความชอบอีกด้วยในคอลเลกชั่น “Tanti Amori” (ถาพด้านล่าง) องค์พ่อพระพิฆเนศประทับบนบัลลังก์รูปหัวใจ มือหนึ่งข้างถือหัวใจ สัญลักษณ์ของความรัก อีกข้างประทานพร ให้ทุกคนด้วยความรัก โดย Tanti Amori มีทั้งหมด 12 สี โดยสีเเรกของคอลเลคชั่นคือ pretty pearl ทั้งหมด 6 edition ซึ่งมี 2 ขนาดด้วยกัน เริ่มต้น 5 เซนติเมตร และ 9 เซนติเมตร วัสดุ เรซิ่น พ่นสีขาวประกายมุก ในราคาเริ่มต้น 329 บาท และ 1,200 บาทใครที่สนใจนลินีกับคอลเลกชั่นที่เต็มไปด้วยความรัก “Tanti Amori” สามารถสั่ง Pre-order ได้ผ่านทาง google form หรือทักแชททางร้านได้เลยgoogle form : https://forms.gle/TdmnznZ2PbdxJva69ภาพด้านล่าง - นลินีมาในลุคพระพิฆเนศกายสีแดง ประทับนั่งบนดอกบัว หัตถ์ขวาถือเหรียญทอง หัตถ์ซ้ายประทานพร พร้อมพี่หนูมิสุกะนอกจากนี้ยังมีผลงานอีกมากมาย ทั้งภาพวาดต่าง ๆ ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะสไตล์นี้ของแบรนด์ นลินี ก็สามารถติดตามผลงานของคุณธนโชติ เกตุบุรมย์ (โชต) ได้ทางFacebook : nalini_bkkInstagram : nalini_bkkหรือมาพบกันได้ที่งาน "แฉแฟร์" presented by น้ำมันพืชมรกต31 ต.ค. - 3 พ.ย. 2567MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

11 มิ.ย. 2024

มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

เซียมสยาม หรือ ตึกกระทรวงพาณิชย์ (เดิม) ก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 หรือเมื่อ 100 ปีก่อน ใช้เป็นสำนักงานกระทรวงพาณิชย์ มีการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมตึกนั้น อ้างอิงมากจากสมัยเรอเนสซองส์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการใส่ใจในรายละเอียดในทุกขั้นตอนการทำงาน สู่การเป็นตึกมิวเซียมสยาม ที่มีความสง่างาม มั่นคงแข็งจนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ชั้นนำในปัจจุบันการเข้าชมศูนย์การเรียนรู้ ที่มิวเซียมสยามนั้นจะมีอัตราค่าเข้าชม โดยมีราคา ดังนี้ ผู้ใหญ่ 100 บาท และเด็ก 50 บาท หากมาเป็นหมู่คณะ ทางศูนย์การเรียนรู้จะมีโปรโมชัน ครึ่งราคา สำหรับผู้เข้าชมที่มาเป็นหมู่คณะทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ภายในอาคาร ที่ห้องโถง จะมีโต๊ะวางรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ ของกิจกรรมภายในศูนย์การเรียนรู้ สามารถหยิบอ่านได้ ทั้งยังมีกิจกรรมในแผ่นการเรียนรู้อีกด้วยนิทรรศการของมิวเซียมสยาม มาในชื่อ "ถอดรหัสไทย"ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้พัฒนาการความเป็น"ไทย"ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจากบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยมาที่ห้องแรก “ห้องไทยดีโคตร” นำเสนอพัฒนาการของความเป็นไทย ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอื่น อาทิ พระปรางค์วัดอรุณ ที่สุดของสถาปัตยกรรม ตัวอักษรไทย รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น ผ่านรูปแบบการนำเสนอด้วยภาพ ซึ่งผู้ชมสามารถเข้าใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ เลเซอร์คัท 3 มิติ โซโทรป ฟลิปบุ๊ก เป็นต้นห้องที่สอง “ห้องไทยชิม” ที่พาคุณไปเรียนรู้ที่มาของอาหารไทยขึ้นชื่อต่างๆ อย่าง ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ผัดไทย เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีคิวอาร์สแกน พร้อมโมชันกราฟิกสีสันสวยงาม รวมถึงแผ่นพับรูปจาน ที่สอดแทรกเกร็ดความรู้อาหารเหล่านั้นห้องที่สาม “ห้องไทยวิทยา” ภายในจำลองบรรยากาศห้องเรียน 4 ยุคสมัย ได้แก่ ยุคเริ่มต้นประชาธิปไตย ความเป็นไทยยุค 2500 ความเป็นไทยยุคโลกาภิวัตน์ และความเป็นไทยยุคพอเพียง ห้องนี้เหมือนได้พาทุกคนย้อนเวลากลับไปสมัยเรียน อีกทั้งยังสามารถแต่งตัวเป็นนักเรียนถ่ายภาพลำรึกความหลัง เพราะที่ห้องนี้มีเสื้อผ้าชุดรักเรียน ชาย หญิง เตรียมให้พร้อมห้องที่สี่ “ไทยประเพณี” ห้องจัดแสดงในรูปแบบโกดังเก็บของ นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ประเพณี เทศกาล และมารยาท อันเป็นสิ่งสะท้อนความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ใส่ไว้ในกล่อง ภายในมีเอกสารอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องต่างๆ ภาพประกอบของจริงที่จับต้องได้ เล่นได้ และมีเกมที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวได้สนุกยิ่งขึ้นห้องที่ห้า “ห้องไทยเชื่อ” ห้องที่รวบรวมวัตถุด้านความเชื่อของเมืองไทย กว่า 108 สิ่ง ครอบคลุมทั้งความเชื่อเรื่อง ผี พุทธศาสนา พราหมณ์และความเชื่อแบบไทยๆ พร้อมเวิร์กชอปความเชื่อให้ทดลองกันได้จริง อาทิ การทำนายโชคชะตา การเสี่ยงทายรูปแบบต่างๆ เป็นต้นห้องที่หก “ห้องไทย Only” ห้องที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ที่เราเห็นกันอย่างคุ้นตาในชีวิตประจำวัน ที่เห็นแล้วสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นของไทยแน่นอน อาทิ พวงเครื่องปรุง ถุงหิ้วกาแฟผูกหนังยาง โครเชต์หุ้มหูกระเป๋าแบรนด์เนม มาม่าสารพัดรส เป็นต้นห้องที่เจ็ด “ห้องไทยแค่ไหน”นำเสนอความเป็นไทยผ่านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย จัดแสดงด้วยหุ่นเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ วางกระจายอยู่บนฐานเกลียวก้นหอย จากสูงลงมาต่ำ เพื่อแสดงถึงสถานะและลำดับความเข้มข้นของความเป็นไทยห้องที่แปด “ห้องไทยอลังการ” ภายในจำลองบรรยากาศของท้องพระโรงและพระที่นั่ง เพื่อแสดงถึงสุนทรียะ ความงดงามของสถาปัตยกรรม และงานหัตศิลป์ไทยห้องที่เก้า “ห้องไทยแปลไทย” ห้องจัดแสดงที่เต็มไปด้วยตู้โชว์ ลิ้นชัก ที่ภายในบรรจุวัตถุจัดแสดง นำเสนอประเด็นสิ่งของความเป็นไทยในแต่ละยุคสมัย ให้ผู้เข้าชมมาเรียนรู้และค้นหา “ความเป็นไทย” ในสิ่งของเหล่านั้นที่ส่งผลถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยในปัจจุบันเดินทางมาถึงห้องสุดท้ายของศูนย์การเรียนที่รู้มิวเซียมสยาม คือ “ห้องไทยรึเปล่า” นำเสนอประเด็นคำถาม โดยหยิบยกกรณีตัวอย่างปรากฏการณ์ “ความเป็นไทย” ที่เป็นข้อถกเถียงในสังคม อาทิ เลดี้กาก้าสวมชฎา ชุดประจำชาติมิสยูนิเวิร์ส นักแสดงหน้าฝรั่งเล่นละครไทย เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าตั้งคำถามถึงความเป็นไทยรอบตัว ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ว่าแท้จริงแล้ว อะไรคือความเป็นไทยหากใครสนใจมาเรียนรู้ความเป็นไทย Atime ขอนำเสนอนิทรรศการถาวร ชุด "ถอดรหัสไทย" ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน (ข้างวัดโพธิ์) กรุงเทพฯ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือขอเข้าชมเป็นหมู่คณะได้ที่ 02-225-2777 ต่อ 411ค่าธรรมเนียมเข้าชม : ผู้ใหญ่ - 100.00 บาท เด็ก - 50.00 บาทเวลาทำการ : วันอังคาร-วันอาทิตย์ 10.00-18.00 น. หยุดทำการทุกวันหยุดนขัตฤกษ์ที่อยู่ : ถนนสนามไชย พระนคร, กรุงเทพมหานคร (MRT สนามไชย ทางออก 1)