คุยกับ fellow fellow ถึง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า

Beauty & Health

คุยกับ fellow fellow ถึง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า

11 ก.ย. 2023

fellow fellow กลับมาลุยงานเพลง ภายใต้ต้นสังกัดใหม่อย่าง Kicks Records พร้อมสองซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ที่ต้องบอกเลยว่า ทันทีที่ปล่อยออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับดีสุด ๆ วันนี้เราเลยขอชวน ข้าว—ปณิธิ เลิศอุดมธนา และ ที—พิษณุ หทัยพัธลักษณ์ จาก fellow fellow มาพูดคุยถึงการทำงานในสองซิงเกิลนี้กัน

 

ช่วยเล่าคอนเสปของเพลง "ดาวหางฮัลเลย์" ให้เราฟังหน่อย

ข้าว – “ผมเป็นคนชอบเรื่องอวกาศอยู่แล้ว แล้วก็พอจะรู้จักดาวหางฮัลเลย์คร่าว ๆ เราได้ยินมาตอนเด็ก ๆ ก็พอจะรู้ว่าเป็นดาวหางที่จะวนมาที่โลกเรื่อย ๆ ซึ่งพอไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ก็รู้ว่ามันจะวนกลับมาให้เห็นด้วยตาเปล่าทุก 75 ปี เลยรู้สึกว่ามันโรแมนติกดี ถ้าเราจะเอามาเปรียบกับเรื่องความรัก มาพูดกับใครสักคนว่า เราอยากจะรอดูดาวหางฮัลเลย์กับเธอจัง มันแปลว่าเราอยากอยู่ไปจนแก่นะ อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ”

เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ย

ที – “น่าจะประมาณเดือนกว่า ๆ ครับ”

คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้

ข้าว – “คอนเสปนี่แหละครับ ดาวหางฮัลเลย์นี่แหละ”

ที – “ผมว่าน่าจะเป็นช่วงตอนเขียนแหละ”

ครั้งนี้ fellow fellow กลับมาในแนวที่เปลี่ยนไปด้วยใช่มั้ย

ข้าว – “หลายคนอาจจะจำ fellow fellow ว่าทำเพลงเศร้า จริง ๆ แล้วเราก็มีมุมโรแมนติกครับ แค่ยังไม่ได้นำเสนอให้ทุกคนเห็นบ่อย ๆ”

ที – “น่าจะเป็นเพราะว่าเราหายกันไปพักใหญ่ด้วย ปีกว่า ๆ ทุกคนเลยอาจจะมองว่ามันเปลี่ยนไป แต่ผมว่าสไตล์เพลง วิธีการเล่าเรื่อง มันก็คล้าย ๆ กับก่อนหน้านี้ที่เราทำ แต่อาจจะมีสี หรืออะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัย”

ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลง "ดาวหางฮัลเลย์"

ข้าว – “มันจะมีท่อนนี้ครับ ผมเขียนว่า ยังมีเพลงรักเป็นพันบทเพลงรอแชร์ให้เธอได้ฟัง ยังไม่รวมถึงลูกที่เราจะมีด้วยกันในอนาคต ที่จะเป็นสัญญาความรักของเรา”

ที – “ตอนแรกที่ข้าวเขียนมา ผมก็ตกใจเหมือนกัน ข้าวมันจะไม่เขินเหรอ ร้องท่อนอะไรแบบนี้”

ข้าว – “ตอนแรก ๆ ก็เขียนไปเขินไป แต่รู้สึกว่ามันต้องใส่ รู้สึกว่าการที่เราพูดกับใครสักคนเรื่องลูก แปลว่าเรามองสเต็ปไปไกลมาก มันมากกว่าความรักทั่วไปละ แสดงว่าเราต้องการที่จะมีเขาในชีวิต”

ที – “ซึ่งก็ทำให้เห็นว่าเพลงนี้เรามีความเติบโตทางด้านอารมณ์ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น”

มีฟีดแบคจากคนฟัง บอกว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงงานแต่งในอนาคต รู้สึกยังไง

ข้าว – “ดีครับ ยินดีเลยครับ”

มาที่อีกเพลง "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" เพลงนี้เริ่มต้นมาจากอะไร

ข้าว – “มันมาจากการที่ผมคิดว่าเนื้อหาแบบนี้ทุกคนน่าจะเคยผ่านมา ก็คือเราอาจจะเคยมีความทรงจำกับใครสักคน อาจจะเป็นเพื่อนเก่า แฟนเก่า”

ที – “คนที่เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เกินกว่า 3 ปีขึ้นไป อะไรแบบนี้”

ข้าว – “วันนึงเราอาจจะบังเอิญเจอรูปภาพที่ทำให้เราระลึกย้อนเรื่องราวในอดีต แล้วเราอาจจะคิดว่า ตอนนั้นเราก็มีความสุขดีเนอะ ทีนี้ก็อยากจะย้อนถามอีกฝั่งนึงว่า แล้วเธอล่ะ เวลาเธอนึกถึงเรา มันเป็นความทรงจำที่ดีหรือเปล่า ถ้าบังเอิญเจอหน้ากัน เดินสวนกัน เธอจะทักเรามั้ย หรือว่าเธอจะหลบหน้า เหม็นหน้าเรา อะไรแบบนี้อะครับ”

เพลงนี้ได้ guncharlie มาร่วม feat. ด้วย การร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง

ข้าว – “คือน้อง guncharlie เนี่ย เป็นศิลปินร่วมค่ายอยู่แล้ว เป็นศิลปินรุ่นพี่ใน kicks records ครับผม เราเห็นความสามารถของเขาอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นแรปเปอร์ที่มีสไตล์การแรปที่ค่อนข้างเป็นเด็กรุ่นใหม่ แล้วก็คิดว่าน่าจะเหมาะ”

ที – “แล้วเพลงที่เขาปล่อย ๆ มาก่อนหน้านี้ ก็ดูเหมาะกับมู้ดเพลงที่เรากำลังทำอยู่พอดี แล้วด้วยความที่เราก็ย้ายบ้านใหม่มาอยู่ในบ้านเดียวกันด้วย ก็เลยง่ายเลยครับ ก็เลยคุยกับพี่แทนว่าอยากได้น้องกันมาร่วมฟีท”

ข้าว – “ตอนแรกก็คิดถึงคนอื่นเยอะแยะ แต่สุดท้ายก็คุยกับพี่แทนว่าน้องกันเนี่ยแหละ ผมว่าน้องกันน่าจะเวิร์ค”

