แซ่บนัว ไม่ง้อเนื้อสัตว์ ที่ตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกน

Food & Beverage

แซ่บนัว ไม่ง้อเนื้อสัตว์ ที่ตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกน

29 ส.ค. 2024

วันนี้ Atime ขอนำเสนออาหารอีสานกันบ้าง แต่ร้านนี้จะทำเมนูที่ไม่มีเนื้อสัตว์ผสมอยู่ ที่ร้านตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกน แซ่บนัว เหมือนจริง ไม่ง้อเนื้อสัตว์

เรามาเริ่มกันที่เครื่องดื่ม อากาศร้อนๆ แบบนี้ แอดเลยขอสั่งมาเป็นชาดำเย็น และชาลิ้นจี่ ดื่มชื่นใจดับร้อน ระหว่างรออาหาร

มาที่ของแซ่บเมนูแรก “ต้มแซ่บน้องเนื้อ” อ่านชื่อแล้วอย่าพึ่งตกใจไป เพราะหม้อไฟหม้อนี้ไม่มีเนื้อผสม เป็นการทำเนื้อเทียมจากวัตถุดิบอื่นๆ ที่เทคเจอร์คล้ายกัน และกลิ่นเนื้อจากน้ำชุปคือ ทางร้านตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกนทำถึงมาก อีกทั้งรสชาติกลมกล่อม หากได้ชดเพียงครั้งเดียว รับรองต้องติดใจแน่นอน

มาต่อกันที่เมนูตำกันบ้างอย่าง “ตำเส้นเล็ก - ไม่ปลาร้า” (ภาพด้านซ้าย) และ “ตำหลวงพระบาง-ปลาร้า” (ภาพด้านขวา) ซึ่งทาง ร้านตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกน เขาแยกครก สำหรับตำปลาร้า ไม่ปลาร้า ใส่กระเทียม และไม่ใส่กระเทียม เรียกได้ว่าใส่ใจลูกค้ายืนหนึ่ง ส่วนปลาร้านั้น ทางร้านเป็นคนคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง คนทานมังสบายใจได้

เมื่อชีวิตเราขาดยำไม่ได้ แอดเลยสั่งมาเป็นเมนู “ยำกุนเชียง” กุนเชียงทางร้านทำเองแบบไม่ผสมเนื้อสัตว์ แต่รสชาติคือ เหมือนกุนเชียงที่เราทานกันแบบมีเนื้อสัตว์มากๆ อีกทั้งทางร้านตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกนเขาขายกุนเชียงแยกด้วยนะ ใครติดใจก็สั่งกุนเชียงกลับบ้านกันได้เลย

ยำจานที่สองของแอด “ยำสามกรอบ” กรอบจากกุนเชียง หมูกรอบ และแคบหมู แต่เป็นหมูแค่ชื่อกับรสชาติ เพราะหมูกรอบทางร้านทำขึ้นเอง ให้ความรู้สึกเหมือนทานของจริงมากๆ ส่วนเรื่องน้ำยำทางร้านทำรสชาติเข้มข้น จัดจ้านมาก แอดยกนิ้วให้เลย

เรามาต่อกันที่เมนูทานเล่นกันบ้างอย่างเมนูแรก “หมูคลุกฝุ่น” (ภาพด้านซ้าย) ซอสที่คลุกมานั้น รสชาติเข้มข้น ทานคำแรกถึงกับต้องว้าว  เพราะให้ความรู้สึกเหมือนทานหมูคลุกฝุ่นตามรถเข็นเลย ทำถึงมาก และ “ลูกชิ้นยืนกิน” (ภาพด้านขวา) เมนูฮิตติดเทรนช่วงหนึ่ง ทำรสชาติเหมือนเราได้ทานลูกชิ้นหมูจริงๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มลูกชิ้นรสเด็ด ทำเอาแอดลืม

เลยว่าเป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ผสมอยู่

เมนูต่อมาเป็น “หมกหัวปลี” เนื้อเนียน หอมกลิ่นหัวปลี จัดจานมาในรูปแบบห่อหมกใบตอง

และเมนูสุดท้าย ที่ประทับใจกับ “เต้าหู้คลองแงะ” เพราะน้องเขากรอบนอก เนื้อด้านในเนียนนุ่ม ละลายในปาก แอดแนะนำเลยว่าห้ามพลาด

