Food & Beverage

เดินเล่น ฟังเพลงเพลินๆ ที่นิทรรศการ “SONIC VOYAGE A Journey of Rhythmic Flair”

06 ธ.ค. 2024

วันนี้ Atime ขอพาลูกเพจไปผ่อนคลายผ่านเสียงเพลง กับนิทรรศการ “SONIC VOYAGE A Journey of Rhythmic Flair : การเดินทางของเสียง เส้นทางมหัศจรรย์ของจังหวะดนตรี” By One Bangkok x Cat Radio ที่จะพาทุกคนเดินทางไปในโลกของเสียงเพลง พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ งานนี้ยังได้รวบรวมเสียงเพลงในแต่ละยุคสมัย ทั้งประวัติความเป็นมา แผ่นซีดี เทป แผ่นเสียง พร้อมดิสเพลย์แบบอินเตอร์แอคทีฟ ที่ประกอบไปด้วย 6 โซนด้วยกัน ได้แก่

VINYL WORKOUT แผ่นเสียงยักษ์ที่ขยับตามก้าวคุณ โซนนี้เป็นโซนที่สนุกที่สุด เพียงเราเลือกเพลง แล้วขึ้นไปวิ่งบนแผ่นเสียง เพลงก็จะบรรเลงไปตามจังหวะที่เราวิ่ง ถ้าวิ่งช้าเพลงก็จะช้า ถ้าเราวิ่งเร็วเพลงก็จะเล่นเร็ว

SONG RIDING เทปคาสเซ็ตที่คุณปั่นได้ มุมถ่ายรูปย้อนวัยสุดเก๋า ที่มีเทปคาสเซ็ตขนาดใหญ่ และเพียงขึ้นไปปั่นจักรยานเทปเพลงก็จะหมุนตามความเร็วในการปั่น ใครที่อยากจะระบายอารมณ์ให้มาจุดนี้เลย

COMPACT DISCO ห้องแห่งซีดีกับแสงสีดิสโก้ เมื่อแผ่นซีดีที่เคยเป็นสื่อเสียงเพลงสุดฮิตมากมาย ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นห้องวงกลม ให้เราได้ถ่ายรูปแบบเก๋ๆ และไฟดิสโก้เป็นแกนกลางชวนให้นึกถึงยุค 90s

WALL OF MUSIC กำแพงดนตรีไร้ขีดจำกัด พากลับสู่ยุคปัจจุบัน ด้วยกำแพง QR CODE ขนาดยักษ์ ที่บรรจุลิสต์เพลงและมิวสิกวิดีโอชื่อดังแห่งยุคของศิลปินคนโปรดเอาไว้มากมาย เพียงสแกนก็สามารถรับฟังเพลงโปรดได้ทันที

MOVING MELODY ซินธิไซเซอร์ลอยฟ้า โซนนี้เป็นโซนที่เก๋ที่สุด

เมื่อเราเพียงกดคีย์บอร์ด โคมไฟ Installation Art ขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ก็จะขยับขึ้นลงตามจังหวะของเสียงเพลง พร้อมส่งแสงไฟ

THE RADIO วิทยุยักษ์พร้อม JUKEBOX ย้อนยุค ห้องวิทยุยักษ์ พร้อม Jukebox ที่เราสามารถเลือกเพลงฟังนั่งฟังกันเพลินๆ อยากได้ทั้งฟีลสนุกทั้งผ่อนคลาย สบายใจมาทางนี้

นิทรรศการ SONIC VOYAGE A Journey of Rhythmic Flair เป็นนิทรรศการที่สนุกมากๆ ใครที่ชื่นชอบเสียงเพลง และต้องการบำบัด ผ่อนคลายด้วยเสียงเพลงต้องมาที่นี่ แนะนำเลยค่ะ

เข้าชมฟรี
นิทรรศการนี้จัดตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2567 - 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
เวลา 10.00 - 20.00 น.
พิกัด ชั้น G โซน The Storeys ONE BANGKOK

ผู้เขียน : จิตรกร ปะวะโข

related Food & Beverage

18 มี.ค. 2024

TIMELESS MUSE นิทรรศการเดี่ยวของ "MRKREME" กับเหล่ามอนสเตอร์

สายอาร์ตทั้งหลาย จูงมือสาย Art Toys มาด้วยกัน เดินชมนิทรรศการเดี่ยวของ "MRKREME" กับงาน "Timeless Muse" ท่องโลกไปยังจักรวาลใบใหม่ของเหล่าสัตว์ประหลาดสุดป่วนใน KOOKY WORLDเทรนดี้ แกลเลอรี่ และ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภูมิใจเสนอ “Timeless Muse” นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกของ MRKREME ที่จะพาทุกท่านท่องไปยังจักรวาลใบใหม่ของเหล่าสัตว์ประหลาดสุดป่วนใน KOOKY WORLD โลกของเจ้ามอนสเตอร์ขนฟูในมิติแห่งห้วงเวลาสุดพิศวงซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค 70s และ 80s สถานที่ซึ่งเหล่ามอนสเตอร์จะได้ผจญภัยไปกับความท้าทายแห่งเวลาผ่านนัยยะต่าง ๆ มากมายหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงมี 60 นาที หนึ่งนาทีมี 60 วินาที และถึงแม้เราจะท่องไปยังโลกหรือจักรวาลอื่น ๆ ที่อาจใช้จำนวนตัวเลขไม่เท่ากัน กฎแห่งเวลาก็เป็นสิ่งที่ถูกตั้งไว้ชัดเจน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่ทำไม… มันถึงดูเหมือนว่าแต่ละคนใช้หน่วยของเวลาที่รับมาได้ไม่เท่ากัน?หนึ่งวัน หนึ่งชั่วโมง หนึ่งนาที ทำไมมันถึงดูต่างกันนัก? ทำไมสำหรับบางคน เวลาถึงเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลายคนเฝ้ารอเวลาให้ผ่านไปจนเบื่อหน่าย บางคนใช้เวลาไปกับสุนทรียภาพ ในขณะที่บางคนแทบจะไม่มีได้เวลาพักผ่อน และบางคน ก็สามารถเปลี่ยนกฏแห่งเวลาได้ด้วยอำนาจที่ตนครอบครองเอาไว้ร่วมเดินทางไปยังดินแดนสุดพิศวงกับเหล่าสัตว์ประหลาดขนฟูสุดน่ารัก พร้อมไขกลอนประตูแห่ง ‘เวลา’ ปริศนาที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่หาคำตอบได้ด้านในนิทรรศการมีทั้งหมด 3 ห้อง ให้ได้เดินดูงานศิลป์ ให้ชมความน่ารักของมอนสเตอร์ และความเป็นมาของการวาดภาพชิ้นนี้ พร้อมแล้ว ไปเดินงานศิลป์กันเลยดีกว่านอกจากนี้ยังมีลูกเล่นให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานไปกับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวป่วนที่มาในรูปแบบของ ARงาน Timeless Muse จัดขึ้นที่ห้อง RCB Photographers’ Gallery ชั้น 2 ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม จนถึงวันที่ 28 เมษายนนี้ เท่านั้น ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะ อาร์ต ๆ กับเหล่ามอนสเตอร์สุดน่ารัก ต้องแวะไปเดินเล่นกันดูน้า งานนี้เช้าฟรีด้วย

06 ธ.ค. 2024

Bangkok Art Biennale 2024 ศิลปะระดับโลก ภายใต้แนวคิด “รักษา กายา (Nurture Gaia)”

วันนี้ Atime จะชวนทุกคนไปชมนิทรรศการ Bangkok Art Biennale 2024 เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติที่มีการจัดแสดงผลงานจากศิลปินชั้นนำกว่า 76 คน จาก 39 ประเทศทั่วโลกกับผลงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจภายใต้แนวคิด “Nurture Gaia” หรือ "รักษา กายา"แนวคิด 'รักษา กายา' (Nurture Gaia) เป็นแนวคิดที่สะท้อนความเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ การเลี้ยงดู ความเป็นผู้หญิง และการครุ่นคิดเกี่ยวกับนิเวศวิทยา การเมือง และอำนาจที่มองไม่เห็นโดยผลงานทุกชิ้นจะถ่ายทอดผ่านสื่อศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาด วิดีโอ จนถึงงานจัดวาง ซึ่งเป็นการนำเสนอผลงานระหว่างศิลปะและสังคม กระตุ้นให้เราฉุกคิด และมองหาทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมในอนาคตอย่างผลงานชิ้นนี้ มีชื่อว่า Mapping the Land Body Stories of its Past มีการจัดแสดงโดยใช้เครื่องจักรกลจากกระแสไฟฟ้าจากต้นปาล์มมาวาดลายเส้นพู่กัน ที่ค่อย ๆ ถูกลบเลือนจากการไหลของน้ำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาระบบนิเวศ ที่ธรรมชาติกำลังถูกทำลายTransfigurations งานประติมากรรมรูปร่างเด็กทารกที่มีลักษณะผิดปกติแตกต่างจากเด็กในยุคปัจจุบัน สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนร่างกายมนุษย์ให้สามารถเผชิญกับความท้าทายในอนาคตOne Eyed Rangda เป็นเชือกพลาสติกที่พบตามป่าชายเลนและชายหาดที่ถูกนำกลับมาดัดแปลงใช้ใหม่ สะท้อนในมุมมองที่คนบาหลีทุกข์ยากลำบากจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาที่เกาะสำหรับใครที่ชอบงานอาร์ต และอยากมาสัมผัสกับชิ้นงานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวจากศิลปินทั่วโลก ก็มาเจอกันได้ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ (ฺBACC) อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมกันนะระยะเวลา 24 ตุลาคม 2567 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2568พิกัด หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 939 ถนนพระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 9 : 24 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2567ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 7-8 : 24 ตุลาคม 2567 – 25 กุมภาพันธ์ 2568เวลาเปิด–ปิดบริการทุกวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.ปิดทุกวันจันทร์เบอร์โทร: 02 214 6630Website: bkkartbiennale.comFacebook: BkkArtBiennaleผู้เขียน: วิภูษิตา ญาติจันทึก

24 ก.พ. 2025

"In the red light, WE THRIVE: เปลี่ยนภาพจำพื้นที่สีแดง ผ่านศิลปะและกลิ่นอายแห่งชุมชน"

เมื่อพูดถึง 'ตรอกสลักหิน' ภาพจำของหลายคนอาจยังเต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีตอันดิบเถื่อน ยุคที่อันธพาลเรืองอำนาจ และความเป็น 'Red Zone' ที่ผู้คนต่างหลีกเลี่ยง แต่แม้กาลเวลาจะผ่านไป ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากพื้นที่ที่ถูกตีตรา กลายเป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยผู้คนที่สร้างสรรค์ และมีเรื่องราวให้ค้นหานิทรรศการ "In the red light, WE THRIVE" เป็นหนึ่งในนิทรรศการศิลปะที่อยู่ภายใต้งาน Bangkok Desing Week 2025 ที่นำเสนอการตีความใหม่ของพื้นที่สีแดง ผ่านมุมมองของสามศิลปิน—'กำปุ๊ง-ปองณภัค ฟักสีม่วง', 'เฟิร์ส-อชิตพล พานทอง' และ 'บอส-พิสิษฐ์ ธัญยนพพร'—ผู้ที่ต้องการเชิญชวนให้ผู้ชมเปิดใจและสัมผัสตัวตนของชุมชนตรอกสลักหินอย่างแท้จริง ผ่านศิลปะแบบ Installation Olfactory Artจุดเด่นของนิทรรศการนี้คือการใช้ ‘กลิ่น’ และการจัดวางศิลปะเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ ผู้ชมจะได้สัมผัสกลิ่นอายของชุมชน ทั้งในแง่ของความทรงจำ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งพบกับงานจัดวางที่พาผู้ชมดำดิ่งลงไปในอดีต ขณะเดียวกันก็นำพาพวกเขากลับมายังปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความหวังหนึ่งในผลงานที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจคือ การจัดวางขวดน้ำหอมที่มีกลิ่นกุหลาบ ที่มีการคอสตอมมาคล้ายกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม วางอยู่บนพื้นดิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจาก ดอกกุหลาบ ที่เคยถูกมองว่าเป็นของสูงส่ง กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เปรียบเสมือนตรอกสลักหิน ที่จากพื้นที่ต้องห้ามในอดีต ได้กลายเป็นชุมชนที่เปิดกว้างและพร้อมต้อนรับทุกคน"In the red light, WE THRIVE" จึงไม่ใช่เพียงแค่นิทรรศการศิลปะ แต่เป็นบทสนทนาที่เปิดโอกาสให้คนภายนอกได้ทำความรู้จักกับตรอกสลักหินใหม่อีกครั้งไม่ใช่ในฐานะพื้นที่สีแดงของอดีต แต่เป็นชุมชนที่เติบโต งอกงาม และพร้อมจะเฉิดฉายท่ามกลางแสงแห่งปัจจุบันพิกัด Station Hotel ย่านหัวลำโพงระยะเวลา วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 8-9 ก.พ. 2568 , 15-16 ก.พ. 2568 , 22-23 ก.พ. 2568เวลา: 11:00 - 22:00ผู้เขียน วิภูษิตา ญาติจันทึก

20 ธ.ค. 2024

LOVE YOURSELF นิทรรศการศิลปะที่ชวนให้ทุกคนโอบกอดตัวเอง

หากหัวใจของคุณกำลังต้องการพลังบวก หรือการปลอบโยนจากความเหนื่อยล้าในชีวิต Atime ขอแนะนำ LOVE YOURSELF Exhibition นิทรรศการที่สร้างพื้นที่ให้เราได้โอบกอดตัวเอง และความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิตนิทรรศการ LOVE YOURSELF จัดแสดงในรูปแบบ SERIES EXHIBITION และ SINGLE EXHIBITION โดยมีผลงานกว่า 120 ชิ้น จาก 63 ศิลปิน ภายใต้แนวคิด "LOVE YOURSELF" ผลงานทุกชิ้นถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดความอ่อนไหว และส่งเสริมการยอมรับตัวเองในแบบที่เราเป็นซึ่งนิทรรศการนี้จะพาไปสำรวจโลกแห่งความรู้สึกผ่านงานศิลปะที่สื่อถึงการรักตัวเองในทุกแง่มุม ตั้งแต่การยอมรับความผิดพลาด ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบในตัวเราอย่างผลงาน NO MATTER HOW CRUEL THE WORLD IS, YOU WILL ALWAYS HAVE ME HEREที่เป็นการเล่าเรื่องราวผ่านการผจญภัยของเด็กสาวที่กำลังหาของที่หายไป โดยที่ไม่รู้ตัวว่าของนั้นอยู่ใกล้ตัวเองมากแค่ไหน ซี่งสร้างมาเพื่อบอกทุกคนว่าต่อให้โลกจะโหดร้าย ก็อย่าลืมว่าเรายังมีตัวเองให้โอบกอดเสมอต่อมาเป็นผลงานที่ชื่อว่า The Power Of Wing พลังแห่งปีกผลงานชิ้นนี้ศิลปินได้รังสรรค์มาด้วยความที่เชื่อว่าทุกคนเกิดมาพร้อมกับมีปีกเป็นของตัวเอง เราเป็นคนกำหนดทิศทางชีวิตตัวเอง และสามารถที่จะเลือกได้ว่าเราจะใช้ปีกบินไปในทางไหนให้บาดเจ็บน้อยที่สุดเมื่อเดินชมแต่ละผลงาน คุณจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความหวังที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนมากับตัวเองLOVE YOURSELF เป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมก่อนหมดปี ลองมาสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเยียวยาและการโอบกอดตัวเอง แล้วคุณจะพบว่าความอบอุ่นใจนั้นหาได้ไม่ไกลเกินเอื้อมระยะเวลา 30 พ.ย. 2567 – 2 มี.ค. 2568พิกัด UNION MALL ชั้น 4 ., UNION CO-ART SPACE เข้าชมฟรีผู้เขียน วิภูษิตา ญาติจันทึก