ที – “พอระบุเป็นน้องกันปุ๊บ เราก็ส่งเดโม่ไปเลยครับ น้องกันก็เขียนกลับมาภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมงเลยเนอะ ได้เดโม่แรกกลับมาเลย”

ข้าว – “ใช่ เด็กสมัยนี้ไฟแรง”

ที – “สุดท้ายก็คุยกัน แก้ไปแก้มา ผมก็ทำดนตรีเพิ่ม เหมือนคุยกันว่าอยากได้มากกว่านี้ เพิ่มท่อนมั้ย ผมก็ทำดนตรีเพิ่มส่งกลับไป แป๊บ ๆ ก็ได้กลับมาครบทั้งท่อนหมดเลย”

เพลง "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ใช้เวลาทำนานมั้ย

ข้าว – “มาควบคู่กับดาวหางฮัลเลย์เลยครับ แต่งมาพร้อม ๆ กัน”

ที – “ใช่ ทำในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน ก็ประมาณเดือนกว่า ๆ เหมือนกันครับ”

เป็นความตั้งใจของ fellow fellow มั้ย ที่อยากให้สองซิงเกิลที่ปล่อยมาอารมณ์คอนทราสกัน

ข้าว – “จริง ๆ ก็คือความตั้งใจนะครับ จริง ๆ เริ่มเขียนเพลง ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอหรือเปล่า ก่อน เสร็จแล้วก็รู้สึกว่าเราต้องทำเพลงอีกสักเพลงนึง แต่งมาเผื่อ แล้วความรู้สึกมันไม่ควรจะไปซ้ำกับอีกเพลงนึง ก็เลยพยายามแต่งอีกเพลงที่มันแตกต่างออกมา ก็เลยมาเป็นเพลงดาวหางฮัลเลย์”

ตัว VISUALIZER ของทั้งสองเพลง เป็นเหมือนภาคต่อกันด้วยมั้ย

ที – “จริง ๆ ด้วยความที่มันถ่ายพร้อม ๆ กันด้วยแหละครับ แต่วิธีการสื่อสารมันอาจจะไม่ได้ต่อกัน หรือมันอาจจะต่อกันก็ได้นะ แล้วแต่คนตีความ แต่มันเป็นความบังเอิญที่เราถ่ายทำพร้อม ๆ กัน คนแสดงก็ใช้คนเดียวกัน”

 

ทำไมถึงเลือกใช้เป็น VISUALIZER แทนการทำเป็น MV

ข้าว – “ผมรู้สึกว่าผมอยากให้คนฟังเพลงอะครับ ผมอยากให้ภาพ VISUALIZER มันทำหน้าที่เสริมอารมณ์ในการฟังเพลง ให้มันเห็นภาพมากขึ้น แต่ไม่ได้มาแย่งซีนของเพลง”

ที – “เหมือนส่วนใหญ่เวลาเราเห็นคอมเมนต์ของ MV ที่เป็นเส้นเรื่อง หลัก ๆ คอมเมนต์ข้างล่างมันจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งเนอะ มันจะเป็นฝั่งที่เรามาวิเคราะห์เนื้อเรื่องของ MV กัน แล้วอีกฝั่งก็จะคอมเมนต์เรื่องเพลง แต่พอมาเป็น VISUALIZER มันจะตัดเรื่องนั้นออกไป เพราะมันไม่ต้องมีการเชื่อมโยงอะไรทั้งสิ้น คือเราฟังเพื่อเป็นภาพประกอบมู้ดของเพลง”

ข้าว – “คืออยากให้คนฟีลกับภาพ รู้สึกว่าภาพสวย แล้วอารมณ์มันไปกับดนตรีด้วย”

อยากให้ทั้งสองเพลงนี้ เป็นอะไรสำหรับคนฟัง

ข้าว – “ดาวหางฮัลเลย์ ก็อยากให้เป็นเครื่องมือในการที่แบบ ถ้าเราสักใครสักคนนึง ที่เรารู้สึกว่ารักเขามาก ๆ อยากจะอยู่กับเขาไปตลอด เพลงนี้ใช้ได้ ใช้เป็นสื่อ ใช้เป็นเพลงงานแต่งได้ครับ”

ที – “ส่วน ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอหรือเปล่า อาจจะให้เป็นมุมมุมนึงไว้ให้เขาคลายเหงาละกันครับ ผมว่ามันน่าจะเหมาะสมกับแบบนั้นมากกว่า มันจะออกสื่อมากก็ไม่ได้เนอะ”

ข้าว – “อ่า ใช่”

ที – “แต่ถ้าโสดจริง ๆ ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน”

ข้าว – “ถ้าโสดใช้ได้ มีแฟนก็ใช้ได้ แต่ถ้าแฟนถามก็บอกว่าเพื่อนเก่า (หัวเราะ)”

พูดอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตาม fellow fellow อยู่หน่อย

ที – “ขอบคุณแฟนคลับตั้งแต่ยุคดั้งเดิมที่ติดตามกันมาจนถึงปัจจุบัน แล้วใครก็ตามที่ฟังเพลงใหม่ ๆ เรา แล้วก็ โห เพลงนี้เป็นเพลงแรกเลยที่เคยฟัง ก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยครับ มันก็เป็นเหมือนกำลังใจสำหรับเราเหมือนกันนะ เวลามีใครมาคอมเมนต์ หรือว่าโพสต์สตอรีแล้วแท็กบอกเราว่าชอบเพลงนี้มาก ๆ”

ข้าว – “เราเก็บทุกคอมเมนต์ พวกคอมเมนต์ในยูทูปหรือเฟซบุ๊คอะไรแบบนี้ คนทั่วไปอาจจะคิดว่าศิลปินคงไม่ค่อยตั้งใจที่จะดูที่จะอ่าน แต่พวกผมอ่านทุกบรรทัดนะครับ”

ที – “บางทีอาจจะไม่ได้อยากไปตอบมาก เพราะรู้สึกว่าเดี๋ยวมันอาจจะดูรก แต่ว่าเราอ่านหมด”

สปอยล์งานในอนาคตหน่อย เราจะได้เห็นอะไรจาก fellow fellow อีกบ้าง

ที – “ก็ในปีนี้ คิดว่าน่าจะมีเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลงครับ สปอยล์ได้มากสุดเท่านี้”

ข้าว – “สปอยล์มากกว่านี้ไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ได้ทำ”

ที – “มันก็จะเป็นแนวที่เราทำกันอยู่แล้วอะครับ แต่อกหักหรือสมหวังยังไม่แน่ใจ ให้รอติดตามครับ”