ทางร้านมีเมนูหลากหลายให้เลือก ขนาดแอดสั่งเต็มโต๊ะก็ยังทานไม่ครบทุกเมนูของทางร้าน รับลองว่าต้องไปซ้ำแน่นอน เพราะความอร่อยที่เหมือนอาหารอีสานจริงๆ แถมแต่ละเมนูที่ร้านก็คิดสูตรเอง ขึ้นวัตถุดิบเอง จนได้เมนูที่แซ่บนัว ถูกใจผู้บริโภค คนไม่ทานมังก็ทานได้ไม่เบื่อ เพราะรสชาติของร้าน ตำมัง อีสาน เจ มังสวิรัติ วีแกน เขาทำถึงจริง

ในช่วงเทศกาลกินเจ ทางร้านจะปรับให้ทุกเมนูเป็นเจทั้งหมด แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลเจ ก็สามารถเลือกได้ว่าจะทานแบบ เจ มังสวิรัติ หรือวีแกน ใครที่อยากทานอาหารอร่อย รสชาติจัดจ้าน แอดแนะนำเลยว่าต้องมาลองกันที่ร้าน ตำมัง อีสาน 

เจ มังสวิรัติ วีแกน ร้านนี้เขาเปิดให้บริการตลอดทั้งปี และแฟนๆ Aitme ทานครบ 500 บาท รับน้ำสมุนไพรฟรี ตั้งแต่ 1 กันยายน - 15 กันยายนนี้

พิกัดร้าน : ต้นถนนพระราม 2 บางมด ใกล้ รพ.บางปะกอก9 หรือตาม GPS ไปที่นี่ : https://maps.app.goo.gl/JjSs1ia7R5yBJHVo8

เปิดร้าน : เปิดวันจันทร์ - วันอาทิตย์ *ปิดทุกวันพุธ

เวลา 10.30 - 21.00 น.

ที่จอดรถ : มีที่จอดรถ (สามารถจอดรถหน้าร้าน หรือหลังโรงพยาบาลบางประกอก 9)

ช่วงราคา : 100 - 250

เบอร์โทรศัพท์ : 065-191-6626

 

ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

related Food & Beverage

Paws Up Cafe คาเฟ่แมวสุดน่ารักในเมืองกรุง

21 พ.ย. 2024

Paws Up Cafe คาเฟ่แมวสุดน่ารักในเมืองกรุง

วันนี้ Atime ขอเอาใจทาสแมวกับแบบสุด ๆ กับคาเฟ่ Paws Up Cafe 105 ซอยพัฒนาการ 52 แยก 42 กรุงเทพฯ คาเฟ่น้องใหม่ ที่มีเจ้าเหมี่ยวเต็มร้าน งานนี้ทาสแมวห้ามพลาดจุดเด่นของร้าน Paws Up Cafe คือ ระบบระบายอากาศที่ทางเจ้าของร้านทำขึ้น ทำให้อากาศภายใน ไม่มีกลิ่นแมวเลย ถึงแม้จะมีน้องแมวจำนวนมากก็ตาม ที่นี่เขามีกิจกรรมมากมายให้เพื่อน ๆ มาเล่นกับเจ้าเหมียวแบบตัวต่อตัว อุ้มได้ กอดได้ ถ่ายรูปคู่ได้ตามใจชอบ หรือใครอยากป้อนขนม ทางร้านก็มีอาหารเปียกจำหน่ายให้เช่นกันสำหรับสายคาเฟ่แล้ว นอกจากจะถ่ายรูปสวย ๆ กันแล้ว ก็ต้องห้ามพลาด ขนม และเครื่องดื่มที่อร่อย ๆ วันนี้แอดเลยอยากจะขอเสนอเมนู วาฟเฟิ้ล เพราะร้านนี้เขามีท็อปปิ้งให้เลือกเยอะมาก สายเนยถั่วอย่างแอด ก็ต้องสั่งท็อปปิ้งเป็น นูเทลล่าพร้อมโรยไอซซิ่งบนวาฟเฟิ้ล ทานคู่กันคือฟินสุดๆมาต่อกันที่เครื่องดื่มของร้าน Paws Up Cafe กันบ้าง อย่างเมนูกาแฟ แอดสั่งเป็น ลาเต้เย็น ใครที่ไม่ทานนมวัว ทางร้านก็มีนมโอ๊ตให้เลือกเพิ่มเติม กาแฟของร้าน ชงอย่างพิถีพิถัน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ ทานแล้วรู้สึกชมชื่นมาก ต่อกันที่เมนูชากันบ้าง แอดสั่งเป็นเมนู มัจฉะ ลาเต้ เมนูนี้จะได้ความสดชื่นแบบจัดเต็มจากมัจฉะ อีกทั้งจะมีความหอมอ่อน ๆ ของกาแฟ แทรกเข้ามา โดยที่ไม่ทำลายความเป็นมัจฉะไป เมนูนี้สายชา หรือคอลกาแฟ ห้ามพลาด แอดรับประกันความอร่อยและบรรยากาศของร้าน Paws Up Cafe เมื่อเข้าไปในร้านแล้วจะให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่น เป็นกันเอง เหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน ใครที่อยากหาที่ฮีลใจ หรือนั่งทำงานชิลกับเจ้าเหมียว ต้องแวะมากันที่ร้าน Paws Up Cafe 105 ซอยพัฒนาการ 52 แยก 42 กรุงเทพฯใครที่สนใจ แอดมีโปรดี ๆ สำหรับลูกเพจมาบอก สำหรับลูกเพจ Atime ที่มีแต้มในแอปพลิเคชัน Atime Fungfin 1,500 แต้ม ก็สามารถมา Redeem เพื่อรับส่วนลด 10% เมื่อมียอดการซื้อสิ้นค้า ภายในร้าน Paws Up Cafe จำนวน 200 บาท ต่อบิล กิจกรรมนี้จัดกันแบบยาว ๆ ถึงวันที่ 31 พฤศภาคม 2568 กันเลยทีเดียวPaws Up Cafeแผนที่การเดินทางมาที่ร้าน Paws Up Cafe คาเฟ่แมวขับรถมา ร้านจะอยู่ตรงข้ามโลตัสพัฒนาการ ให้เข้าซอยพัฒนาการ 52 ได้เลย แล้วขับมาตามถนนเพราะเป็นซอยบังคับเลี้ยว ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยก 42 นั่นเองมาทางรถเมล์ สายที่ผ่านจะมีสาย 92 93 133 206 11มินิ แล้วต่อวินเข้า บอกไปพัฒนาการ52แยก42ได้เลยมาจากรถไฟฟ้า สถานนีที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าMRTและAirport Rail Link : หัวหมาก แล้วต่อวินเข้า บอกไปพัฒนาการ52แยก42ได้เลยGoogle Map : https://maps.app.goo.gl/99EUUWgVFFPHF4xz9เบอร์โทร : 02-474-0224 , 087-959-4464ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียนภาพ : นินจา ซิมทิม

สเต็กราคาย่อมเยา SaM SteakandMore

20 ม.ค. 2025

สเต็กราคาย่อมเยา SaM SteakandMore

วันนี้ Atime มาแนะนำร้านสเต็กราคาย่อมเยาแถมรสชาติอร่อยไม่แพ้ร้านราคาแพง ๆ เลย ที่ร้าน SaM SteakandMore เมนูในร้านก็มีให้เลือกมากมาย ราคาประมาณ 79-300 บาท มีสเต๊กมากมายหลายเมนูให้เลือกทานกันค่ะ แต่ละเมนูก็อร่อย อิ่ม คุ้มมาก ๆ นอกจากเมนูสเต๊กแล้วยังมีเมนูพาสต้า สลัด และเฟรนช์ฟรายส์ให้ได้เลือกทานกันด้วยนะคะบรรยากาศหน้าร้านมีที่นั่งให้นั่งรอเพราะ ถ้าหากมาช่วงเย็นคิวจะเยอะมากเราก็สามารถนั่งรอได้สบาย ๆ ไม่ต้องยืนรอให้เมื่อยขามีเมนูให้เลือกสรรค์ไม่ว่าจะเป็นสเต็ก หรือสปาเกตตี้ สลัด ของทานเล่นที่สำคัญมีซอสให้เลือกเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นซอสพริกไทยดำ ซอสสไปร์ซี่ แซมซอส เทริยากิหรือแม้แต่ซอสต้มยำกุ้งยังมีเลยบอกเลยว่ามาร้านนี้ได้กินหลายอย่างมาก เมนูนับพันรอให้คุณมาชิมอยู่ ใครเป็นสายเนื้อสายหมูต้องมาที่นี่เลยSaM SteakandMoreสาขา เกษตรสาขา เมืองเอกสาขา ม.กรุงเทพเปิดให้บริการ 11.00 น. - 21.00 น.ผู้เขียน : จิตรกร ปะวะโข

ปู๊ตี่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ตำนานรสชาติที่ซ่อนตัวในหอศิลป์

06 ธ.ค. 2024

ปู๊ตี่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ตำนานรสชาติที่ซ่อนตัวในหอศิลป์

หากใครกำลังมองหาร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่ครบรส Atime ขอแนะนำ ร้านปู๊ตี่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหอศิลป์ พร้อมมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยงานศิลปะล้อมรอบภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบง่าย โต๊ะและเก้าอี้ไม้ รวมถึงของตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงวันเก่า ๆ อย่างภาพวาด โปสการ์ด และของกระจุกกระจิกที่วางเรียงราย ถ่ายรูปมุมไหนก็ได้บรรยากาศสุดคลาสสิกสำหรับเมนูก็มีเพียงไม่กี่อย่าง เมนูที่แอดสั่งมาเป็น บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง ในราคา 65 บาท และเส้นบะหมี่ที่นี่พิเศษกว่าที่อื่นอีกด้วยเพราะร้านทำเส้นเอง เกี๊ยวกุ้งก็ตัวใหญ่ไส้แน่น ๆ แถม เนื้อหมูแดงก็ละลายในปาก อร่อยครบรสเลยใครที่แวะมาหอศิลป์และกำลังมองหามื้อกลางวันเบา ๆ ร้านปู๊ตี่บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติและบรรยากาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาลิ้มลองกันได้เลยพิกัด หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น 2BTS สยาม / สนามกีฬาแห่งชาติเวลาเปิด–ปิดบริการทุกวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11:00-18:30 น.ปิดทุกวันจันทร์ผู้เขียน: วิภูษิตา ญาติจันทึก

Potion No.6 ร้านชาประจำเด็กเกษตร

09 ธ.ค. 2024

Potion No.6 ร้านชาประจำเด็กเกษตร

หากใครพัก หรือทำงานแถวเกษตรนวมินทร์ ต้องเคยขับรถผ่านร้าน "Potion No.6" กันสักครั้ง ร้านนี้จะเป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีเครื่องดื่ม และขนมหลากหลายใครที่ชื่นชอบเครปห้ามพลาด เพราะ"Potion No.6" เขาทำแป้งเครปได้หอม ทั้งยังให้ไส้มาแบบเน้น ๆ ในราคาที่หย่อมเยาว์ เข้าถึงง่ายสาวกชานมไข่มุก ต้องห้ามพลาด ไข่มุกของร้าน "Potion No.6" เพราะไข่มุขร้านนี้เขา นุ่มลิ้น หวานฉ่ำ หอมอร่อย อีกทั้งยังมีเมนูเครื่องดื่มทั้งชา ชานม กาแฟ และเมนูอื่น ๆใครที่ผ่านมาแถวเกษตร ก็อย่าลืมแวะมาทานขนม และเครื่องดื่มอร่อย ๆ กันที่ร้าน "Potion No.6" หรือจะสั่งผ่านออนไลน์ก็ได้เช่นกันร้าน "Potion No.6"พิกัด : 2206 ถ. พหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900ติดต่อ : 084 060 8694เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 - 02.00 น.ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน