ฟังเพลงออนไลน์ CHILL ONLINE - Work Hard Chill Hard

News Updates

Review Chill Style

Paws Up Cafe คาเฟ่แมวสุดน่ารักในเมืองกรุง

21 พ.ย. 2024

Paws Up Cafe คาเฟ่แมวสุดน่ารักในเมืองกรุง

วันนี้ Atime ขอเอาใจทาสแมวกับแบบสุด ๆ กับคาเฟ่ Paws Up Cafe 105 ซอยพัฒนาการ 52 แยก 42 กรุงเทพฯ คาเฟ่น้องใหม่ ที่มีเจ้าเหมี่ยวเต็มร้าน งานนี้ทาสแมวห้ามพลาดจุดเด่นของร้าน Paws Up Cafe คือ ระบบระบายอากาศที่ทางเจ้าของร้านทำขึ้น ทำให้อากาศภายใน ไม่มีกลิ่นแมวเลย ถึงแม้จะมีน้องแมวจำนวนมากก็ตาม ที่นี่เขามีกิจกรรมมากมายให้เพื่อน ๆ มาเล่นกับเจ้าเหมียวแบบตัวต่อตัว อุ้มได้ กอดได้ ถ่ายรูปคู่ได้ตามใจชอบ หรือใครอยากป้อนขนม ทางร้านก็มีอาหารเปียกจำหน่ายให้เช่นกันสำหรับสายคาเฟ่แล้ว นอกจากจะถ่ายรูปสวย ๆ กันแล้ว ก็ต้องห้ามพลาด ขนม และเครื่องดื่มที่อร่อย ๆ วันนี้แอดเลยอยากจะขอเสนอเมนู วาฟเฟิ้ล เพราะร้านนี้เขามีท็อปปิ้งให้เลือกเยอะมาก สายเนยถั่วอย่างแอด ก็ต้องสั่งท็อปปิ้งเป็น นูเทลล่าพร้อมโรยไอซซิ่งบนวาฟเฟิ้ล ทานคู่กันคือฟินสุดๆมาต่อกันที่เครื่องดื่มของร้าน Paws Up Cafe กันบ้าง อย่างเมนูกาแฟ แอดสั่งเป็น ลาเต้เย็น ใครที่ไม่ทานนมวัว ทางร้านก็มีนมโอ๊ตให้เลือกเพิ่มเติม กาแฟของร้าน ชงอย่างพิถีพิถัน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ ทานแล้วรู้สึกชมชื่นมาก ต่อกันที่เมนูชากันบ้าง แอดสั่งเป็นเมนู มัจฉะ ลาเต้ เมนูนี้จะได้ความสดชื่นแบบจัดเต็มจากมัจฉะ อีกทั้งจะมีความหอมอ่อน ๆ ของกาแฟ แทรกเข้ามา โดยที่ไม่ทำลายความเป็นมัจฉะไป เมนูนี้สายชา หรือคอลกาแฟ ห้ามพลาด แอดรับประกันความอร่อยและบรรยากาศของร้าน Paws Up Cafe เมื่อเข้าไปในร้านแล้วจะให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่น เป็นกันเอง เหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน ใครที่อยากหาที่ฮีลใจ หรือนั่งทำงานชิลกับเจ้าเหมียว ต้องแวะมากันที่ร้าน Paws Up Cafe 105 ซอยพัฒนาการ 52 แยก 42 กรุงเทพฯใครที่สนใจ แอดมีโปรดี ๆ สำหรับลูกเพจมาบอก สำหรับลูกเพจ Atime ที่มีแต้มในแอปพลิเคชัน Atime Fungfin 1,500 แต้ม ก็สามารถมา Redeem เพื่อรับส่วนลด 10% เมื่อมียอดการซื้อสิ้นค้า ภายในร้าน Paws Up Cafe จำนวน 200 บาท ต่อบิล กิจกรรมนี้จัดกันแบบยาว ๆ ถึงวันที่ 31 พฤศภาคม 2568 กันเลยทีเดียวPaws Up Cafeแผนที่การเดินทางมาที่ร้าน Paws Up Cafe คาเฟ่แมวและโรงแรมแมวขับรถมา ร้านจะอยู่ตรงข้ามโลตัสพัฒนาการ ให้เข้าซอยพัฒนาการ 52 ได้เลย แล้วขับมาตามถนนเพราะเป็นซอยบังคับเลี้ยว ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยก 42 นั่นเองมาทางรถเมล์ สายที่ผ่านจะมีสาย 92 93 133 206 11มินิ แล้วต่อวินเข้า บอกไปพัฒนาการ52แยก42ได้เลยมาจากรถไฟฟ้า สถานนีที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าMRTและAirport Rail Link : หัวหมาก แล้วต่อวินเข้า บอกไปพัฒนาการ52แยก42ได้เลยGoogle Map : https://maps.app.goo.gl/99EUUWgVFFPHF4xz9เบอร์โทร : 02-474-0224 , 087-959-4464ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

รวมภาพบรรยากาศความประทับใจ ในงานตามรอยแม่หยัวสตรีศรีอโยธยา

19 พ.ย. 2024

รวมภาพบรรยากาศความประทับใจ ในงานตามรอยแม่หยัวสตรีศรีอโยธยา

วันนี้ Atime พาเพื่อน ๆ มาชมภาพบรรยากาศของงาน "ตามรอยแม่หยัว สตรีศรีอโยธยา" ที่ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ เพราะงานนี้แฟน ๆ ซีรีส์แม่หยัวต้องฟินสุด ในงานขนทับนักแสดงพบปะแฟนคลับ พร้อมชมโชว์ เดิน ชิม ช็อปภายในงาน งานนี้จัดเมื่อวันที่ 7-17 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมาช่องวัน31 เอาใจแฟนซีรีส์แม่หยัว จัดงาน “ตามรอยแม่หยัว สตรีศรีอโยธยา“ ซึมซับบรรยากาศภายในงานเหมือนยกเมืองกรุงศรีอยุธยามาตั้งไว้ ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ (ศรีนครินทร์) พบปะศิลปินดารา และของอร่อยที่พร้อมเสิร์ฟให้แฟน ๆ ละครอิ่มจุใจกันถึงที่โดยภายในงาน “ตามรอยแม่หยัว สตรีศรีอโยธยา” มีการจำลองฉากสำคัญในซีรีส์ อย่างเช่น ฉากท้องพระโรงในพระราชวัง, ห้องบรรทม, และเทวาลัย นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการเครื่องแต่งกายจากนักแสดงที่ใช้ใส่แสดงจริงๆในซีรีส์ อีกทั้งยังมีการเวิร์กชอปศิลปะการแกะสลักผลไม้แบบกุลสตรีไทยห้องบรรทมสมเด็จพระไชยราชาแผนที่จำลองวางแผนรบงานนี้แฟน ๆ ได้มีโอกาสกระทบไหล่นักแสดงในซีรีส์อย่างใกล้ชิด นำโดย ใหม่ ดาวิกา, ฟิล์ม ธนภัทร, เป้ย ปานวาด, บิ๊นท์ สิรีธร, เฟิร์น นพจิรา, พ้อยท์ ชลวิทย์, หมู กลศ, ออร์แกน ราศี อีกทั้งยังมีผู้กำกับ และทีมสร้างสรรค์บทซีรีส์ ที่มาร่วมพูดคุยสร้างความประทับใจให้แฟน ๆ แบบใกล้ชิดงานนี้บอกเลยว่าปังเกินต้าน เพราะมีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทย ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโขน, หุ่นละครเล็ก และหนังใหญ่ให้ชมทุกวันจัดงาน ยังมีตลาดจำลองในสมัยอยุธยา และการจัดกิจกรรมให้ผู้ร่วมงานเข้าร่วมงานได้ทำตลอดทั้งงาน งานนี้บอกเลยว่าแฟน ๆ ที่ไปร่วมงานคุ้มและฟินสุด ๆผู้เขียน : จิตรกร ปะวะโข

ไปจิบกาแฟอ่านหนังสือที่ Café & Bar @ Midnight Library

18 พ.ย. 2024

ไปจิบกาแฟอ่านหนังสือที่ Café & Bar @ Midnight Library

ร้านมิดไนท์ ไลบารี่ (Midnight Library) เป็นคาเฟ่-บาร์สุดเก๋ที่กำลังเป็นที่นิยมในจังหวัดราชบุรี ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่างห้องสมุดและบาร์ ทำให้ร้านนี้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ เหมาะสำหรับทั้งคนที่ชอบอ่านหนังสือและคนที่ชอบสังสรรค์บรรยากาศสองแบบในร้านเดียว ในช่วงเช้าและกลางวัน ร้านจะเน้นบรรยากาศสบายๆ เหมือนคาเฟ่ มีหนังสือให้อ่านมากมาย เหมาะสำหรับนั่งทำงานหรือพักผ่อน ส่วนในช่วงเย็นร้านจะปรับเปลี่ยนเป็นบาร์ที่มีดนตรีเพราะๆ ให้ฟังเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย ร้านมีทั้งอาหารฟิวชั่น เครื่องดื่ม ขนมอบ และคราฟต์เบียร์ ให้เลือกทานกันมุมถ่ายรูปสวยๆ ด้วยการตกแต่งร้านที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้คุณได้แชะภาพสวยๆ กลับไป รวมถึงใครชอบอ่านหนังสือ ที่ร้านก็มีหนังสือให้เลือกอ่านมากมาย มานั่งอ่านไป จิบกาแฟไปชิลกันได้เลยเปิดทุกวัน 10:00 -22:00 วันเสาร์ปิดเที่ยงคืนพิกัด : Midnight Library 1, 32 ซอย แม้นรำลึก 1 ตำบล หน้าเมือง เมือง ราชบุรี 70000ผู้เขียน : พิชญาภา ญาติดุสดี

"วัดปราสาท" มรดกทางวัฒนธรรมริมคลองบางกร่าง อายุที่ยาวนานกว่า 400 ปี

18 พ.ย. 2024

"วัดปราสาท" มรดกทางวัฒนธรรมริมคลองบางกร่าง อายุที่ยาวนานกว่า 400 ปี

วันนี้ Atime พาทุกคนมาไหว้พระเก่าแก่กันที่ จังหวัดนนทบุรี ณ วัดปราสาท เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของจังหวัดนนทบุรี วัดนี้เคยเป็นค่ายทหารในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ริมคลองบางกร่างเช่นเดียวกับวัดบางกร่าง ด้วยอายุที่ยาวนานกว่า 400 ปีในปัจจุบันนี้ วัดปราสาทกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ โดยกรมศิลปากร เพื่ออนุรักษ์จิตรกรรม และประติมากรรมวัดปราสาท ทั้งนี้กรมศิลปากรยังขึ้นทะเบียน วัดปราสาท เป็นโบราณสถานแห่งชาติอีกด้วยจุดเด่นที่ของวัดปราสาท คือ อุโบสถของวัด ซึ่งเป็น โบสถ์มหาอุด โดยลักษณะจะมีผนังด้านข้างทั้งสองไม่มีหน้าต่าง ด้านหน้ามีประตูทรงปราสาทประดับลวดลายปูนปั้น ด้านหลังมีเพียงช่องแสงเล็กๆ หลังพระประธานเท่านั้นนอกจากนี้ ลักษณะเด่นของโบสถ์อีกอย่างก็คือ มีลักษณะเป็น อุโบสถทรงท้องเรือสำเภา หรือที่เรียกว่า ตกท้องช้าง ที่ฐานของโบสถ์จะแอ่นคล้ายโค้งของเรือสำเภา เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์สมัยอยุธยาภายในโบสถ์ประดิษฐาน พระพุทธรูป พระประธาน นามว่า หลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธรูปปราสาททอง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ ประดิษฐานพร้อมพระสาวกและหมู่พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิและปางมารวิชัยอีกกว่า 25 องค์ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งที่วัดปราสาทยังมีโซนสะพานอายุยืน ให้คนที่มาไหว้พระ ทำบุญ ได้อธิษฐานกัน หรือจะแวะถ่ายรูปกับสะพาน หรือโคมยี่เป็ง ที่ทางวัดได้ตกแต่งไว้อย่างสวยงามเพื่อน ๆ คนไหน ที่ชื่นชอบในจิตรกรรม ประติมากรรมของสมัยอยุธยา ต้องห้ามพลาด วัดปราสาท จังหวัดนนทบุรีที่อยู่ : 18 หมู่ 4 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีพิกัด : https://goo.gl/maps/dFYymssKqj33z3fM9เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

ไปไหว้พระ ขอพรหลวงพ่อเหลือวัดสร้อยทองพระอารามหลวง

08 พ.ย. 2024

ไปไหว้พระ ขอพรหลวงพ่อเหลือวัดสร้อยทองพระอารามหลวง

วัดสร้อยทอง หรือ วัดสร้อยทองพระอารามหลวง ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวพุทธเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายหลวงพ่อเหลือ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เชื่อกันว่าท่านสามารถดลบันดาลให้เกิดความสุข ความเจริญ และความสำเร็จ ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเรื่องความรัก การงาน การเงิน และสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโชคลาภพระอุโบสถ ตกแต่งด้วยกระจกสีที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อแสงแดดส่องกระทบ ทำให้ภายในพระอุโบสถดูสดใสและมีชีวิตชีวา ส่วนพระมหาธาตุเจดีย์ศรีสร้อยทอง เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและขอมอย่างลงตัว โดยมีการประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นที่วิจิตรบรรจง และมีบันไดนาคที่ทอดยาวขึ้นสู่ยอดเจดีย์ โดยภายในพระเจดีย์นั้น ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเกศาธาตุ เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน พุทธศานิกชนหลายคน แวะเวียนมาสักการะกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลใครกราบไหว้ สักการะเรียบร้อยแล้ว ด้านหลังจะเป็นแม่น้ำ เราสามารถไป ให้อาหารปลา หรือปล่อยปลาที่ท่าน้ำได้เลย ไหน ๆ มาแล้ว ก็อิ่มบุญ อิ่มใจให้ครบกันเลยวัดสร้อยทองพระอารามหลวงที่อยู่: 1319 ถ. ประชาราษฎร์สาย1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800

เช็งเต็กตึ๊ง CHENG TECK TUNG Café คาเฟ่สุดพิเศษจากโรงเจเก่าแก่

08 พ.ย. 2024

เช็งเต็กตึ๊ง CHENG TECK TUNG Café คาเฟ่สุดพิเศษจากโรงเจเก่าแก่

เช็งเต็กตึ๊ง เป็นคาเฟ่ที่น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เพราะเกิดจากการนำโรงเจเก่าแก่ที่มีอายุถึง 88 ปี มาปรับปรุงให้เป็นคาเฟ่สไตล์ร่วมสมัย ผสมผสานความเก่าแก่ของอาคารสถาปัตยกรรมจีนกับความทันสมัยของการตกแต่งภายในได้อย่างลงตัวบรรยากาศ คาเฟ่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมทั้งยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เช็คอินกันอีกมากมายเมนู เมนูของเช็งเต็กตึ๊งนั้นมีความหลากหลาย ทั้งของคาว เครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยมีการนำวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาใช้ และมีการรังสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีนเข้าไปด้วย ทีเด็ดของที่นี้ก็คือ เต้าหู้ทอด เป็นเต้าหู้ทอดที่นุ่มละมุน ทานคู่กับน้ำจิ้ม ลงตัวที่สุดเช็งเต็กตึ๊ง เป็นคาเฟ่ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัย หากคุณกำลังมองหาคาเฟ่ที่แตกต่างและมีเรื่องราว หาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด และอยากถ่ายรูปสวยๆ เราขอแนะนำให้คุณมาลองสัมผัสประสบการณ์ที่เช็งเต็กตึ๊งที่อยู่ : 121 ถนน ถ.ราษฎรยินดี ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรีพิกัด : https://maps.app.goo.gl/tqCe7y8vzy4TZzP47เปิดให้บริการ : เปิดทุกวัน 09.00 – 18.00 น.เบอร์โทร : 08 1525 5583Facebook : https://www.facebook.com/ChengTeckTungCafeผู้เขียน : พิชญาภา ญาติดุสดี

Chill Talk

Talk with "BUS" because of you i shine ที่มาพร้อมซิงเกิลล่าสุด "TRANSFORMER"

11 พ.ย. 2024

Talk with "BUS" because of you i shine ที่มาพร้อมซิงเกิลล่าสุด "TRANSFORMER"

BUS because of you i shine กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตไปอีกขั้นหนึ่ง กับเพลง "TRANSFORMER" ซึ่งเล่าผ่าน Concept ของความ Futuristic เราจึงได้ชวน จั๋งธีร์, เน็กซ์ และจินวุค ตัวแทนจาก BUS มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้ และความรู้สึกถึง Knock Knock Knock : BUS 1st THAILAND FANCON TOUR ที่ผ่านมากันกลับมาอีกครั้งกับเพลงใหม่ 'TRANSFORMER' เพลงนี้นับได้ว่าเป็นแนวใหม่ ๆ ของบัสเลยไหมเน็กซ์ – “ใช่ครับ มันจะเป็นเพลงที่มีความ futuristic มีความเป็นอนาคตมากขึ้น แล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ทั้งบีท ทั้งตัวเพลงเองมีความพุ่ง มีความหนักมากที่สุดในบรรดาเพลงของพวกเรา”เพลงนี้มีที่มาที่ไปยังไง คอนเซ็ปต์เพลงเป็นยังไงจินวุค – “จริงๆตอนเดโม่แรกจากต่างประเทศ เพลงไม่ได้เป็นเนื้อหาแบบตอนนี้ แต่ว่าพวกเราได้เปลี่ยนเพลงให้มันเป็น T-POP ใส่ภาษาไทยเข้าไป ผสมกับภาษาอังกฤษด้วย”จั๋งธีร์ – “คือตอนแรกเรามีเพลงที่ MonoTree แต่งมา เราก็ได้นำมาเปลี่ยนเป็นภาษาไทยเป็นเพลง TRANSFORMER ซึ่งเอาจริง ๆ ชื่อเพลงนี้ เป็นชื่อที่เขาตั้งมาอยู่แล้ว แต่เนื้อหาข้างในยังไม่ใช่แบบนี้ แล้วพอจะทำมาเป็นภาษาไทย เราก็ชอบในความที่ชื่อมันเป็น TRANSFORMER เราก็เลยเอาเนื้อหาตรงนั้นมาโยงเป็น TRANSFORMER ที่ทุกคนเห็น ก็คือการที่เราจะสามารถเปลี่ยนให้เธอได้นะ เปลี่ยนจากเขามาอยู่กับเราดีกว่า”จินวุค – “พี่ AUTTA เป็นคนทำออกมา จริง ๆ เป็นเรื่องที่ยากมากนะครับ กับการที่ทำเนื้อเพลงออกมาให้เป็นภาษาไทย แล้วก็ฟังแล้วยังดูเท่อยู่”เน็กซ์ – “เพราะภาษาไทยมันมีวรรณยุกต์”จินวุค – “แล้วพี่เขายังสามารถสื่อความหมายของคำว่า TRANSFORMER ที่เราอยากเก็บไว้ได้ด้วย”เพลงนี้โชว์ครั้งแรกที่ FANCON TOUR ขอนแก่น ก่อนที่เพลง และ MV จะปล่อย ตอนนั้นเรารู้สึกยังไงบ้าง ตื่นเต้นหรือกดดันมากกว่าเพลงก่อน ๆ มั้ยจั๋งธีร์ – “จั๋งไม่ได้ไป FANCON ที่แรก” (หัวเราะ)จินวุค, เน็กซ์ – “วันแรกจั๋งป่วย”เน็กซ์ – “ผมตื่นเต้นมาก เพราะเหมือนกับว่าคนยังไม่เคยเห็นเพอร์ฟอร์ม ยังไม่เคยฟังเพลง เพราะงั้นที่แรกที่เราไป มันจะกลายเป็นภาพจำว่า TRANSFORMER เป็นเพลงยังไง ตอนนั้นเราก็เลยตั้งใจกันมาก ๆ ครับ”จินวุค – “ผมส่วนตัวคือตื่นเต้นประมาณนึง แต่รู้สึกดีใจที่ได้โชว์ก่อนเพลงออกมากกว่า เพราะรู้สึกว่าสำหรับคนที่มาดูวันนั้น คงรู้สึกเซอไพรส์มาก คือเพลงนี้ค่อนข้างเต้นเดือดมาก มันยากมาก แล้วรู้สึกว่าอยากรีบโชว์ให้โลกเห็น ว่าเราทำสิ่งนี้ด้วยนะ”จั๋งธีร์ – “อยากรีบโชว์ให้รู้ว่าเราเก่งแค่ไหน ส่วนผมคือไถทวิตเตอร์ตลอดเลย ไม่น้อยใจฮะ” (หัวเราะ)แล้วจั๋งธีร์ที่ดูเพื่อน ๆ โชว์อยู่เป็นยังไงบ้าง รู้สึกยังไงจั๋งธีร์ – “รู้สึกตื่นเต้นแทนเพื่อน เห็นแล้วรู้สึกขนลุกเลย ขนาดนั่งดูในโทรศัพท์ รู้สึกภูมิใจ เอาจริงเพิ่งเคยเป็นมุมมองคนดูครับ คิดว่าเป็นบีอัสคงภูมิใจมาก ขนาดผมดูเองผมยังรู้สึกเห้ยเพื่อนเก่งจังเลย ภูมิใจในตัวเพื่อน แล้วก็อยากไปอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน รู้สึกอย่างนั้น ตอนนั้นผมก็ตามดูตลอดว่าถึงโชว์ไหนแล้วนะ โชว์ 1, 2 ไปโชว์ 3 หรือยัง ถึงไหนแล้วนะตอนนี้”ในพาร์ทการร้องและการเต้น มีจุดไหนที่รู้สึกว่ายากหรือง่ายกว่าเพลงก่อน ๆ มั้ยจินวุค – “พาร์ทเต้นค่อนข้างยากขึ้นประมาณนึง เพลงมันเร็ว เราก็จะต้องเต้นสับ เต้นไม่หยุดเลย แล้วท่ามันค่อนข้างกว้าง ซึ่งการที่เต้นท่ากว้างให้ไลน์เป๊ะมันยากมาก”เน็กซ์ – “คือมันต้องเต้นให้กว้าง ให้เร็ว ให้คม ให้พร้อมกัน ให้เท่ากัน มันเลยยากตรงนี้”จินวุค – “เป็นเพลงที่ออกแบบมาให้ดูจะเต้นพร้อมกันยากมาก ๆ แต่เราก็ทำได้อยู่”แล้วยากไหมกับการที่ต้องเต้นแบบนี้แล้วร้องไปด้วยเน็กซ์ – “เอาจริง ๆ มันก็ยากนั่นแหละ เพราะด้วยตัวเพลงเองมันเร็ว แล้วก็บวกกับท่าเต้นด้วย พอร้องออกมามันค่อนข้างยากพอสมควรเลย”จินวุค – “ส่วนตัวผมไม่ค่อยยากครับ เพราะว่าท่อนผมมาช่วงแรก ๆ แล้วท่อนผมจริง ๆ เพื่อน ๆ จะเป็นคนเต้น แล้วผมก็แค่แรปชิล ๆ ท่อนที่ 2 ของผมก็แค่เดินร้อง ทุกคนจะเต้นแทน”มาที่พาร์ท MV บ้าง MV นี้มีคอนเซ็ปต์ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยเน็กซ์ – “คอนเซ็ปต์อย่างที่บอกไปตอนแรกเลยว่าคือ futuristic ใช่ไหมครับ ก็บอกไปเลยแล้วกันว่าตอนแรกเราได้ inspiration มาจาก The Matrix ก็จะมีความแว่นดำ มีสีเขียว มีโค้ดวิ่ง ๆ มีความ future อยู่ ก็เอาคอนเซ็ปต์นั้นมาเป็นหลัก ก็จะมีฉากที่ให้มันลิงก์กับ TRANSFORMER ก็จะมีพี่ขุนแปลงร่างเป็นรถ กระโดดไปเป็น TRANSFORMER”วันถ่ายทำ MV มีอุปสรรคหรือเรื่องสนุก ๆ อะไรที่พอจะแชร์ได้บ้างมั้ยเน็กซ์ – “ฝนตก”จั๋งธีร์ – “วันถ่ายวันแรกไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไร เพราะเราถ่ายในสตูดิโอ ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เราเซ็ตได้ แต่พอวันที่ 2 ที่เราไปถ่ายที่ม.กรุงเทพ มันอยู่กลางแจ้ง แล้วสภาพอากาศเราก็คุมไม่ได้ ก็มีฝนตกครับ เอาเป็นว่าเขาจุดธูปกันนานอยู่ครับ คือมันไม่ได้ตกก่อนถ่าย มันตกระหว่างที่เราถ่ายทำพอดี เราเลยเริ่มคิดหนักว่าทำไงดี เพราะเราก็ถ่ายไปแล้วประมาณนึง เราจะเริ่มจากศูนย์ใหม่เลยไหม หรือว่าจะรอแล้วถ่ายต่อ กลัวจะไม่ต่อเนื่องกันด้วย ก็จุดธูปกันจนฝนหยุดตก แต่ก็ใช้เวลาอยู่ แล้วเราก็รีเซ็ตถ่ายกันใหม่”เน็กซ์ – “พวกผมก็นั่งเล่น นั่งกินรอ”จินวุค – “กินขนมปังรอ”เน็กซ์ – “แล้วก็มีอีกนิดนึง ตอนฝนมันตก แล้วพอเรามาถ่ายหลังฝนตก มันก็ยังมีฟ้าผ่าอยู่ ผมก็หวังว่าขอให้ตอนถ่ายฟ้ามันผ่าลงมา”จั๋งธีร์ – “Magic moment”เน็กซ์ – “มันจะได้แบบ เปรี้ยง ๆ แต่สรุปไม่มี”จั๋งธีร์ – “มีฟ้าผ่าสีเขียว CG ใส่แทน”แล้วการเล่นกับ CG ยากไหมสำหรับเราจินวุค – “เอาจริง ๆ ไม่ได้ยากกับเรา ยากกับพี่ที่เขาตัดมากกว่า”จั๋งธีร์ – “เราก็เล่นของเรา ไม่ได้มีตัวละครสมมติขึ้นมา เราเล่นแล้วเขาใส่ CG เพิ่มเข้ามาในฉากมากกว่า”จินวุค – “ถ้ามีบางอย่างก็จะแบบว่า มีบางฉากที่เราจะบินลอยแบบช้า ๆ เราก็แค่ทำท่าเร็ว ๆ ปกติ แต่พยายามค้างให้นานเท่าที่ได้ แล้วเขาก็เอาไปทำให้ช้า หรือมีฉากอันนึงของผมกับจั๋ง วิ่งเป็น The Flash เลย ซึ่งอันนั้นพวกเราก็วิ่งจริง ๆ แต่ไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้น แล้วเขาก็เอาไปทำให้เร็ว”จั๋งธีร์ – “แต่ผมวิ่งเร็วจริงนะวันนั้น”รู้สึกยังไงบ้างที่เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ MV 1 ล้านวิวภายใน 24 ชม. แรกที่ปล่อยออกมาเน็กซ์ - “เกินความคาดหวังมาก เอาจริงได้ 1.4 ล้านวิว ซึ่งตอนแรกเราก็จะเห็นว่าแอคดำ แอคบัสออฟฟิเชียลมาบิ๊วว่า เรามาทำ 1 ล้านวิวให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงแรกกัน แต่ว่าส่วนตัวแล้วผมอะ เวลาทำผลงานออกไปแล้ว ไม่ได้คาดหวังแล้วกันว่าจะต้องไปแตะเท่าไหร่ ผมแค่ทำระหว่าง process การทำงานให้เต็มที่ มีความสุขดีที่สุดก็พอ ส่วนเรื่องเป้าหมาย ถ้ามันได้เท่าไหน เราก็ appreciate กับทุกอย่างที่มันออกมาครับผม อย่างครั้งนี้ได้ 1.4 ล้าน ก็รู้สึกดีใจมาก ๆ”เพลง TRANSFORMER เล่าถึงการที่เราจะเป็นฮีโร่ปกป้องคนนึงจากคนไม่ดี แล้วพวกเราแต่ละคนมีฮีโร่ในดวงใจเป็นใครกันบ้างจินวุค - “ของผมคือ Iron Man ครับ เขา sacrifice แล้วก็ช่วยโลกใบนี้ให้ทุกอย่างมันกลับมาดีขึ้นได้ ทั้ง ๆ ที่เขายังมีครอบครัวที่รักมาก แต่เขายอมเสียสละ เป็น my hero ตั้งแต่เด็กเลยครับผม love มาก ถ้าโตขึ้นก็…”จั๋งธีร์ – “อยากเป็น Iron Man”จินวุค – “ใช่ครับ” (หัวเราะ)เน็กซ์ – “ของผมเป็น เจฟ ซาเตอร์ ครับ เขาเป็น my hero เป็น my idol ของผม ชื่นชอบแล้วก็แบบว่า เขาเป็น inspiration ให้ในชีวิตจริง ๆ ของผม”จั๋งธีร์ – “ฮีโร่ของผมคือผมเองครับ จั๋งเอง เพราะผมอยากเป็นฮีโร่ไปปกป้องทุกคน รู้สึกว่าอยากจะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนมีความสุข คนที่ปกป้องโลกนี้ได้ โห เบียวมากเลยแต่ชอบนะ” (หัวเราะ)ในเพลงเราบอกว่าเราเป็น TRANSFORMER แล้วแต่ละคนอยากแปลงร่างเป็นตัวอะไรหรือใคร เพราะอะไรจินวุค – “ผมอยากแปลงร่างเป็นนกแล้วกัน เพราะว่าอยากลองเป็นนก แล้วก็มองโลกในมุมอีกแบบนึง”จั๋งธีร์ – “ผมอยากเป็นปลาที่อยู่ในน้ำลึกเหมือนกันครับ จะได้มองเห็นโลกในอีกแบบนึงเหมือนกัน แบบว่ามีข้างบนแล้ว มีข้างล่างด้วย”จินวุค – “เราก็เคยดำน้ำนะ”จั๋งธีร์ – “ไม่ ลึกแบบว่า ลึก ๆ มองไม่เห็นเลยอะ อยากรู้ว่าโลกใต้น้ำมันเป็นยังไง เพราะตอนนั้นไปดำน้ำแล้วชอบไง”เน็กซ์ – “เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้อยากเป็นใคร เป็นตัวเองดีที่สุดแล้วครับ”ถ้าให้เลือก 1 คนในวงที่คิดว่าเป็น TRANSFORMER มาปกป้องเรา จะเลือกใคร เพราะอะไรเน็กซ์ – “ผมเลือกพี่อลัน เพราะว่าทุกวันนี้เขาปกป้องพวกเราอยู่แล้ว แล้วก็ได้เขามาเขาน่าจะทำหน้าที่เป็น TRANSFORMER ที่คุ้มครองผมได้ดี”จั๋งธีร์ – “ผมเลือกคอปเปอร์ครับ ผมเชื่อว่าเขาจะปกป้องผมได้ คือไม่รู้ แต่ปกป้องได้แน่นอน เชื่อใจคอปเปอร์ เขาเป็นรุ่นพี่ผมไง เขาอาจจะดูแลผมเป็นน้องที่ดีได้”จินวุค – “อืม นึกไม่ออก… พี่ย้งครับ น่าจะปกป้องผมได้จากหลาย ๆ อย่างครับ เขาเป็นพ่อที่คอยสอน ว่าเราไปเจอโลกความจริงแล้วเราจะต้องทำยังไง”เน็กซ์ – “ปกป้องจากองุ่นนี่ไง เปลี่ยนเป็นแอปเปิ้ลแทน” (หัวเราะ)จั๋งธีร์ – “องุ่นไชน์มัสแคท” (หัวเราะ)จินวุค – “อ๋อใช่ เปลี่ยนเป็นแอปเปิ้ลแทน” (หัวเราะ)BUS 1st THAILAND FANCON TOUR กับ FANSIGN ทั้ง 5 ที่ รวมไปถึงกรุงเทพที่เพิ่งจบไป เป็นยังไงบ้าง เล่าความรู้สึกให้ฟังหน่อยได้ไหมจินวุค – “รู้สึกภูมิใจมากครับ ภูมิใจที่เราทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค แล้วก็รู้สึกเห็นได้ชัดเลยว่า ทุกคนดูพอใจ และแฮปปี้กับการได้มาดูโชว์พวกเราครับ แล้วก็ไม่ใช่แค่กับการโชว์ด้วย ดีใจที่ Thailand Tour รอบนี้ เราได้เจอแฟนคลับใกล้ ๆ เราได้เจอบีอัส เราได้คุยกับบีอัสในแฟนไซน์ แล้วก็ตอน hi-bye หลังจบ Thailand Tour มาครั้งนี้รู้สึกสนิทกับแฟนคลับมากขึ้น”จั๋งธีร์ – “ผมรู้สึกว่าได้ไปเจอกับบีอัสในหลาย ๆ ที่ด้วย คนที่ไม่มีโอกาสได้มาเจอเราที่กรุงเทพ เราก็ไปหาถึงที่เลย ถือว่าได้ interact กับทุกคนมากขึ้น”ในระหว่างทัวร์มีโมเมนต์ไหนที่เรารู้สึกประทับใจเป็นพิเศษไหม หรือเป็นโมเมนต์ที่เราจำได้ไม่ลืมเน็กซ์ – “มีครับ เป็นที่เชียงใหม่ครับ ที่สุดท้าย แล้วก็เป็นเพลงสุดท้ายด้วย ตอนนั้นร้องเพลงภาพเรา เป็นท่อนท้าย ๆ ด้วย ผมบอกตอนที่ใกล้จะจบคอนเสิร์ตละ ผมบอกทุกคนว่า ‘ทุกคนครับ ผมขอทะเลดาวหน่อยได้ไหม’ แล้วด้วยความที่เชียงใหม่คนเยอะมาก 5,000 คน ทุกคนพร้อมใจกันทำทะเลดาวให้ ตอนนั้นมันเป็นภาพที่สวยมาก ตื้นตันมาก โห นึกแล้วจะร้องไห้ ทะเลดาวที่แบบ ไม่เคยเจอเยอะขนาดนั้นมาก่อน แล้วทุกคนพร้อมใจทำให้มันสวยงามมาก”จั๋งธีร์ – “ใช่ครับ ผมด้วยครับ ชอบครับ ผมร้องไปแล้วครับตอนนั้น รู้สึก powerful รู้สึกตื้นตัน หันไปเห็นคนอื่นร้องผมก็ร้องตาม”จินวุค – “สวยจริงครับ ไม่รู้ทำไม แต่เห็นแล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกได้รับพลังบางอย่าง แล้วมันก็ซึ้ง หันไปอีกทีพี่ฮาร์ทร้องแล้ว ผมก็ร้องตาม”BUS แต่ละคนมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนกับการคิดโชว์ การเลือกเพลงต่าง ๆ ใน FANCONจินวุค – “เราก็มีส่วนร่วมในการออกไอเดีย คือเราพยายามทำให้ 5 ที่ มีความ fresh ขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะมันก็เป็นโชว์เพลงเดิมแหละ แต่เราอยากเปลี่ยนกิมมิกข้างใน พอเราโชว์ที่นึงเสร็จ เราก็จะมีวันซ้อม กลับมารวมกัน เราก็จะมาคุยกันเองว่ารอบนี้เราจะเปลี่ยนยังไงดี เราก็อาจจะมีเปลี่ยนท่าเล็กน้อย เปลี่ยนบล็อกกิ้ง หาอะไรมาเล่น เล่นละครอะไรแบบนี้ก็ได้ ให้มันตลก ๆ หน่อย”เน็กซ์ – “คนที่มีส่วนร่วม ก็คือคนที่แต่งแรปด้วยครับผม แรปแทบทุกอันใน Fancon ก็แต่งกันเอง”จั๋งธีร์ – “แล้วเรื่องที่เปลี่ยนท่าเต้น ก็จะมีทีม ONAIR คอยช่วยอยู่ เราก็จะคิดไปก่่อนเสนอให้เขาดู ถ้าเป็นเรื่องเพลง ส่วนของยูนิตแรป เรามีส่วนร่วมในการเลือกเพลงเอง เพราะว่าเอาจริงตอนแรกสรุปที่เราเคาะเป็น ใจนักเลง ก็เพราะเราเลือกกันเองทั้ง 3 คนครับ”จินวุค – “เราเหมือนเสนอกันหลายเพลง แล้วเราก็ตั้งว่าเราชอบเพลงไหนมากสุด แล้วเราก็จะมี priority ว่าถ้าเพลงนี้ไม่ได้ ก็จะโชว์เป็นเพลงนี้ ด้วยเรื่องลิขสิทธิ์ (เน็กซ์, จั๋งธีร์ หัวเราะ) แต่ ใจนักเลง คืออันดับ 1 ที่เลือกนะ เพราะเราอยากลองทำอะไรใหม่ ๆ ดู ปกติถ้ามองจินวุค จั๋ง อลัน แรปกันแบบนี้ คนอาจจะคิดว่าเราแรปแต่เท่ ๆ”จั๋งธีร์ – “จะดูเหมือน ๆ เดิม”จินวุค – “แต่เราอยากลองเป็นเพลง 90 ที่ใช้อารมณ์ความรู้สึก”จั๋งธีร์ – “ได้เป็นฟีลใหม่ ๆ เพราะใครจะคิดว่าใจนักเลงจะแต่งเป็นแรปขึ้นมา”เดบิวต์มายังไม่ถึงปีเลย แต่เราได้ทำอะไรไปเยอะมาก มีอะไรที่เราได้เรียนรู้จากระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบปีนี้ไหมจินวุค - “จริง ๆ เราได้เรียนรู้อะไรกันเยอะมาก ได้เรียนรู้ว่ามันมีคนหลาย ๆ แบบมากในโลกนี้ พอเราเดบิวต์มาได้จะ 1 ปีแล้ว เราได้เจอกับโลกความเป็นจริงเยอะมากเลย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งผ่านมาแค่ 1 ปีเองนะ ได้รู้ว่ามีคนรักเรามาก แฟนคลับเราอย่างบีอัส ก็จะมีคนหลายแบบมากเหมือนกันครับ อีกอย่างเรารู้สึกว่าเราวางตัวได้เหมาะสมมากขึ้นครับ พอเราเจอคนหลาย ๆ แบบ เราได้รู้ว่าแต่ละคนคิดยังไง พูดอะไร มันช่วยให้เราเรียนรู้และปรับตัว แล้ววางตัวได้ดีขึ้นครับ”เน็กซ์ – “ก็ได้เรียนรู้มาหลายอย่าง แต่รู้สึกว่า ณ ตอนนี้ คิดว่าเรื่องที่เรียนรู้มาทั้งหมด จะต้องเอามาตกตะกอน แล้วก็ลงลึกไปกับมัน ให้เข้าใจอีกเยอะ ๆ เลยครับ เพราะมันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามา ก็ต้องใช้เวลาไปเรื่อย ๆ ไปต่อที่จั๋งครับผม อยากพูดหลายอย่างเลยนี่”จั๋งธีร์ – “ผมมีสติมากขึ้น หมายถึงก่อนทำทุก ๆ อย่างผมจะมีสติมากขึ้น เมื่อก่อนผมอาจจะทำก่อนคิด แต่ตอนนี้เวลากำลังจะทำ มันจะหยุดคิดก่อน”จินวุค – “พอเราเริ่มเป็นคนที่มีชื่อเสียง”จั๋งธีร์ – “พอเราเริ่มเป็นต้นแบบให้คนหลาย ๆ คน เราก็อยากเป็นต้นแบบที่ดี อยากเป็นไอดอลที่ดีของเขา”ฝากผลงานกันหน่อย เร็ว ๆ นี้จะมีอะไรให้เราติดตามกันอีกบ้างเน็กซ์ - “ก็ขอฝากเพลง TRANSFORMER นะครับ ฝาก MV ด้วยครับที่ YouTube ช่อง TADA LABELS ฟังเพลงได้ทุกสตรีมมิงแพลตฟอร์ม แล้วก็เร็ว ๆ นี้ วันที่ 6 ธันวาคม ครบรอบเดบิวต์ 1 ปีของพวกเรา ก็จะมี Happy BUSDAY The 1st Year DIARY CONCERT ครับ เป็นคอนเสิร์ตครบรอบ 1 ปีของพวกเรา”จินวุค – “เราก็อยากให้ทุกคนมารวมกัน แล้วก็นึกถึงวันนั้น”เน็กซ์ – “เป็นความอบอุ่น”จินวุค – “ความคิดถึงของพวกเรา”จั๋งธีร์ – “ใน 1 ปีที่ผ่านมา”เน็กซ์ – “แล้วก็มีคอนเสิร์ตปีหน้าครับ”จั๋งธีร์ – “หลังจากที่เราจบ Anniversary แล้ว เราก็ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ของเราอีกครั้งนึง ช่วงเดือนมีนาคมครับ”จินวุค – “ช่วงนี้เราก็เริ่มซ้อม Anniversary กัน แล้วก็มีซ้อมอีกหลายอย่างแต่ยังบอกไม่ได้ครับ”สุดท้าย ให้ทุกคนพูดอะไรถึงบีอัส (BEUS) หน่อยจินวุค – “ก็อยากบอกบีอัสว่าขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ แล้วก็ขอให้อยู่ด้วยกันไปอีกนาน ๆ เลย คือก็บอกรักไปหลายรอบแล้ว แต่ก็บอกอีกก็ได้ครับ”เน็กซ์ – “ก็ดีใจครับที่ได้เจอทุกคน ก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก เพราะว่าอยากตอบแทนทุกคนด้วยผลงานที่จะออกมาครับ”จั๋งธีร์ – “อยากขอบคุณที่ทุกคนอยู่กับเรา แล้วก็รักพวกเราได้มากขนาดนี้ ขอบคุณที่ทุกคนสนับสนุน แล้วก็คอยเตือนเรา คอยบอกรัก คอยให้กำลังใจเราในทุกครั้งที่เรามีปัญหา หรือทุกครั้งที่เรามีความสุข ทุกคนก็ให้ความสุขกับเรามากกว่าเดิมอีก ก็อยากขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันกับเรามาตลอดครับ”

Talk with "JustmineNika (JMNK)" กับประสบการณ์ "เพื่อนเตือนแล้ว (Ignore)"

29 ต.ค. 2024

Talk with "JustmineNika (JMNK)" กับประสบการณ์ "เพื่อนเตือนแล้ว (Ignore)"

“JustmineNika (JMNK)” กลับมาพร้อมซิงเกิลล่าสุด “เพื่อนเตือนแล้ว (Ignore)” เล่าเรื่องราวของเพื่อนที่เตือนกันแล้วแต่ไม่ฟัง เราจึงได้ชวนสองสาวเสียงดี “จัสมิน-มะลิ มาริสา ฮิวส์” และ “ณิก้า-อาณิก้า ฮอร์แมน” มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในเพลงนี้ และเรื่องราวประสบการณ์เพื่อนเตือนแล้วกันซิงเกิลล่าสุด "เพื่อนเตือนแล้ว (Ignore)" มาในคอนเซ็ปต์อะไรจัสมิน – “ถ้าให้เล่าถึงคอนเซ็ปต์เพลง ก็จะเป็นฟีลเหมือนตามตัวเพลงเลยค่ะ เวลาที่เรามีกลุ่มเพื่อน มีอะไรเราก็จะพยายามเตือนกัน สมมุติเจอคนคนนึง คนนี้อย่าไปยุ่งเลย ดูแล้วน่าจะเป็นคนร้าย ๆ แต่เพื่อนก็ขอลองสักหน่อย สรุปเพื่อนก็เจ็บเอง เพื่อนเตือนแล้วก็ไม่ฟัง ถ้าเป็นในพาร์ทของเพลงมันก็ตรงตัวเลยค่ะ”JustmineNika ได้เตรียมตัวสำหรับการคัมแบ็กครั้งนี้ยังไงบ้างณิก้า – “สำหรับการคัมแบ็กครั้งนี้ แนวเพลงคล้าย ๆ เดิม มีความเป็น RB แต่สำหรับหนู หนูเวิร์คกับการร้องมากขึ้นค่ะ เพราะว่าอยากเปลี่ยนเทคนิคในการร้องให้มากขึ้น ด้วยการใส่ลมลงไปมากขึ้นค่ะ”จัสมิน – “คือรู้สึกว่า JustmineNika มาถูกทางแล้ว ในแนวของ RB สิ่งที่เตรียมตัวคือทุกคนน่าจะคาดหวังความ RB เราก็เลยต้องเตรียมตัวเรื่องลูกคอ การประสานเสียง ให้มันคงความเป็น JustmineNika เอาไว้”ณิก้า – “ใช่ค่ะ เหมือนคงซิกเนเจอร์ของพวกเราไว้”มาที่พาร์ทของ MV บ้าง MV นี้ มาในคอนเซ็ปต์อะไรณิก้า – “ใน MV นี้ หนูจะเป็นเพื่อนค่ะ ซึ่งจัสมินเขาจะมีพระเอก MV ก็คือพี่มีน นิชคุณ จัสมินก็เป็นสาวที่ไปชอบพี่มีน รู้สึกว่าพี่มีนเป็นผู้ชายที่ตรงสเป็ค ซึ่งหนูเป็นเพื่อน หนูก็เตือนเพื่อนว่า เขาดูร้ายนะ ดูมีผู้หญิงคนอื่นอยู่นะ คราวนี้เพื่อนก็ไม่เชื่อ ไม่หรอกมั้ง เขาคงไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก แต่สุดท้ายก็ต้องเจอด้วยตัวเอง ก็คือเห็นเขานั่งอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เราก็บอกเตือนแล้วนะ ไม่ฟังเอง ต้องเจ็บเอง”บรรยากาศในการถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง มีอุปสรรคอะไรในกองบ้างไหมณิก้า – “สนุกมากค่ะ วันนั้นแฮปปี้กับการทำงานมาก หนูเล่นเป็นเพื่อน ก็จะมีพี่ ๆ extra หนูก็จะนั่งเม้าท์กับเขา ซุบซิบ ๆ แบบจริง ๆ เลย พอเข้าเซตก็คุยกันต่อในเรื่องนั้น สนุกมาก”จัสมิน – “สนุกค่ะ เป็นการถ่าย MV ที่ค่อนข้างเหนื่อย เพราะถ่ายลากยาวทั้งวัน แต่ว่าด้วยความที่พี่มีนน่ารักมาก เขาเล่นสนุกมาก เพื่อนที่เล่นด้วยทั้งทีมมันเอ็นจอย มันก็เลยแค่เหนื่อยข้างนอก เหนื่อยกาย แต่ว่าสนุกที่ได้ทำค่ะ”JustmineNika ชอบซีนไหนที่สุดใน MVจัสมิน – “เอาจริงหนูชอบฉากที่ตัวเองผมสั้น เพราะหนูอยากตัดผมสั้นมานานมาก ตั้งแต่ MV แรก หนูขอพี่เขาว่าอยากผมสั้น จนมา MV นี้ หนูก็ได้ทำผมสั้น แล้วก็ชอบฉากร้องไห้ กับฉากเต้นค่ะ”ณิก้า – “ชอบฉากเต้นเหมือนกันค่ะ แล้วก็ชอบฉากเปิด ที่เป็นตัวหนูนั่งอยู่กับแก๊งค์เพื่อน ๆ แล้วจัสมินก็เดินเข้ามา รู้สึกว่าภาพมันสวย”รู้สึกยังไงบ้างกับกระแสตอบรับของเพลงนี้ณิก้า – “ก็รู้สึกแฮปปี้ค่ะ เพราะเราสองคนก็ตั้งใจมาก ๆ แล้วก็อยากให้เพลงนี้มันตอกย้ำเข้าไปอีกว่า แนวนี้คือแนวที่ใช่สำหรับเราแล้ว แล้วก็คนชอบในความเป็นเรา การร้องแบบ RB ก็รู้สึกแฮปปี้มาก ๆ ค่ะ”จัสมิน – “แฮปปี้กับกระแสตอบรับค่ะ เพราะว่าคือเอาจริง ๆ เพลงนี้มันยังไม่เคยมีใครทำ express มันออกมาในแนวนี้ แล้วพอเราเอาไปทำ ก็มีคนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน หนูเชื่อว่าเพื่อนทุกคนเตือนเพื่อนด้วยกันเองตลอด แต่ว่าเพื่อนไม่ฟัง ก็เลยรู้สึกว่ามันแฮปปี้ที่คนใช้เพลงนี้ในจุดประสงค์ที่เราตั้งใจจะ express ซึ่งพี่แอ้มเขาก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ด้วยค่ะ”ทั้งคู่มีเรื่องอะไรที่เพื่อนเตือนแล้วชอบไม่ฟังกันบ้างไหมจัสมิน – “เยอะค่ะ ส่วนมากของหนูจะเป็นแต่งหน้าเกินค่ะ ก้าจะชอบบอกว่า จัสดรอปลงมั้ย แต่หนูว่าเติมได้อีก เติมหน่อย ก้าจะบอก ไอว่าได้แล้วแหละ แต่หนูจะบอกออกกล้องแล้วจะดรอป ต้องเติมหน่อย พอออกกล้องปั๊บ ซีด เราก็จะบอก ฉันเตือนแล้ว”ณิก้า – “ใช่ค่ะ เขาก็จะชอบเติมให้หนู หนูก็จะบอก พอแล้ว พอ ๆ เพราะคนนี้เขาจะเติมตลอด สายเติมค่ะ”ถ้าเป็นเรื่องความรัก ปกติเพื่อนเตือนแล้วเราฟังไหม หรือต้องรอให้เห็นกับตาตัวเองถึงจะเชื่อณิก้า – “หนูว่าถ้าเพื่อนเตือนแบบมีเหตุผลหรือมีหลักฐาน อันนี้เป็นไปได้ว่าจะเชื่อเพื่อน เพราะเรารู้สึกว่าเพื่อนของเราที่เราคบมา เราคัดสรรมาแล้ว เราเชื่อว่าเพื่อนเราจะไม่โกหกเรา เขาคงจะไม่ทำให้ความรักของเรามันพังอะค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเขารู้สึกว่ามันไม่โอเคจริง ๆ เขาก็คงเตือนเราในสิ่งที่ดีแล้ว เขาก็คงหวังดีกับเรามาก ๆ แล้ว”จัสมิน – “อาจจะไม่ฟังตอนแรก”ณิก้า – “แรงมาก”จัสมิน – “ดื้อค่ะ เพราะว่าเราเป็นคนที่ต้องเห็นอะไรกับตาตัวเอง เป็นเหมือนใน MV เลย ที่คนนี้เตือน แต่เราขอลองเองก่อน แต่เราก็มั่นใจในตัวเพื่อนเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่ฟัง 100% หรอกค่ะ ถ้าเพื่อนเตือนแล้วมีหลักฐาน หนูคิดว่าถ้าไม่ฟังเพื่อนเลยก็คงจะแปลกละ”ขอ 1 เรื่อง ที่ JustmineNika อยากเตือนกันและกันณิก้า – “ก็อยากให้จัสมินกินน้ำเยอะ ๆ เพราะเขาเป็นคนกินน้ำค่อนข้างน้อยค่ะ แล้วเขาก็จะผิวแห้งนิดนึง เราก็อยากให้เขากินน้ำเยอะ ๆ หน่อยระหว่างวัน”จัสมิน – “อยากให้เขากินข้าวเพิ่มขึ้นค่ะ เวลาสั่งข้าวมา ข้าวมาวางอะ มันน่ากินมาก เขากินไปได้ครึ่งจานแล้วก็อิ่ม”ณิก้า – “เพราะว่ามันอิ่มแล้วอะพี่ มันอิ่มแล้วจริง ๆ มันไม่ใช่ว่าเราไม่อยากกิน”จัสมิน – “เราก็จะบอกว่า ก้าอันนั้นกินปะ ขอกินหน่อย”ณิก้า – “คนนี้ก็จะกินแทน”จัสมิน – “ใช่ค่ะ คือเขาเป็นคนอิ่มง่าย”ณิก้า – “เขาจะแบบ กินอีกนิดเถอะ”จัสมิน – “หนูเป็นสายเสียดาย”มีจุดไหนของตัวเองที่รู้สึกว่าอยากพัฒนามากขึ้นอีกมั้ยณิก้า – “ที่จริงหนูอยากเรียนการใช้ลมเพิ่มในการร้อง เพราะหนูรู้สึกว่าการใช้เสียงลมเป็นอะไรที่สำคัญเหมือนกันในการเป็นนักร้อง เราจะได้ร้องได้หลาย ๆ แบบ เมื่อก่อนหนูค่อนข้างติดใช้แต่เสียงเต็ม พอได้มาร้องเพลงนี้ มันเหมือนเราได้ลองอีกแบบนึง ในการใช้เสียงมิกซ์ ทั้งเสียงลมและเสียงเต็ม รู้สึกว่าเราก็ทำได้นี่หว่า มันไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย ตอนแรกเรากลัวการใช้เสียงลม เรารู้สึกว่ามันยังไม่แข็งแรง แต่พอได้มาทดลองในเพลงนี้ ก็เลยรู้สึกว่าเราอยากเรียนรู้กับมันมากขึ้นค่ะ”จัสมิน – “อยู่ในฐานะศิลปินมันต้องพัฒนาหลายเรื่องมากค่ะ เรื่องร้องก็อยากพัฒนาขึ้นไป หนูไม่รู้ว่าอะไรคือเก่ง แต่ว่าอยากพัฒนาความเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด พัฒนาบุคลิกต่าง ๆ อยากเก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เรียนรู้จากคนรอบข้างให้ได้เยอะ ๆ ค่ะ”ในมุมมองของทั้งคู่ คิดว่าเสน่ห์ของ JustmineNika คืออะไรจัสมิน – “ร้องค่ะ ตลกด้วยมั้ย”ณิก้า – “ตลกธรรมชาติ (หัวเราะ) คือการร้องของเรามันมีความแตกต่างกันค่ะ แต่พอมารวมกันดันเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง รวมกันแล้วมันมีความกลมกล่อมในเสียงเพลงของเรา”อะไรคือความสุขที่สุดในการศิลปินสำหรับ JustmineNikaณิก้า – “มันเป็นการที่เราได้แสดงศักยภาพของเราออกมาค่ะ ในการได้ร้องเพลงให้คนฟัง แล้วก็แฟนคลับค่ะ มันเป็นอะไรที่เหมือนเราได้รับความรักจากคนที่บางทีเราไม่เคยรู้จักเขามาก่อนเลย แต่ว่าเขามอบความรักให้กับเรา การที่อยู่ในวงการบันเทิงมันเป็นอะไรที่แฮปปี้สำหรับหนูมากค่ะ เพราะว่ามันเป็นความฝันของหนูตั้งแต่เด็กแล้วด้วย”จัสมิน – “หนูแฮปปี้ในสิ่งที่หนูได้ถ่ายทอด แฮปปี้ที่มีคนฟัง มีคนยอมรับในสิ่งที่ตอนแรกเราไม่มีความมั่นใจ แล้วพอเราทำสิ่งนี้ออกมาแล้วมีคนชื่นชอบ มีคนซัพพอร์ต พอเราได้เห็นฟีดแบคจากผู้ฟังต่าง ๆ รู้สึกว่ามันมาฟูลฟีล มาเป็นแรงผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ สิ่งที่จะทำให้แฮปปี้เพิ่มสุด ๆ เลยคือมีคนซัพพอร์ต มีคนชื่นชม มีคนคอยแนะนำต่าง ๆ รู้สึกว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำมันมีคนเห็นนะ”พูดอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามผลงานของ JustmineNika กันอยู่หน่อยจัสมิน – “ขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณมาก การที่มีเขาอยู่ด้วยมันเหมือนมีเพื่อน แล้วเป็นเพื่อนที่คอยซัพพอร์ตศิลปินอย่างเราอะ หนูพยายามที่จะไม่ left out แฟนคลับ หรือทุกคนที่ฟังเพลงหนู ทุกครั้งที่เจอเราพยายามที่จะ express ว่าเราขอบคุณเขาจริง ๆ ที่เขาชอบสิ่งที่เราทำนะ เพราะว่ามันมีความหมายมากกับศิลปิน”ณิก้า – “ก็อยากขอบคุณพวกเขาค่ะ เพราะว่าเขาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจของเรามาก ๆ ขอบคุณที่คอยสนับสนุน คอยตามไปงานต่าง ๆ บางคนก็ไม่ได้ไปบางงาน แต่ก็ไม่เป็นเลย เรารู้สึกว่าขอบคุณที่ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้มา แต่คุณก็ซัพพอร์ตเรา อยากให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่คุณทำ เช่น การทำงานของคุณ บางคนไม่ได้มาก็ยังมีมาคอมเมนต์ เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรเลย แค่เขาเป็นกำลังใจให้เรา เราก็รู้สึกแฮปปี้แล้วค่ะ”สุดท้ายให้ JustmineNika ฝากผลงาน ช่วงนี้มีอะไรให้เราติดตามกันบ้างณิก้า – “ตอนนี้ก็ฝากเพลง ‘เพื่อนเตือนแล้ว’ ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของ JustmineNika สามารถฟังได้ทุกสตรีมมิงแพลทฟอร์ม และดู MV ได้ทาง YouTube XOXO ENTERTAINMENT ค่ะ”จัสมิน – “เดี๋ยวปลายปีนี้อาจจะมีโปรเจ็คพิเศษมาด้วย ก็อยากให้ติดตามกัน แล้วก็ขอฝาก ‘เมืองลับแล’ เป็นซีรีส์ที่ออนทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 แล้วก็ Netflix ค่ะ ตอนนี้ใกล้จะจบแล้ว ก็ขอฝากทุกคนด้วยค่ะ”

Talk with "ATLAS" ที่กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ "ฉันคนเก่า (Let Me Try Again)"

07 ต.ค. 2024

Talk with "ATLAS" ที่กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ "ฉันคนเก่า (Let Me Try Again)"

ไม่ปล่อยให้ ALIS รอนาน ทั้ง 7 หนุ่ม ATLAS จูเนียร์ เจ็ท ภูมิ ไนซ์ เออร์วิน มิวอ้อน และแทด ก็ได้ส่งผลงานล่าสุด "ฉันคนเก่า (Let Me Try Again)" เพลงช้าอ้อน ๆ ขอโอกาสกลับตัวอีกครั้ง มาให้แฟน ๆ ได้ชมกัน เราจึงได้ชวนทั้ง 7 คน มาพูดคุยถึงเบื้องหลังซิงเกิลนี้ และมุมมองต่อการเป็นศิลปินของพวกเขากันซิงเกิลล่าสุด "ฉันคนเก่า (Let Me Try Again)" มาในคอนเซ็ปต์อะไรภูมิ – “เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงช้าอีกเพลงนึงครับ คือทุกปีเราจะมีเพลงช้า เพลงนี้ความหมายคือประมาณว่า เหมือนความสัมพันธ์อะครับผม พอบางทีเรารักกันไปนาน ๆ มันเริ่มมีความละเลยกันเกิดขึ้น อาจจะทำตัวไม่ดีบ้าง เผลอลืมอะไรบางอย่างไปบ้าง จนกระทั่งวันนึงเรามาตระหนักได้ว่า เราทำอย่างงี้มันไม่ถูกนะ เราอยากแก้ตัว เราอยากกลับไปเป็นคนดี เหมือนเป็นฉันคนเก่าตอนแรก ๆ ที่เราคบกันครับ”พาร์ทไหนของซิงเกิลนี้ ที่รู้สึกว่ายากต่างจากซิงเกิลก่อน ๆ บ้างไนซ์ – “สำหรับผม ผมว่าพาร์ทที่ยากที่สุดในซิงเกิลนี้ คือพาร์ทของการซ้อมเต้นครับ คือในเรื่องของการเล่น MV เนี่ย พวกเราจะมีพื้นฐานในเรื่องการแสดงอยู่แล้ว แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องร้องก็มีโปรดิวเซอร์และโวคอลโค้ชที่คอยไกด์ให้อยู่แล้ว แต่เรื่องของท่าเต้นเนี่ย รอบนี้จะเป็นท่าเต้นที่มีดีเทลเยอะมาก ๆ มีรายละเอียดเยอะ มีการที่ทำท่าเต้นไม่เหมือนกัน แต่ว่าเต้นเหมือนกัน ก็คือเป็นดีเทลที่มันเยอะมาก ๆ มากกว่าเพลงอื่น ๆ เลยด้วยซ้ำ”แทด – “ถึงมันอาจจะเป็นเพลงช้า แต่จริง ๆ มันยากกว่าเพลงเร็วบางเพลงอีกนะ เพราะเราต้องใจเย็น ๆ แล้วก็โฟกัสมาก ๆ เลยครับผม”แล้วมีพาร์ทไหนไหมที่รู้สึกว่าง่าย หรือว่าสบายใจที่จะทำบ้างไหมเออร์วิน – “เล่น MV ครับ ผมว่าตอนเล่น MV สนุก”ไนซ์ – “พาร์ทร้องด้วยครับ การอัดเสียง”มาที่ MV บ้าง ทีเซอร์กับ MV เรียกว่าสับขาหลอกกันสุด ๆ เป็นความตั้งใจของเราไหมที่อยากให้ออกมาเป็นแบบนี้ภูมิ – “เป็นความตั้งใจครับผม เพราะเรารู้สึกว่าจะน่าสนใจมากขึ้น ถ้า MV ตัวจริง ไม่เหมือนกับที่ทุกคนเดาไว้ แล้วก็ผมชอบสตอรีของ MV มาก ผมว่ามันค่อนข้างที่จะทัชใจเราตั้งแต่ตอนที่เราเล่นแล้ว”เล่าให้ฟังหน่อยว่า MV นี้ สตอรีเป็นยังไง มาในคอนเซ็ปต์อะไรเออร์วิน – “มันเป็นเรื่องของความรักครับ ซึ่งผมว่ามันก็รีเลทได้กับความรักของหลาย ๆ คู่ พระเอกก็คือมีแพชชั่นกับการขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ว่าในขณะเดียวกัน เขาไม่มีเวลาให้แฟน เวลานัดไปไหนก็ไปสาย ทำให้มันเกิดความขัดแย้งกันในความสัมพันธ์นี้ แล้วพอมันมากขึ้น ๆ เขาก็ไม่ไหวแล้ว เลือกที่จะเลิกกับเรา แต่ลึก ๆ ข้างในของตัวพระเอกเนี่ย เขาตั้งใจที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จ เพื่อที่จะนำเงินรางวัล นำความสำเร็จไปขอผู้หญิงแต่งงาน แต่มันดันไม่เกิดขึ้น เพราะระหว่างทางเขาดันเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตก่อน”ระหว่างถ่าย MV มีอุปสรรคอะไรบ้างเจ็ท – “ฝนตกครับ แล้วตกตอนถ่ายซีนที่เออร์วินรถล้มด้วย เลยต้องรีบวิ่งหลบ แต่สุดท้ายก็ถ่ายตอนฝนตกปรอย ๆ”ภูมิ – “แต่ผมว่ามันเป็นมู้ดที่ดีนะ”แทด – “แล้วเขาแก้ปัญหาได้ดี โดยการที่เอาซีนที่อยู่ in door มาถ่ายก่อนครับ ก็เลยถ่ายทุกอย่างได้ราบรื่นมากครับ”คิดว่าซีนไหนใน MV ยากที่สุดมิวอ้อน – “ผมว่าแล้วแต่คนเลย อย่างผมก็จะยากตรงซีนที่ต้องเอาแหวนไปให้พี่แพรวครับ เพราะว่ามันเป็นซีนอารมณ์ แล้วผมไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องการแอคติ้งขนาดนั้น ก็เป็นซีนที่เราจินตนาการว่าเพื่อนเราในวงไม่อยู่แล้ว แล้วเราก็ขึ้นคอนเสิร์ตไม่ได้แล้ว พอไม่มีเขาแล้ว มันก็เลยดึงอะไรออกมาในตอนที่เราแสดง MV ได้”ได้อ่านฟีดแบคจากแฟน ๆ ไหม มีคอมเมนต์ไหนที่ถูกใจเราเป็นพิเศษบ้างเออร์วิน – “มีครับ ของผมมี 1 อัน เขาเขียนว่า ขนาดเออร์วินใส่เซฟตี้ ใส่หมวกกันน็อค ยังรถล้มเสียชีวิตเลย แล้วสายซิ่งตามท้องถนนที่ขี่มอเตอร์ไซค์เขาไม่กลัวเสียชีวิตกันบ้างเหรอ โยงเข้าเรื่องสังคมไป”ขอ 1 สิ่ง ที่รู้สึกว่า "ฉันในวันนี้" แตกต่างกับ "ฉันคนเก่า" ที่สุดภูมิ – “แต่ก่อนทำสีผมบ่อยครับ สังเกตว่าตอนที่ผมเดบิวต์แรก ๆ จะมีฟ้า มีส้ม มีม่วง ตอนนี้ดำยาว ๆ แล้ว เพราะต้องขอดูแลผมก่อนครับ”เจ็ท – “ของผม ฉันคนเก่าเคยชอบอยู่นอกบ้านครับ แต่ฉันในวันนี้ไม่ออกนอกบ้านแล้ว เพราะผมแก่แล้วครับ เอาจริงทุกวันนี้เวลาผมออกไปนอกบ้านอะ ผมไม่ชินนะที่ต้องเรียกคนอื่นว่าน้อง เพราะปกติผมจะเรียกทุกคนว่าพี่”มิวอ้อน – “สำหรับผม ฉันคนเก่าเคยชอบอยู่บ้านครับ แต่ฉันตอนนี้ผมไม่อยากอยู่บ้านแล้ว สลับกันกับพี่เจ็ท ผมชอบออกไปข้างนอก ไปหาอะไรทำครับ ช่วงนี้ก็จะต่อยมวยบ่อย ๆ”จูเนียร์ – “เอาเร็ว ๆ นี้แล้วกัน ฉันคนเก่าเคยมีซิกแพค แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”ไนซ์ – “ฉันคนเก่าเคยฟันเหยินครับ แต่ว่าตอนนี้ฟันไม่เหยินแล้ว เรียกว่ามันเป็นปมนึงในชีวิตที่แบบว่า เคยถูกหลายคนพูดถึงสิ่งนี้ เราก็รู้สึกว่าผ่านมันมาได้แล้ว แล้วก็รู้สึกแฮปปี้มาก ๆ กับเรื่องนี้ครับ”แทด – “ฉันคนเก่าเคยชอบทำอะไรผาดโผนครับ สมัยก่อนผาดโผนกว่านี้อีก ชอบเรียนโดดน้ำ โดดจากแพลทฟอร์ทอะไรแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้แค่กลับขึ้นมายืนก็กลัวแล้วครับผม”เออร์วิน – “ของผม ฉันคนเก่าอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากเป็นด็อกเตอร์ครับ อยากเป็น scientist เรื่องอวกาศ แต่ว่าตอนนี้อยากเป็นศิลปิน แล้วก็ได้เป็นแล้ว”คำว่า "ประสบความสำเร็จ" ในแง่ของการเป็นศิลปิน สำหรับ ATLAS คืออะไรจูเนียร์ – “ส่วนตัวผม ผมรู้สึกว่าการประสบความสำเร็จคือการที่ร้องเพลงแล้วคนรู้จักเพลงเรา คนชื่นชอบในผลงานของพวกเรา ผมว่าแค่นั้นมันก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ แล้ว ที่แบบอยากที่จะเอาเราเป็น role model อยากที่จะทำตาม อันนั้นคือคำว่าประสบความสำเร็จในมุมมองของผมนะ”ไนซ์ – “สำหรับผม ผมว่าคล้าย ๆ กันครับ ของผมจะเป็นในส่วนของ ถ้าวันนั้นเราทำได้ดี เรารู้สึกว่าเราแฮปปี้ รู้สึกว่าเราสามารถ success ได้ในทุกวัน วันนี้เราทำงานได้ดี เราไปเล่นงาน festival แล้วเราทำได้ดี เราก็จะรู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จแล้วครับ”แทด – “ของผมก็จะคล้าย ๆ พี่ไนซ์ครับ จะเป็นเรื่องความสุข ความสำเร็จของผมคือการที่เราทำสิ่งที่เรารัก แล้วยังมีความสุขอยู่ และสามารถส่งต่อความสุขนี้ให้กับคนอื่นได้อีกเยอะ ๆ แล้วก็ inspire คนไปเรื่อย ๆ ก็เป็นสิ่งที่ success แล้วครับ”เออร์วิน – “ของผมมี 2 จุด จุดแรกคือการเป็นศิลปิน ซึ่งอันนี้ success แล้ว อันที่สองคือการได้ทำงานทุกวันแล้วรู้สึกว่า เราตื่นมาทำงานได้อย่างแฮปปี้ แล้วก็ทำผลงานวันนั้นออกมาได้ดี คือสำเร็จแล้ว”ภูมิ – “นอกจากเรื่องงาน ผมว่าหลัก ๆ คือการเห็นน้อง ๆ ทุกคนเติบโตมาเป็นศิลปินที่ดี เก่งขึ้นทุกวัน ผมว่ามันเป็นการประสบความสำเร็จอีกอย่างนึง นอกจากความเป็นอาชีพศิลปิน มันรู้สึกว่าครอบครัวของเรามันแข็งแกร่งขึ้น โตขึ้น”เจ็ท – “ใช่ครับ ผมเสริมต่อจากคนอื่น อีกหนึ่งอย่างที่รู้สึกว่า success คือ การเป็นศิลปินของ ATLAS อะ ทำให้ทุกคนสามารถดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวได้มากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่ายิ่ง success ครับ”มิวอ้อน – “ความสำเร็จอย่างนึงที่ตอนนี้ฝันไว้ คืออยากขึ้นรับรางวัลบนเวทีครับ”แล้วเราเคยตั้งเป้ากันไว้ไหม ว่าอยากจะพาวง ATLAS ไปให้ถึงจุดไหนจูเนียร์ – “ตั้งแต่ day 1 ของพวกเราเลย เรามองกันว่า ไม่รู้ว่า ATLAS จะไปได้ไกลขนาดไหน แต่ผมรู้สึกว่าเราจะสนุกไปในระหว่างทาง จะมีความสุขกับมันให้มากที่สุด และพากันไปให้ได้ไกลที่สุดแหละครับ รอดู รอสนุกไปด้วยกัน ต่อจากนี้จะมีเรื่องอะไรที่เข้ามาอีกเยอะมาก ๆ เราก็เตรียมตัวรับมือกับมันตลอดเวลาครับผม”เจ็ท – “ความสุขไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ที่ระหว่างทางครับ”อยากให้ ATLAS พูดถึง ALIS หน่อยแทด – “รักนะ”เออร์วิน – “เพิ่งปล่อยเพลงใหม่ไปด้วยครับ ก็หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไม่มากก็น้อยกับเพลงเพลงนี้ แล้วก็ระหว่างทางหลังจากนี้ มันมีอะไรน่าตื่นเต้นรอเต็มไปหมดเลยครับที่อยากให้ ALIS เห็นเร็ว ๆ เหมือนกัน ก็อยากให้ทุกคนอดทน อยู่กับเรา เป็นปีกให้กับพวกเราต่อไป แล้วก็สัญญาว่าจะเต็มที่กับทุก ๆ งาน ให้ทุกคนมีความสุขที่สุดกับพวกเรา ATLAS ครับ”สุดท้ายให้ ATLAS ฝากผลงานหน่อย ทั้งซิงเกิลนี้ ผลงานในอนาคต แล้วก็ผลงานเดี่ยวของแต่ละคน มีอะไรให้เราติดตามกันบ้างแทด – “ก็ฝากเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเราด้วยนะครับ ‘ฉันคนเก่า (Let Me Try Again)’ เป็นเพลงที่ผมบอกเลยว่าผมชอบมาก ๆ แล้วก็หวังว่าแฟน ๆ ทุกคนจะได้ฟังมัน แล้วก็เอ็นจอยไปกับมัน เหมือนที่พวกเราเอ็นจอย แล้วก็ผลงานที่จะตามมาในอนาคต ก็ฝากติดตามทางช่องทาง ATLAS official ได้ทุกช่องทางเลยครับผม จะคอยอัปเดตตารางงาน แล้วก็โปรเจ็คที่กำลังจะมีในอนาคต ก็รอติดตามกันครับ น่าจะสนุกมาก ๆ ครับปีนี้”เจ็ท – “ของผมตอนนี้มีละครที่กำลังออนอยู่ครับ ชื่อว่า ‘เมืองลับแล’ ก็ออนทางช่อง Workpoint 23 เวลา 2 ทุ่มนะครับ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ แล้วก็สามารถดูย้อนหลังได้ทาง Netflix ครับผม”

Talk with “Mirrr” กับเรื่องราวในซิงเกิลล่าสุด “ย้ำคิดย้ำทำ (OCD)”

03 ต.ค. 2024

Talk with “Mirrr” กับเรื่องราวในซิงเกิลล่าสุด “ย้ำคิดย้ำทำ (OCD)”

“Mirrr” ศิลปินภายใต้สังกัดค่าย What The Duck กลับมาพร้อมซิงเกิลใหม่ “ย้ำคิดย้ำทำ (OCD)” ที่พูดถึงการอยากลบใครสักคนออกจากสมองและหัวใจ แต่ต้องคิดถึงเขาซ้ำไปซ้ำมา ไม่สามารถเอาเรื่องเขาออกจากความคิดได้ เราจึงได้ชวน "โต-เลอทัศน์ เกตุสุข" และ "นาว-วิชชานนท์ ว่องวีรชัยเดชา" จากวง Mirrr มาพูดคุยถึงเรื่องราวในเพลงนี้กันจุดเริ่มต้นของเพลง “ย้ำคิดย้ำทำ (OCD)” เริ่มมาจากอะไรโต – “จุดเริ่มต้นมาจากตอนนั้นคิดอะไรในหัวเยอะ ๆ ก็เลยเอาสิ่งที่คิดในหัวเขียนออกมาเป็นเพลง ทำเป็นเดโม่ขึ้นมา แล้วก็เอาไปเสนอขายนาวอีกที”เพลงนี้ใช้เวลาทำนานมั้ยนาว – “ประมาณเดือนนิด ๆ ครับ เกือบสองเดือน”เพลงไฟนอลที่ได้ฟังกัน มีการปรับแก้จากดราฟแรกที่ส่งไปขายเยอะไหมนาว – “จริง ๆ ไม่เหมือนดราฟแรกเลย”โต – “พอเอาจากที่ผมทำเดโม่มา เราก็ไปเวิร์คกันต่อให้เป็นสไตล์ที่เราสองคนชื่นชอบ”คิดว่าอะไรคือพาร์ทที่ยากที่สุดในการทำเพลงนี้นาว – “ทุกตอนครับ เหมือนทำ ๆ ไปก็จะมีอุปสรรคเข้ามา”โต – “อุปสรรคคือการเถียงกัน (หัวเราะ) ไม่ใช่ อันนั้นคือเรื่องปกติ”นาว – “แต่ว่าป่วยกันครับตอนนั้น แล้วต้องอัดร้อง ก็เลยยากนิดนึง”ช่วยเล่าแนวคิดของ MV นี้ให้เราฟังหน่อย สตอรีเป็นยังไงโต – “MV ตอนแรกมันคือสิ่งที่ผมเห็นในหัวครับ เป็นภาพของครอบครัวนึง แล้วก็เกี่ยวกับคนที่เติบโตมา ได้มาเจอเรื่องราวต่าง ๆ จนพาเขาไปพบกับจุดจบที่ไม่ค่อยสวยงาม แล้วผมก็เอาเรื่องทั้งหมดนี้เล่าให้ พี่แพน ผู้กำกับฟัง แล้วเขาก็เอาเรื่องเหล่านี้ไป develop ใหม่ แล้วก็ทำมันออกมาเป็นสตอรีแบบที่ทุกคนได้เห็นกันครับ”ตอนแรกที่ฟังแค่เพลง คนจะตีความไปแบบนึง พอดู MV ก็จะเห็นอีกเรื่องราวนึง เป็นความตั้งใจของ Mirrr ไหมที่อยากให้ภาพออกมาเป็นแบบนี้โต – “อาจจะเป็นทั้งความตั้งใจและไม่ตั้งใจครับ ที่ตั้งใจคือตั้งใจให้ดู MV และฟังเพลงแยกกัน แล้วชอบทั้งเพลง ชอบทั้ง MV นั่นหมายความว่างานสองชิ้นนี้เป็นปัจเจคต่อกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกัน เขาจะเลือกฟังเพลงอย่างเดียวก็ได้ หรือดู MV อย่างเดียวก็ได้ ก็ถือว่าถ้าเราตั้งใจที่จะทำงานสักอย่างนึง มันก็น่าจะประสบความสำเร็จ ในอีกแง่นึงก็คือ ทีมงานทุกคนที่สร้างงานชิ้นนี้มาก็น่าจะดีใจที่มีคนชื่นชอบมัน ถ้าในเวย์ความไม่ตั้งใจอาจจะเป็นเรื่องที่แบบว่า ถ้ามันเป็น MV แล้วมันสามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่ว่ามันจะ contrast หรือไม่ contrast อันนี้อาจจะเป็นเรื่องปัจเจคอีกเช่นกันครับ ว่าคนดูสิ่งนี้แล้วจะรู้สึก contrast มั้ย อาจจะไม่ใช่คีย์ที่เรานั่งคุยกันในที่ประชุมว่าเราจะมาทำ MV ที่ contrast กัน แต่ตอนแรกที่คุย ผมคุยกับพี่แพน ผู้กำกับ ว่าผมอยากนำเสนอในเวย์ที่ว่า ให้คนที่ได้ดูงานชิ้นนี้ มีความรับผิดชอบต่อคนรอบตัว เทคแคร์คนรอบข้างบ้างสักนิดนึงก็ยังดี หรือถ้าใครที่เป็นพ่อกับแม่ ดูแล้วก็อยากให้คิดถึงว่าเราได้ทำอะไรบางอย่างกับลูกไปโดยไม่ได้ตั้งใจบ้างหรือเปล่า หรือว่าการที่เราเห็นใครบางคนที่เรามองว่าเขาไม่ปกติ แต่ว่าจริง ๆ แล้วเขาอาจจะเป็นอย่างงั้นโดยธรรมชาติของเขา แล้วเขาไม่ได้ผิดอะไร มันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอื่น แต่สำหรับเขามันอาจจะกวนใจเขาอยู่ เขาอาจจะพยายามปรับอยู่ อย่างเช่น คนที่เป็นย้ำคิดย้ำทำ เขาอาจจะไม่ได้อยากเป็นอย่างงั้น แต่ว่าเขาอาจจะต้องเผชิญกับสิ่งที่เขาแก้ไม่ได้ หนีไม่ได้จากคำพูดบางอย่าง คำสัญญาบางอย่าง หรืออะไรบางอย่างที่เขาเชื่อใจ เขาก็ไม่ได้ผิด ซึ่งถ้าเป็นอย่างใน MV ตัวนี้อะครับ ก็อาจจะเป็นการที่ลูกสักคนนึงจะยึดมั่นถือมั่นกับคำสัญญาของคนเป็นแม่ ก็ไม่ได้ผิด แต่สุดท้ายทางที่เขาเลือกนั้นถูกหรือผิด ก็เป็นเรื่องของคนที่ดูเป็นคนตัดสินครับ”ส่วนตัว Mirrr เคยมีโมเมนต์แบบในเพลงมั้ย ที่อยากลืมอะไรสักอย่าง แต่ลืมไม่ได้สักที จัดการกับความรู้สึกตอนนั้นยังไงนาว – “ผมว่าทุกคนน่าจะเคยมีโมเมนต์แบบนั้นนะครับ ด้วยความเป็นมนุษย์ปกติธรรมดา ก็จะเจอเรื่องดีบ้าง ไม่ดีบ้างในชีวิต มันเป็นเรื่องปกติ เรื่องแย่ ๆ บางทีเราก็ไม่ได้อยากจำ แต่มันก็จำ เราไม่ได้เหมือนคอมพิวเตอร์ที่อยากลบทิ้งแล้วลบได้ เราก็เลยต้องหาวิธีเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่กับมัน”โต – “แต่ถ้าเป็นผมอะ ผมจะไม่ค่อยอยากลืม จะอยากจำมากกว่า เพราะผมจะจำไม่ค่อยได้ คือเวลาเราจำอะ มันจะมีบางเรื่องเหมือนเราจำได้ คำว่า จำฝังใจ มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่มันฝังใจ แต่ถ้าเราจำได้ แต่ความรู้สึกมันไม่ได้ฝังใจ มันก็อาจจะไม่ได้จำฝังใจ แต่ว่าบางครั้งเราอยากจะจำ เพราะเราอยากรู้สึกนึกถึงมันก็ได้ เช่น เก็บของอันนี้ไว้ที่ไหน คนนี้พูดว่าอะไร หรือว่าเขาทำอะไร สถานการณ์ไหน ในความรู้สึกคือผมอยากจำได้ทุกเรื่องแหละ แต่มันเป็นไปไม่ได้ คือมีช่วงนึงบางทีจำเรื่องวัยเด็กขึ้นมาได้เรื่องนึง มันก็รู้สึกดีมากเลย ต่อให้มันเป็นเรื่องธรรมดาในตอนนั้น แต่พอมันนึกขึ้นมาได้ มันก็รู้สึกดีครับ แต่ถ้าอยากลืมจะนึกไม่ค่อยออกว่าอยากลืมเรื่องอะไร”นาว – “ผมเป็นฟีลอยากเข้าใจตัวเอง อยากใช้ชีวิตให้มีความสุขมากกว่า เหมือนต่อให้เรามีเรื่องแย่ ๆ ถึงเราจะคิดถึงมันบ้างบางที แต่โดยรวมเราคิดถึงมันแล้วเราไม่ทุกข์ก็พอแล้ว เราก็ไม่ต้องพยายามจะลืม”ถ้ามีคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบในเพลง จะแนะนำพวกเขายังไงบ้างโต – “ถ้ามีคนถามเรื่องมูฟออน สำหรับผมนะ ผมมักจะบอกว่า ถ้าเรายังมูฟออนไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ มันเป็นปกติที่เราจะเสียใจกับเรื่องอะไรก็ตาม แค่อยากให้เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่มันไม่สมบูรณ์ ที่เราผิดพลาด มันเป็นธรรมดา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สังคมหรือคนรอบข้างมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ รู้สึกว่ามันต้อง take serious มันจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนเป็นทุกข์ได้ เพราะเราต้องอยู่ในสังคม สุดท้ายแล้วถ้ามีใครสักคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบใน MV ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก หรือว่าใครก็ตามนะครับ ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยทำความเข้าใจกับบริบทที่เราเป็นอยู่ ระลึกว่าเรามีหน้าที่ที่ต้องทำอะไร เราอยู่กับปัจจุบัน เราเอาอดีตเป็นบทเรียน ผมคิดว่าผมเองก็ทำไม่ได้ 100% แต่ก็หวังว่าวันนึงเราจะทำให้ได้ คือเอาอดีตมาเป็นบทเรียน เป็นสิ่งที่เตือนใจเรา แต่ไม่ได้จมอยู่กับมัน เหมือนเราเรียนประวัติศาสตร์ คือเราทำปัจจุบันให้ดี เพื่อจะได้วางแผนอนาคต”Mirrr ทำเพลงเศร้าซะเยอะ ทำไมพาลงตลอดเลย ถือเป็นแนวที่ Mirrr ถนัดด้วยหรือเปล่าโต – “อันนี้เราอาจจะไม่ได้เลือก มันไม่ได้เป็นคอนเซ็ปต์ว่าเรามาทำเพลงเศร้ากันดีกว่า มันอาจจะเป็นอะไรที่แบบ เราคิดว่ามู้ดนี้ได้ เราก็จะคุยกัน แล้วก็เลยทำเพลงออกมา”การทำเพลงตัวเอง กับทำเพลงให้คนอื่น มีความยากง่ายแตกต่างกันตรงไหนบ้างโต – “ต่างเยอะครับ ทำเพลงตัวเองน่าจะยากกว่า ความยากน่าจะเป็นเดดไลน์ มันดูเหมือนเป็นเรื่องตลกนะ เดดไลน์ แต่ว่าพอเราทำให้คนอื่น มันจะมีเดดไลน์ครับ แล้วเรารู้สึกว่าเราโอเคกับการมีเดดไลน์ เพราะจะหยุดคิดได้ เราจะ priority ได้ว่า โอเค ตอนนี้เราจะหยุดคิดละ นี่คืองานที่โอเคละ เราไม่ต้องคาดหวังความเพอร์เฟ็ค ความดีไปกว่านี้ นี่คือดีที่สุด ณ ช่วงเวลานี้แล้ว แต่ถ้าเกิดว่าเป็นงานของวง เราอาจจะมีเดดไลน์กันก็จริง แต่เราจะขยับเดดไลน์ บางทีเรารู้สึกว่า อันนี้เปลี่ยนใจได้มั้ย อันนี้รู้สึกว่ามันไม่ได้ในฟีลลิ่งตอนนี้แล้ว ขอเก็บไว้ก่อน ขอไปทำเพลงใหม่ก่อน เราก็เลยจะมีเพลงเก็บเยอะมาก แต่ยังไม่ได้ทำอัลบั้มที่ 2 ออกมา”Mirrr เพิ่งจัดแฟนมีตครั้งแรกไปด้วย เป็นยังไงบ้างโต – “ครบทุกอย่าง ทั้งตื่นเต้น ดีใจ แล้วก็แฮปปี้”นาว – “มีเสียใจมั้ย”โต – “ไม่มีนะ”นาว – “ก็ไม่ครบสิ”โต – “อ่าว เราต้องเอาเสียใจเข้ามาด้วย ถึงจะครบทุกอารมณ์งี้เหรอ งั้นเสียใจมั้ยวันนั้น”นาว – “เสียใจครับ เสียใจ”โต – “เล็ก ๆ มันมีความเสียใจอยู่นิดนึงด้วยนะ คือมันเป็นสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจมาตลอดเลย คือตอนที่เราจะคัดเลือกคนมาอะครับ เราก็คุยกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยว่าแฟนมีตคืออะไร ก็ได้ความกันว่า แฟนมีตคือเราอยากทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ให้ giveaway แฟน ๆ ที่เขาซัพพอร์ตเรามาตลอด ได้ทำกิจกรรมเพื่อขอบคุณเขา มีสิ่งของที่ตอบแทนเขาบ้าง ตอนนั้นก็ได้ลองปรึกษาค่ายครับ เพราะเราไม่เคยจัดแฟนมีตที่เป็นแฟนมีตจริงจังเลย อาจจะมีได้เจอกับแฟน ๆ บ้าง แต่มันไม่ได้เป็นงานแบบออฟฟิเชียลเนอะ อันนี้น่าจะเป็นงานแบบออฟฟิเชียลครั้งแรก ก็เลยมาศึกษากับมันตั้งแต่ต้น จนแบบ โอเค เราต้องใกล้ชิดกัน เราจะได้ใช้เวลาร่วมกับทุกคน จำนวนคนเราก็เลยสรุปกันมาที่ 40 คน แต่มีน้อง ๆ ให้ความสนใจ ส่งข้อความเข้ามากันเยอะมากครับ เกินกว่าที่เราคาดหวังไว้เยอะมาก แล้วก็ตอนแรกเหมือนผมก็คุยกันว่าเราจะคัดเลือกจากข้อความที่ทุกคนเขียนมา 40 คน แล้วปรากฎว่าพอเรามานั่งอ่านกันดูจริง ๆ แล้ว เราเลือกไม่ได้ครับ เพราะทุกคนเขาซัพพอร์ตเราหมด ทุกคนเขาตั้งใจกับเราหมด มันไม่ได้อยู่ที่ว่าข้อความที่เขาเขียนมามันคืออะไร มันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นเลย เราไม่สามารถเลือกได้ เราก็เลยปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาแล้วกันครับ เราก็เลยบอกทุกคนที่ส่งเข้ามาว่าเราขอเปลี่ยนกติกา จากตอนแรกที่เราบอกว่าจะคัดเลือกจากข้อความที่ส่งเข้ามา ก็เป็นการสุ่มแทน แต่เราได้อ่านของทุกคนนะครับ ซึ่งก็รู้สึกว่าผมอยากจะจัดอีกนะ แล้วถ้าได้จัดอีกก็อยากจะขยายให้ใหญ่ขึ้น รองรับคนให้มากขึ้น น้อง ๆ คนที่ไม่ได้มาก็ยังมีฝากเค้กฝากของมาให้ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าถ้าได้มีโอกาสจัดงานครั้งหน้า ก็อยากจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ครับ”พูดถึงแฟนคลับที่ติดตามวง Mirrr กันอยู่หน่อย เรามีความประทับใจอะไรในตัวพวกเขาบ้างโต – “ผมคิดอยู่ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน คือมันเยอะ มันทุกจุดอะครับ ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนแรก ถ้าไม่มีแฟนเพลงเอาเพลงไปเล่น เพลงเราก็ไม่เป็นที่รู้จัก แล้วเราก็จะไม่มีโอกาสได้มีทัวร์แรกเลยด้วยซ้ำ แล้วพอเรามีทัวร์แรก เราก็เริ่มมีคนเข้ามาทำความรู้จัก เราเริ่มไลฟ์แล้วมีคนดู มีคนมาพูดคุยด้วย มีคนมาแลกเปลี่ยน มีคนมาสอนเราว่าด้อมคืออะไร มีคนมาตั้งไลน์สแควร์ให้ทั้งที่เราก็ไม่รู้ ซึ่งตอนนี้ไลน์สแควร์มีพี่มีน้องมาทำหน้าที่แอดมินให้แล้วด้วย กลายเป็นว่าเส้นทางจากจุดเริ่มต้นจนวันนี้ ครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้นมาก ๆ แล้วเราไม่มีทางที่จะทำเพลงมาจนถึงทุกวันนี้ได้เลย ถ้าไม่มีทุกคนที่สนับสนุนอยู่ เพราะงั้นความประทับใจมันน่าจะเป็นการมีอยู่ของพวกเขา น่าจะตอบทุกมิติได้ครับ”สุดท้ายให้ Mirrr ฝากผลงานหน่อย ทั้งผลงานเพลงนี้ แล้วก็ในอนาคตจะมีอะไรออกมาให้เราติดตามกันอีกบ้างนาว – “ก็มีเพลงนี้นะครับ ‘ย้ำคิดย้ำทำ’ ที่เพิ่งปล่อยมา ก็ตั้งใจจะปล่อยอีกหลาย ๆ เพลงเลยครับ อยากให้ทุกคนได้ติดตามกัน แล้วก็ตอนนี้กำลังคุยกันเรื่องที่ว่าจะจัดคอนเสิร์ตอะไรสักอย่างนึง ซึ่งอยากให้รอติดตามกันมาก ๆ เลยครับ เพราะว่าเราก็คุยกันแบบเป็นจริงเป็นจังกันมาก”ใบ้ได้ไหมว่าภายในปีนี้จะมีซิงเกิลใหม่ปล่อยออกมาให้เราได้ฟังกันอีกไหมนาว – “อยากให้มีครับ แล้วก็อยากให้ติดตามกัน”