สามารถเข้าไปฟังและชม OFFICIAL VISUALIZER ของทั้ง 2 ซิงเกิลล่าสุด "ดาวหางฮัลเลย์" และ "ฉันคือความทรงจำดี ๆ ของเธอรึเปล่า" ได้แล้ววันนี้ บน YouTube: fellowfellowband และทุกบริการ Music Streaming

related Beauty & Health

Talk with Whal & Dolph ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai)

23 ก.พ. 2024

Talk with Whal & Dolph ถึงเบื้องหลังซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai)

Whal Dolph ปล่อยซิงเกิลใหม่รับวาฬเลนไทน์ “ดีใจรึเปล่า” (D Jai) ที่ได้ชาวปลามาเติมความพิเศษให้ซิงเกิลนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงได้ชวน ปอ-กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ และ น้ำวน-วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ มาพูดคุยถึงเรื่องราวการทำงานในซิงเกิลนี้กันซิงเกิลใหม่ “ดีใจรึเปล่า” เริ่มต้นมาจากอะไรปอ – “มันเริ่มต้นมาจากช่วงนั้นผมกำลังจะแต่งงาน ผมก็เลยคิดว่าอยากจะมีเพลงสักเพลงนึง ไว้ถามภรรยาของผม ว่าเขาดีใจหรือเปล่าที่ได้เจอกับผม ดีใจหรือเปล่าที่ได้รักผมคนนี้ ก็เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา”คิดว่า "ดีใจรึเปล่า" มีความโดดเด่นหรือแตกต่างจากเพลงรักเพลงก่อน ๆ ของ Whal Dolph มั้ยปอ – “เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เราได้ร่วมงานกับเพื่อนเรา เป็นโปรดิวเซอร์คนนึง ตอนแรกเขามาเที่ยวบ้าน แล้วเราก็บอกว่า เราอยากทำเพลงที่มีกรู๊ฟ มีความโมทาวน์เล็ก ๆ แล้วเพื่อนเราก็บอกได้ ๆ งั้นพวกเอ็งแต่งมา แล้วเดี๋ยวเขาไปขึ้นเบสขึ้นกลอง เขาก็ทำเบสทำกลองมาให้เรา ซึ่งมันก็ตรงใจกับเรา เราไม่เคยทำเพลงที่กรู๊ฟประมาณนี้ ถ้าถามความโดดเด่นในด้านดนตรี คือมันจะฟังเพลิน มีความโยกได้เบา ๆ ประมาณนี้”อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในขั้นตอนการทำเพลงนี้น้ำวน – “ตอนแรกผมว่าพาร์ทที่ยากที่สุดคือพาร์ท rhythm ของเพลงนี้แหละครับ ตอนแรกเราทำมารอบนึงละ แล้วเรารู้สึกว่าเฉย ๆ ไม่ได้ชอบ จนมีเพื่อนคนที่ปอบอกเมื่อกี้อะครับมาช่วย มันก็ทำให้ทุกอย่างมันดูลงตัวมากขึ้น”ทั้งคู่ชอบท่อนไหนมากที่สุดในเพลงน้ำวน – “ผมชอบท่อนโซโล่ครับ มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน คือการโซโล่คู่กัน”ปอ – “ซึ่งมันเป็นไอเดียของเพื่อนเราที่ชื่อบิลลี่คนนี้แหละครับ บอกว่าอยากให้ปอกับน้ำวนโซโล่คู่กันให้ดูหน่อย มันอยากเห็น ซึ่งเราไม่เคยคิดเลยนะ”น้ำวน – “ใช่ เราไม่เคยทำเลย”ปอ – “ส่วนผม ถ้าเป็นเนื้อเพลงนะ จริง ๆ ชอบทุกท่อนเลย แต่ถ้าให้เลือกมาอันนึงนะ ชอบท่อน ‘ให้เธอได้รักไม่ต้องกลัวว่าเธอจะเสียใจ โปรดรู้ว่ารักครั้งนี้จะไม่ยากสักเท่าไร ดีใจรึเปล่า’ มันความรู้สึกแบบ เธอไม่ต้องกลัวกับความรักครั้งนี้แล้ว เพราะมันไม่ยากหรอก อะไรประมาณนี้”มาที่พาร์ท MV กันบ้าง MV นี้สตอรีเป็นยังไงน้ำวน – “เป็นเรื่องราวของแฟนเพลงของเราครับ คนที่อยู่ใน MV เรา คือแฟนเพลงเราจริง ๆ ที่เราคัดเลือกเขาเข้ามาด้วยการเล่นกิจกรรม ให้เขาพาคนที่รู้สึกดีด้วยในความสัมพันธ์ของคุณมา ซึ่งก็จะมีมาหลายรูปแบบเลย เพื่อน พี่น้อง คู่รัก สัตว์เลี้ยง ให้เขามานั่งฟังเพลงด้วยกัน แล้วเราก็เก็บรีเอคชันเขาว่ารู้สึกยังไงกับการฟังเพลงครั้งแรก”ปอ – “เรามีกิจกรรมให้แฟนเพลงส่งคำตอบมา ถ้าได้มาฟังเพลงใหม่ และอยู่ใน MV ของ Whal Dolph คุณอยากพาใครมา ด้วยเหตุผลอะไร ก็มีส่งมา 500-600 คน แล้วเราก็คัดเลือกจากข้อความที่เราชอบที่สุด”บรรยากาศการถ่ายทำเป็นยังไงบ้างน้ำวน – “เท่าที่ดูคร่าว ๆ นะครับ คือผมอยู่แหละ แต่เขาไม่ได้ผมลงมา คือมันจะมีชอตที่เซอร์ไพรส์แฟนเพลง คือให้พวกผมเล่น ก็ดูชื่นมื่นดีนะครับ ทุกคนก็พาคนรู้ใจมา ทุกคนก็คุยกัน เฮฮา”ชอบซีนไหนที่สุดใน MVปอ – “ชอบซีนสุดท้าย ที่เป็นข้อความขึ้นตรงคน เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากมา มันคือเหตุผลจริง ๆ ที่เขาเขียนมา แล้วเราเอามาขึ้นตรงนั้นตอนท้าย ไปจนถึงตอนจบ แล้วก็มีคู่สุดท้ายที่เขากำลังจะแต่งงานกันเพราะของเรา เราก็รู้สึกเรามีประโยชน์ดีนะ ภูมิใจ”ขอ 1 ประโยคบอกรัก ที่ไม่มีคำว่ารักน้ำวน – “กินข้าวหรือยัง”ปอ – “เป็นไงมั่ง”ความรักที่ดี ในมุมมองของ Whal Dolph เป็นยังไงปอ – “ความรักที่ให้อภัยกันได้ เข้าใจกัน แล้วก็มีเวลาให้กัน มีที่ว่างให้กัน สำหรับผมมันก็คือเป็นความรักที่ดีแล้วครับ”อยากร่วมงานกับใครบ้างมั้ยในอนาคตปอ – “ถ้าสักคนนึงในชีวิตอะ ผมอยากร่วมงานกับพี่ปาล์มมี่นะ ผมชอบเขามาก ทั้ง performance ทั้งเพลงของเขา ผมรู้สึกว่าถ้าไปถึงจุดนั้น แล้วเราสามารถเขียนเพลงขึ้นมาเพลงนึง แล้วให้พี่ปาล์มมี่มาร้องเพลงกันเราได้ น่าจะฟินมากเลย”น้ำวน – “พี่โป่ง หินเหล็กไฟ ละกันครับ ชอบมากส่วนตัว”เป็นธรรมเนียมของ Whal Dolph ใช่มั้ย ที่จะปล่อยเพลงใหม่ทุกวาเลนไทน์ปอ – “ใช่ครับ หนึ่งในการปล่อยเพลง จริง ๆ เราปล่อยทั้งปี แต่คนชอบคิดว่าเราปล่อยแค่วาเลนไทน์ ห้ามใช้คำนี้ ไม่งั้นเดี๋ยวเพลงอื่นจะไม่มีคนฟัง (หัวเราะ) ปล่อยทั้งปีนะครับ แต่วาเลนไทน์เราก็จะปล่อยเป็นซิงเกิลเปิดปีในทุก ๆ ปี แต่ถ้าปีไหนเราทำไม่ทันจริง ๆ เราก็จะบอก อย่างปีที่แล้วเราทำไม่ทัน เราก็จะบอกว่าไม่มีนะปีนี้ ไม่ต้องรอ”พูดอะไรถึงชาวปลาที่ติดตาม Whal Dolph กันอยู่หน่อยปอ – “สำหรับชาวปลาทุกคนที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้นะครับ ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แปลว่าคุณเป็นแฟนปลาตัวจริง เพราะคุณอ่านมาจนจบ ต้องขอบคุณมาก ๆ ที่อยู่กับเราตั้งแต่วันที่คุณรู้จักเรา จนกระทั่งวันนี้ บางคนตามมานาน หรือว่าบางคนเพิ่งมาติดตามกัน แต่ไม่เป็นไรเลย ขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณในทุก ๆ ข้อความที่ส่งมา ทุก ๆ การมาดูของคุณ มันมีความหมายนะครับกับวงดนตรีวงนึง แค่คุณมาดู แค่คุณแชร์เพลงของเรา หรือแค่คุณคอมเมนต์ มันต่ออายุชีวิตของวงดนตรีวงนึงได้จริง ๆ ก็ขอบคุณที่เกิดมาเป็นแฟนเพลงของพวกเราครับ”

Talk with PepperChacha ถึงเบื้องหลังการทำซิงเกิลล่าสุด "เจ็บกว่าที่คิด"

09 ต.ค. 2023

Talk with PepperChacha ถึงเบื้องหลังการทำซิงเกิลล่าสุด "เจ็บกว่าที่คิด"

หลังจากห่างหายกันไปนาน ตั้งแต่ “เจ็บที่ไร้ร่องรอย” ล่าสุด PepperChacha หรือ ชาช่า-ริต์ตา รามณรงค์ ก็ได้กลับมาจับงานเพลงอีกครั้งกับ LOVEiS ENTERTAINMENT พร้อมซิงเกิลใหม่ เล่าเรื่องราวความเจ็บปวด อย่าง “เจ็บกว่าที่คิด” วันนี้เล่าเลยได้ชวนชาช่า มาพูดคุยถึงเรื่องราวกว่าจะมาเป็นซิงเกิลเจ็บ ๆ ซิงเกิลนี้กันห่างหายจากการทำเพลงไปนานมาก ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมาบ้าง“ทำหลายอย่างเลย จริง ๆ ตั้งแต่ ‘เจ็บที่ไร้ร่องรอย’ ช่าก็ไปเล่นละครสักพักนึง มีทั้งละครทีวี แล้วก็ละครเวที แล้วก็มีทำดีเจเอไทม์อยู่ช่วงนึง น่าจะประมาณ 2 ปี อยู่ Chill ที่ตอนนั้นเป็นคลื่นวิทยุอยู่ แล้วก็แสดงมากเรื่อย ๆ มีทำพิธีกรบ้าง แล้วก็เพิ่งมาจับงานสักเมื่อประมาณ 4 ปี แล้วก็กลับมาทำซิงเกิลใหม่กับ LOVEiS”กลับมาอีกครั้งกับ “เจ็บกว่าที่คิด” เพลงนี้เริ่มต้นมาจากอะไร“เริ่มมาจากมีคนถามบ่อยมากว่าเมื่อไหร่จะกลับมาร้องเพลง ฟังเพลงเก่าจนตอนนี้โตแล้วก็ยังฟังอยู่ แล้วเราอะชอบโมเมนต์เวลาขึ้นคอนเสิร์ต เจอแฟนเพลง แล้วเขาร้องเพลงเราได้ แล้วก็ชอบเวลาที่มีคนอกหักแล้วเขาบอกว่า เขาฟังเพลงนี้เป็นเพื่อนเขา เราก็เลยอยากกลับมาทำเพลงใหม่ อยากได้โมเมนต์นั้นใหม่”คอนเสปของเพลงนี้คืออะไร“คือจริง ๆ ชาช่าเป็นช่างสักใช่มั้ยคะ ชาช่าก็จะบอกลูกค้าว่า ไม่เจ็บเท่าที่คิด แล้วก็คุยเรื่องเพลง ช่าก็ชอบสัก ชอบของเล่น พี่เขาก็ชอบคำว่า ไม่เจ็บเท่าที่คิด ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นเพลงไม่เจ็บเท่าที่คิด แต่มันก็จะตรงเกินไป เขาก็เลยเอาเป็น ‘เจ็บกว่าที่คิด’ แล้วกัน”ทำไมถึงเลือกเล่าเรื่องราวความเจ็บปวดอีกแล้ว ตั้งแต่ "เจ็บที่ไร้ร่องรอย" มาเป็น "เจ็บกว่าที่คิด"“เหมือนเรายังคงเจ็บอย่างต่อเนื่อง ยังคงเจ็บอยู่ (หัวเราะ) ที่จริงสำหรับช่า ช่ารู้สึกว่าเวลาคนเศร้า เขาจะมีที่พึ่งเป็นเพลง เราก็อยากเป็นเพื่อนเขา แต่ว่าก็อยากร้องเพลงสมหวังบ้างนะคะ เพราะว่ายังไม่เคยมีเพลงที่มีความสุขเลย ทุกเพลงคือเพลงเศร้าหมดเลย”เพลงเศร้าถือเป็นแนวที่เราถนัดที่สุดด้วยหรือเปล่า“ใช่ค่ะ จริง ๆ ช่าเป็นคนชอบเพลงช้านะ ถ้าเป็นเพลงเร็วก็จะชอบแบบร็อคไปเลย แต่ว่ามันก็อาจจะร็อคไปสำหรับเรา จริง ๆ ก็อยากมีเพลงเร็วเหมือนกัน แต่ปล่อยออกมาเป็นเพลงช้าก่อน เพราะก็อยากให้เป็นเพลงที่ทุกคนเหมือนฟังง่าย ไม่ต้องคิดมาก ฟังครั้งเดียวก็รู้เลยว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับอะไร แล้วก็เมโลดี้ค่อนข้างจำง่าย”มาที่สตอรี MV เรื่องราวมันดูใกล้ตัว และเกี่ยวกับการสักด้วย“ใกล้ที่สุด ถ่ายในสตูตัวเองเลย”ชาช่าเป็นคนเสนอสตอรีนี้ไปเองมั้ย“ไม่ค่ะ จริง ๆ ตอนนั้นอินอยู่สองอย่าง คือเรียนฟันดาบ แล้วก็สัก แล้วพี่ผู้กำกับเขาก็เลยเลือกเรื่องเกี่ยวกับการสัก เพราะเขาชอบมุมนี้ มันดูมีอะไรดี แล้วเราก็สักเป็นจริง ๆ ด้วย เขาก็เลยอยากทำสตอรีเกี่ยวกับการสัก เพราะมันมีการสักคู่ สักกลบแฟนใหม่แฟนเก่า มันค่อยข้างมี relationship ที่ดีในการทำ MV แล้วก็ชาช่าจะมีไฟอยู่ที่ร้าน เขียนว่า your tattoo your story ก็คือ ไม่ว่ารอยสักของใคร มันก็จะมีเรื่องราวสำหรับคนนั้น แล้วเขาก็ชอบ เขารู้สึกว่าอันเนี้ยมันสามารถเป็นสตอรีของเจ็บกว่าที่คิดได้”เคยเจอสถานการณ์แบบใน MV มั้ย“ไม่เคย แต่ว่ามีคนมาสักคู่กันเยอะเหมือนกัน เราก็ไม่ได้ห้ามเขานะ เราก็มีรอยสักคู่เหมือนกัน แต่ของเราเป็นยูวี เป็นชื่อพี่เลโอ สีชมพู ซึ่งพี่เลโอสักชื่อช่า แต่ทำไมคะ สีใส มองไม่เห็นค่ะ ถ้าไม่มีแบลคไลค์ก็คือไม่เห็น สักคู่กันแต่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าลูกค้าที่มาเขาจะให้ออกแบบลายคู่กันเลย หรือว่าสักเหมือนกันเป๊ะอะไรแบบนี้ค่ะ”ถ้าเราเจอสถานการณ์แบบใน MV จะทำยังไง“ก็น่าจะเจ็บมากเลย เพราะว่ามันงานสักกลบงานที่เคยสักคู่กับเราอะเนอะ แล้วเอาแฟนใหม่มาด้วย ใน MV คือตอนแรกที่ช่าอ่านสตอรีก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นชีวิตจริงเขาจะกลับมาเหรอ แต่ว่าในเรื่อง เราเป็นคนบอกเขาเองว่าให้เขากลับมาแก้ที่เรา ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายเขาก็ไม่คิดอะไรเนอะ บอกให้เขากลับมา เขาก็กลับมา ช่าว่ามันคงเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก ๆ เพราะรอยสักมันเป็นอะไร permanent เนอะ พอเราสัก เราเลยรู้สึกว่าฉันมั่นใจ ฉันโอเคที่จะสักลายนี้แล้ว มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่กับชีวิตนะชาช่าว่า”มีเรื่องไหนในชีวิตที่รู้สึกว่าเจ็บปวดที่สุดมั้ย“ก็มีที่สูญเสียน้องลิงตอนนั้น สองตัวพร้อมกันเลย น้องเป็นฮีทสโตรก ตอนนั้นเรายังไม่เคยสูญเสียใคร แล้วพอมาสูญเสียน้อง ก็เลยหนัก มันกะทันหันด้วย จริง ๆ เคยสูญเสียน้องหมาตัวนึง แต่อันนั้นเขาแก่ เราเข้าใจ ร้องไห้ 1 วัน จบ แต่ลิงเนี่ย 3 อาทิตย์ยังทำใจไม่ได้เลย ก็เลยต้องมีอีกตัวมาฮีลใจ เพราะเรารู้สึกว่ามันเป็นความผิดเราด้วยที่ปล่อยเขาร้อน ๆ”ทุกรอยสักมักมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ แล้วมีรอยสักไหนของชาช่ามั้ยที่มีเรื่องราวที่ประทับใจ“มีเยอะมาก ถ้าเอาลายที่มีสตอรีชัดเจนก็จะมีสองอัน อันนี้เป็นแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลคือชื่อคุณแม่ นี่คือการเปิดทางในการสัก ก็คือสักเป็นชื่อแม่อันแรก แม่ก็พูดอะไรไม่ได้ (หัวเราะ) เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นช่างสัก แค่อยากสักก่อน อีกอันนึงก็จะเป็นลายหน้าต่างเครื่องบิน เวลาเรามองออกไปจากเครื่องบิน ก็จะมีปีกเครื่องบิน อันนี้ชาช่าออกแบบเอง เพราะว่าคุณพ่อเป็นนักบิน แล้วก็ชื่อจริงคุณพ่อมีความหมายแปลว่าพระอาทิตย์ ซึ่งข้อดีคือพี่เลโอเขาทัก คือตอนแรกช่าพยายามหาพระจันทร์ ว่าจะวาดพระจันทร์ยังไงดี แล้วเขาก็ถามว่าทำไมต้องพระจันทร์ด้วย แล้วช่าก็บอกชื่อคุณพ่อไป เขาก็บอกว่าอันนั้นมันคือพระอาทิตย์ คือถ้าเขาไม่บอก ช่าก็คงจะได้พระจันทร์มา พ่อก็คงจะงงว่าชื่อใคร อันนี้คือรอยสักที่สองค่ะ อ๋อ แล้วก็อีกอันนึงที่มีสตอรีมาก ๆ ก็คือน้องลิงเนี่ยแหละ เขาชื่ออาบูกับจาฟาร์ ก็เลยสักเป็นการ์ตูนอะลาดิน เพราะว่าช่าว่าทุกอันมันมีสตอรี่อะเนอะ เราก็อยากให้เขาอยู่กับเรา แต่ว่าก็ไม่อยากสักเป็นหน้าจริง ไม่ได้อยากเห็นเป็นหน้าจริง ๆ ของเขาตลอด”ชาช่าทำหลายอย่างมาก ศิลปิน ช่างสัก คอนเทนต์ครีเอเตอร์ อยากรู้ว่าพาร์ทไหนที่รู้สึกสบายตัวที่สุด ถือว่าเป็นเซฟโซนของเรา“จริง ๆ เวลาขึ้นคอนเสิร์ตอะสบายตัว รู้สึกว่าเราได้ปล่อยพลัง แล้วก็ได้ชาร์ตพลังจากคนอื่นด้วย แต่ว่าสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขที่สุดก็คือนั่งอยู่โง่ ๆ เล่นกับสัตว์เลี้ยงที่บ้าน มันคือการชาร์ตพลังที่ดีมาก วันไหนเหนื่อยก็คือจะมานั่ง แล้วก็ปล่อยลิงออกมาวิ่ง เขาจะกระโดดไปมา นั่นคือความสุข หรือแบบแมวมาถูไถ ซึ่งช่าเป็นคนแพ้แมว แต่ก็เลี้ยงแมว เราก็พยายามรักษาภูมิแพ้ตัวเอง เพื่อที่จะคีปเขาไว้ เราก็จะฟัดเขา แล้วหน้าก็จะขึ้นผื่น ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวหายเอง อันนั้นคือโมเมนต์ที่แฮปปี้มาก ๆ ค่ะ”อยากให้ฝากผลงานหน่อย ตอนนี้ชาช่ามีอะไรให้ติดตามกันบ้าง“ช่วงนี้ก็มีเพลงเนี่ยแหละ ‘เจ็บกว่าที่คิด’ ตั้งใจทำงานกันมาก ทั้งชาช่าและ LOVEiS เลย ก็อยากให้ทุกคนลองฟังดู เผื่อเป็นเพลงอกหักเพลงใหม่ในชีวิตนะคะ เคียงคู่มากับ ‘เจ็บที่ไร้ร่องรอย’ ก็ได้ แล้วก็ฝากร้านสักด้วย PEPPER.INKER”สปอยล์ซิงเกิลหน้าได้มั้ย“ซิงเกิลหน้ายังค่ะ แต่ว่าเนี่ยแหละ มันต้องอยู่ในสิ่งที่ชาช่าชอบ เพราะจริง ๆ เราแต่งไว้อีกเพลง เป็นเพลงเร็ว แต่ว่าอันนั้นยังเกลาไม่เสร็จ แต่ว่าเพลงนี้มันมา ฟังแล้วเราโอเคเลย เราก็เลยเลือกปล่อยเพลงนี้เลย”

LIT Entertainment ชวนทุกคนมาสนุก ใน “สนามเด็ก LIT Concert”

30 มิ.ย. 2023

LIT Entertainment ชวนทุกคนมาสนุก ใน “สนามเด็ก LIT Concert”

LIT Entertainment เตรียมแผลงฤทธิ์ ชวนทุกคนมาสนุกในคอนเสิร์ตใหญ่ "สนามเด็ก LIT Concert” ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 ส.ค. 66 ที่ Union Hall, Union Mall เปิดจำหน่ายบัตรวันเสาร์ที่ 1 ก.ค. เวลา 10.00 น. ทาง The Concert วันนี้เราจึงได้ชวนศิลปินทั้ง 9 คน PiXXiE, bamm, Proo Thunwa และ DIDIxDADA พูดคุยถึงงานนี้กันทำไมถึงเป็นสนามเด็ก LITพิมมา – “สนามเด็ก LIT มันเป็นเล่นคำมาจากคำว่า สนามเด็กเล่น มันเหมือนเป็นพื้นที่ของพวกเรา เด็กค่าย LIT ที่จะมาแสดงความสามารถ แล้วก็มาสนุกกับเพื่อน ๆ กับคนดู”ไฮไลท์ของคอนเสิร์ตนี้คืออะไรอิงโกะ – “ไฮไลท์ของคอนนี้ก็จะเป็นความหลากหลายของโชว์ที่เราจะเอามาให้ทุกคนได้ดูค่ะ มีหลากหลายรสชาติ ทั้งเศร้า ทั้งสนุก หรือว่าจะเป็นช่วงการพูดคุย ก็น่าจะทำให้คนดูรู้สึกว่าน่าสนใจ”เปา – “อีกอย่างนึงคือเรื่องของคอนเสปครับ สิ่งนี้น่าจะเป็นไฮไลท์ได้เลย เพราะว่าเราก็ยึดคอนเสปจากคำว่า สนามเด็ก LIT ที่มาจากสนามเด็กเล่น ทุกคนน่าจะนึกภาพออกว่าสนามเด็กเล่นมันน่าจะสนุกประมาณไหน นี่ก็ถือเป็นไฮไลท์ที่เราดึงคอนเสปจากสนามเด็กเล่นมา”อาร์ตี้ – “แล้วก็ครั้งนี้ เราโชว์ในที่ของเราเอง จัดการทุกอย่างได้ในแบบที่เราอยากจะทำ ก็น่าจะเป็นโชว์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอนครับ”เตรียมโชว์กันไปถึงไหนแล้วมาง – “ช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่กำลังเตรียมตัว จัดการ จัดตารางของทุกคนอยู่”พิมมา – “มีการประชุมเกี่ยวกับลำดับการโชว์ หรือว่าเพลงที่เราจะต้องร้องในแต่ละพาร์ท แล้วก็อาจจะมีศิลปินรับเชิญมาด้วย”ใบ้ได้มั้ยว่าเกสต์คือใคร?เปา – “พิมมาครับผม”พิมมา – “พี่โดมค่ะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเป็นคนที่หลาย ๆ คนน่าจะต้องตกใจ”มาง – “เพราะว่าพวกเราก็ตกใจเหมือนกัน”คิดว่าโชว์ของใครมี LIT ที่สุดอิงโกะ – “มีฤทธิ์ทุกคนเลยค่ะ เพราะว่าทุกคนเป็นเด็กมี LIT ไงคะ”อาร์ตี้ – “มีฤทธิ์เป็นกรดหรือเป็นเบสก็ไม่รู้นะครับ”ขอ 3 คำ ให้คนที่กำลังจะกดบัตรวันเสาร์นี้หน่อยอาร์ตี้ – “early bird”เปา – “ลดราคา”พรู – “ใส่ code ด้วย”มาง – “10 เปอร์เซ็น”พิมมา – “The concert”อิงโกะ – “วันที่ 1”ดีดี้ – “เจอกันนะ”ดาด้า – “ชวนเพื่อนมา ด้วยนะคะ”มาเบล – “ต้องมาดู”แอบสปอยล์โชว์ของตัวเอง เป็นท่าโพสสัก 1 ท่าพูดเชิญชวนให้ทุกคนมา "สนามเด็ก LIT Concert” หน่อยดีดี้ – “มันเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเราเลยนะคะ ก็อยากให้ทุกคนมาดูพวกเรา เพราะเป็นคอนเสิร์ตรวมทั้งค่ายด้วย เราไม่ได้เจอกันแบบนี้ง่าย ๆ”อิงโกะ – “แล้วก็คอนเสิร์ตนี้เป็นความตั้งใจของทุก ๆ คนในค่าย LIT Entertainment ไม่ว่าจะเป็นพวกเราศิลปินทั้ง 9 คน พี่ ๆ ทีมงาน ผู้บริหาร ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังต่าง ๆ ทุกฝ่ายก็ตั้งใจกัน ที่จะทำคอนเสิร์ตนี้ออกมาให้ทุกคนได้เข้ามารับชม แล้วก็ได้รับความสุขกลับไปอย่างเต็มที่ค่ะ”พิมมา – “อยากให้ทุก ๆ คนลองเปิดดูกับค่าย LIT นะคะ ก็เป็นเหมือนที่ทุก ๆ คนบอกเลยว่า เป็นคอนเสิร์ตแรกของพวกเรา แล้วหนูกล้ายืนยันได้เลยว่า เด็ก LIT ทุกคนมีความสามารถมากกว่าที่ทุกคนเคยเห็นจริง ๆ ยังไงก็หวังว่าจะได้เจอกันในคอนเสิร์ตนะคะ”

Exclusive Talk กับผู้กำกับ แวววรรณ-วรรณแวว และนักแสดงนำ โทนี่-ใบปอ จาก 'เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me'

15 ก.พ. 2023

Exclusive Talk กับผู้กำกับ แวววรรณ-วรรณแวว และนักแสดงนำ โทนี่-ใบปอ จาก 'เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me'

Exclusive Talk กับสองผู้กำกับฝาแฝด 'แวววรรณ-วรรณแวว หงษ์วิวัฒน์' พร้อมสองนักแสดงนำ 'โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์' และ 'ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์' จากภาพยนตร์เรื่อง 'เธอกับฉันกับฉัน You Me Me' ภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องแรกแห่งปีจาก GDHรู้สึกยังไงที่ได้รับเลือกให้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ใบปอ: "ดีใจมาก เพราะเป็นการร่วมงานกับ GDH แต่ก็ดีใจได้ไม่นาน เพราะเป็นบทฝาแฝด (หัวเราะ) แล้วก็กดดันด้วยเหมือนกัน เพราะยังไม่เคยมีผลงานการแสดง เหมือนเรื่องนี้เป็นการเดบิวต์ในงานแสดงเลย ก็รู้สึกแบบเราจะทำได้มั้ย แถมต้องเล่นเป็นสองคนด้วย กดดันมาตั้งแต่ตอนช่วงเวิร์คชอปเลย แต่ขั้นตอนการทำงานที่นี่เขามืออาชีพกันมาก ๆ เลยค่ะ"สำหรับใบปอ ระหว่างยูกับมี ตัวละครไหนแสดงยากกว่ากันใบปอ: "ถ้าช่วงแรก ๆ จะรู้สึกว่ายูยากกว่า เพราะยูค่อนข้างที่จะไกลจากตัวหนู ส่วนมีจะมีความเป็นตัวหนูมากกว่า แต่ว่ายูจริง ๆ มันก็คือมุมนึงในตัวเราแหละค่ะ แค่ไม่ได้หยิบออกมาใช้บ่อย"วรรณแวว: "ถ้าเจอกันครั้งแรก ใบปอจะเป็นคนไม่ค่อยพูด มีความนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่เวลาสนิทก็จะพูดเก่งขึ้นมา ยิ้มแย้ม น่ารัก เพราะฉะนั้นเวลาเป็นมีมันจะง่ายกว่าสำหรับน้อง ถ้าเป็นยูเหมือนจะต้องไปดึงพลังงานมาใช้เยอะกว่า แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกเปลี่ยนมั้ย สลับกันมั้ย"ใบปอ: "ใช่ค่ะ พอเล่นไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกว่าการเป็นมียากกว่าตรงที่มีเป็นคนซับซ้อน"วรรณแวว: "มีเขาจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ยูคือรู้สึกอะไรก็พูดเลย"โทนี่ล่ะ รู้สึกยังไงที่ได้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้โทนี่: "ก่อนจะมาเป็นนักแสดง ผมคิดเอาไว้เสมอว่า ถ้าจะเล่นหนังสักเรื่องก็อยากจะมาเล่นของ GDH ครับ สุดท้ายก็ได้มาร่วมงานกับ GDH เร็วกว่าที่คิดไว้อีก ก็ต้องขอบคุณพี่วรรณ พี่แวว และพี่โต้ง บรรจง คือผมไม่รู้ว่าผมจะได้รับโอกาสได้แสดงบทอีสาน เด็ก ๆ ใส ๆ แบบนี้อีกหรือเปล่า ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ดีใจมาก ๆ ครับ"สำหรับโทนี่ อะไรเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการเล่นเรื่องนี้โทนี่: "การที่ต้องล้างความเก๊ก แล้วก็พูดอีสาน เพราะผมเป็นคนที่พูดไทยได้ แต่ไม่ได้คล่องขนาดนั้น การที่ต้องใช้สำเนียงอีสานในเรื่องคือค่อนข้างยาก"ถ้าให้เลือกซีนที่ชอบที่สุดสำหรับทุกคน คิดว่าเป็นซีนไหนกันบ้างใบปอ: "ของหนูเป็นซีนงานวัด ถ้าได้เห็นในตัวอย่างก็จะเห็นเลยว่ามันสวยมาก จริง ๆ ทีมโปรดักชันเซตขึ้นมาใหม่ คือมันเหมือนจริงแล้วก็สวยมาก ซีนนั้นทุกอย่างมันดีมาก ๆ เลย แต่ว่าเต็ม ๆ จะเป็นยังไง ก็ต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ค่ะ"โทนี่: "ตอนแรกก่อนที่ผมจะไปดู คือชอบซีนที่มองฝนดาวตก แต่พอไปดูเต็ม ๆ แล้ว มันคือซีนที่พูดไม่ได้ครับ ต้องไปดูในโรงเอา"วรรณแวว: "ของเราก็เป็นซีนที่พูดไม่ได้เหมือนกัน เป็นแถว ๆ เถียงนา ช่วงท้าย ๆ เรื่อง"แวววรรณ: "ชอบซีนดาดฟ้าที่อยู่ในเทรลเลอร์ เพราะรู้สึกว่ามีส่วนผสมที่ลงตัวในซีนนั้น จริง ๆ เป็นซีนแรกที่ถ่ายของวันนั้น น้อง ๆ ยังสดใส ยังไม่ยมนั่นเอง (หัวเราะ) แล้ววันนั้นท้องฟ้าสวยมาก และเนื้อหาในซีนนั้นก็ดีด้วย"ถ้าโลกจะแตกขึ้นมาจริง ๆ ตามคำทำนาย อยากทำอะไรก่อนที่โลกจะแตกใบปอ: "จริง ๆ มันเป็นคำถามที่คุยกันบ่อยมาก หนูถามทุกคนเลยว่า ถ้าพรุ่งนี้โลกจะแตกอยากทำอะไร คือก่อนเรื่องนี้จะฉาย หนูเคยบอกว่าหนูจะเดินเข้าไปใน GDH แล้วขอดูเธอกับฉันกับฉัน เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ดู (หัวเราะ) แต่ว่าตอนนี้ได้ดูแล้ว ก็เลยคิดว่าหนูจะไปกินข้าวเยอะ ๆ กินชาบูค่ะ"โทนี่: "ผมจะบินไปอังกฤษ ไปดูลิเวอร์พูลครับ แต่ไม่รู้ว่าจะเสียน้ำตาก่อนที่โลกจะแตกหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ฟอร์มก็ไม่ค่อยดี"แวววรรณ: "อยากอยู่นิ่ง ๆ อยู่บ้าน แล้วก็ใช้ชีวิตกับครอบครัว ใช้ชีวิตให้เรียบง่ายที่สุด ไม่ต้องออกไปวุ่นวายข้างนอก"วรรณแวว: "เหมือนกัน ขออยู่บ้านดีกว่า"อยากบอกอะไรถึงตัวละครที่เราเล่นมั้ยใบปอ: "เยอะมากเลยค่ะ มีหลายอย่างที่อยากบอก แต่อย่างแรกคืออยากขอบคุณพี่วรรณกับพี่แววที่ทำให้หนูได้มารู้จักกับตัวละครนี้ เพราะเป็นสองคนที่ทำให้หนูโตขึ้นเยอะมาก ๆ ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน ตั้งแต่คิวแรกถึงคิวสุดท้าย เราผูกพันกับตัวละครมาก แล้วก็รู้สึกโตขึ้นไปพร้อม ๆ กับตัวละครจริง ๆ"โทนี่: "จริง ๆ ตัวละครหมากเป็นตัวละครที่เอาเข้ายากมาก แต่เอาออกง่ายมาก เลยรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ค่อนข้างยากสำหรับผม คือครั้งนึงก็ดีใจที่ได้เป็นตัวละครที่เราไม่คิดว่าเราจะได้มาเป็น มันทำให้ผมเข้าใจคำว่าเป็นนักแสดงมากขึ้น ตอนแรกผมก็เข้าใจว่าเป็นนักแสดงที่ดี ก็คือเป็นตัวเราในแบบที่โฟลว์ ๆ ตามบท แต่พอได้มารับบทหมาก มันต้องเปลี่ยนหลายอย่างเลย ก็คือดีใจที่ได้มาเป็นตัวละครนี้ครับ"ในมุมมองของผู้กำกับ อยากให้คนดูได้อะไรกลับออกไปหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้แวววรรณ: "เราอยากให้คนดูสบายใจ มีความสุขหลังจากออกจากโรง มีคำนึงที่มีคนเขียนรีวิวแล้วเราชอบมาก เขาบอกว่าเป็นการไปดูหนังที่เหมือนไปนวดคอบ่าไหล่ คือออกมาจากโรงแล้วความรู้สึกเป็นบวก"วรรณแวว: "เราก็อยากให้คนดูออกมาแล้วนึกถึงชีวิตของเขาเอง ถ้าเขาโตแล้ว เขาอาจจะหวนนึกถึงวัยที่เขากำลังสับสน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ตั้งคำถามกับชีวิต แต่ถ้าเขายังเด็กอยู่ เขาก็คงรู้สึกมีเพื่อน เพราะคนทุกยุคก็ผ่านความสับสนแบบนี้มาหมด มันจะมีคนที่สับสนไปพร้อม ๆ กับเราทุกคนแหละ"สุดท้ายแล้ว อยากให้ฝากภาพยนตร์เรื่อง เธอกับฉันกับฉัน หน่อยใบปอ: "ฝากภาพยนตร์เรื่อง เธอกับฉันกับฉัน ด้วยนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของทุก ๆ คน ไม่ใช่แค่หนู แต่หลาย ๆ ฝ่ายเลยค่ะ เพราะฉะนั้นทุกคนใส่ความตั้งใจ ใส่ทุกอย่างลงไปในหนังเรื่องนี้แล้ว ก็อยากให้ทุกคนไปดูในจอใหญ่ เพราะมันถูกทำขึ้นมาเพื่อที่จะฉายในจอภาพยนตร์จริง ๆ"ย้อนวันวาน หวนคืนถึงความรู้สึกเมื่อครั้งมีรักแรกกันได้แล้ววันนี้ กับภาพยนตร์เรื่อง 'เธอกับฉันกับฉัน You Me Me' ทุกโรงภาพยนตร์