Talk with “โดม จารุวัฒน์” ที่กลับมาพร้อมเพลงใหม่ล่าสุด “เธอไม่ชอบฝน (Rainfall)”

26 ก.ย. 2024

Talk with “โดม จารุวัฒน์” ที่กลับมาพร้อมเพลงใหม่ล่าสุด “เธอไม่ชอบฝน (Rainfall)”

หลังจากห่างหายจากการปล่อยเพลงมานาน ล่าสุด “โดม จารุวัฒน์” คัมแบคพร้อมซิงเกิลใหม่ “เธอไม่ชอบฝน (Rainfall)” ที่ยังคงสไตล์การเป็นดรามาติคโดมคนเดิม แต่เพิ่มสีสันใหม่ ๆ เข้ามา เราจึงได้ชวน “โดม จารุวัฒน์” มาพูดคุยถึงเรื่องราวเบื้องหลังเพลงนี้กันห่างหายจากการปล่อยเพลงที่เป็นเพลงของตัวเองจริง ๆ มานานมาก อะไรทำให้เลือกกลับมาในช่วงนี้“เป็นช่วงที่เรารู้สึกว่าเราคิดถึงมาก ๆ จริง ๆ ก็พยายามที่จะกลับมาในช่วงก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้วเหมือนกัน แต่ว่ามันก็ด้วยเวลาของเราเอง ด้วยความเหมาะสมต่าง ๆ ที่เรารู้สึกว่าตัวเองอาจจะยังไม่พร้อมขนาดนั้น ก็ทำแล้วทิ้งอยู่พักนึงเหมือนกันครับ แล้วตอนนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว อยากจะกลับมาร้องเพลงแล้ว”เพลง “เธอไม่ชอบฝน (Rainfall)” แต่งไว้นานแล้วหรือยัง“แต่งไว้ประมาณปีกว่า ๆ แล้วครับ ตั้งแต่ปีที่แล้ว จริง ๆ ชอบเพลงนี้ตั้งแต่ตอนที่เริ่มเขียนเลย แล้วก็เก็บเอาไว้อยู่ ยังรอวันที่สมมุติว่าถ้าจะกลับมาปล่อยเพลงอีกครั้งนึง เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงแรก คิดไว้ในใจว่าอยากปล่อยเพลงนี้เพลงแรก”“เธอไม่ชอบฝน (Rainfall)” มาในคอนเซ็ปต์อะไร“ก็ยังเป็น โดม จารุวัฒน์ เนี่ยแหละ ที่เล่าเรื่องราวความดรามาติคอยู่เสมอ อย่างเพลงของผมเอง มันมีทั้งในมุมเพลงรัก เพลงรักมันก็ดรามาติคมากจนไปถึงเป็นเพลงงานแต่ง แล้วในขณะเดียวกันก็จะมีเพลงที่เศร้าสุดกู่ มีน้ำตาแน่นอน ซึ่งมันก็เลยทำให้ยังคงเป็นคนที่ร้องอะไรที่มันดรามาติคอยู่เสมอ แต่ว่าในครั้งมันก็คงเป็นความดรามาติคที่เป็นสีสันใหม่ ๆ รสชาติใหม่ ๆ มากขึ้น ด้วยสไตล์ดนตรีที่มีการเปลี่ยนแปลง การเพิ่มอะไรที่มันเป็นสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น แบบที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน อย่างเช่น การร้องเพลงกับซาวน์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มาก ๆ เพื่อให้มันดูเป็นอีกสีนึง แล้วมันดูโตขึ้น ก็เลยกลับมาด้วยคอนเซ็ปต์ที่ยังคงเป็นดรามาติคโดมคนเดิม แต่ว่ามีสีสันใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาครับ”เพลงนี้ปล่อยมาหลายเวอร์ชันมาก ทำไมถึงทำออกมาเยอะขนาดนี้“อันนี้เป็นไอเดียของน้องที่มาช่วยโปรเจคนี้ด้วย ซึ่งเขาก็แนะนำว่าน่าจะลองทำเพลงนี้ในแบบที่มีเสียงฝนใส่เข้าไปด้วย เพราะว่าคนอะชอบเพลงแล้วเปิดเสียงฝนคลอ จะมีคนที่เปิดเพลงปกติเนี่ยแหละ แล้วก็เปิดเสียงฝนคลอไปด้วย มันมีความเป็น ASMR อยู่ มันจะรู้สึกนอนหลับสบายขึ้นครับ แล้วเราก็รู้สึกว่า เออ ในเมื่อเพลงเรามันพูดถึงฝน ก็ลองดู ลองใส่เสียงฝนเข้าไป แต่ว่าจะทำยังไง ทำแค่ใส่เสียงฝนเข้ามาเฉย ๆ มันก็จะธรรมดาไป ก็เลยลองไล่สิ ตั้งแต่ฝนเริ่มตกเปาะแปะ ๆ ไปจนถึงฝนตกหนัก ฝนตกบนหลังคารถแล้วก็มีเสียงที่ปัดน้ำฝนไปด้วย ฝนที่มาพร้อมลมพายุ ฟ้าผ่า แล้วสุดท้ายคือฝนที่มันซา ก็เลยไล่ไดนามิคไป แล้วก็ลองปล่อยโยนทิ้งเอาไว้ ยังไม่ได้ไปทำอะไรกับมัน แล้วก็มีคนไปเจอ ก็เป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราแอบใส่เอาไว้ แต่ว่าก็ดีใจที่มีคนไปค้นเจอครับ”แล้วส่วนตัวโดมชอบเวอร์ชันไหนที่สุด“ผมชอบเวอร์ชันที่เป็นฝนตกบนหลังคารถ เพราะว่าเป็นคนขับรถบ่อย เพราะฉะนั้นเราจะคุ้นเคยกับการที่เราเปิดเพลงในรถแล้วฝนตก แล้วก็จะได้ยินเสียงที่ปัดน้ำฝนด้วย ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเสียงที่เราคุ้นเคยมาก แล้วก็เป็นประสบการณ์ของการฟังเพลงที่มันแตกต่างออกไปครับ”มาที่พาร์ท MV เห็นว่าใช้การถ่ายทำแบบ Long Take ด้วย การทำงานเป็นยังไงบ้าง“คือถึงแม้ว่าออนแอร์มันจะเป็น Long Take แต่ว่าขั้นตอนการถ่ายจริง ๆ มันก็ไม่ได้เป็น Long Take แบบนั้น คือมันเป็นเทคนิคในการเชื่อมแต่ละเทคต่อกันครับ แต่ว่าวิธีการถ่ายก็จะมีความทรหดมาก ๆ เพราะว่าทั้ง MV มันก็คือเราคนเดียวแหละ เราเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมด แล้วก็อยู่ในสถานที่ที่เดียว แล้วก็มีเอฟเฟคต่าง ๆ มีคิว มีวิธีการที่จะทำให้มันมีไดนามิคเกิด เพราะฉะนั้นมันก็เลยเป็นสิ่งที่เป็นความท้าทายอย่างนึงเหมือนกัน เพราะว่าตัวเองไม่ได้ปล่อยเพลงไม่พอ ไม่ได้อยู่ใน MV มาสักระยะนึงแล้วด้วย เพราะว่าถ้าเป็นเมื่อก่อน เพลงผมก็จะไม่ได้มีผมอยู่ในนั้นเลย ก็จะเป็นเรื่องราวของพระเอกนางเอกอะไรไป ตัวเราที่เป็นไลน์ซิงค์ก็จะโผล่มานิด ๆ หน่อย ๆ แต่ว่าอันนี้จะเป็นตัวเราทั้ง MV เลย ถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทาย ในมุมที่เราเองก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เหมือนกัน”เพลงนี้ได้ “อาตี้ วง bamm” มากำกับ MV ให้ การทำงานกับน้องในพาร์ทของการเป็นผู้กำกับ กับการเป็นศิลปินในค่าย มันแตกต่างกันยังไง“คือเขาเท่มาก เมื่อไหร่ที่อาตี้เขาจับงานเบื้องหลัง เขาจะเป็นอีกโหมดนึง อีกร่างนึงไปเลย แล้วเราก็รู้สึกว่าเขาเท่มาก คือเห็นงานเขา ติดตามงานเขา แล้วก็เคยให้เขามาทำงานของค่าย LIT Entertainment ด้วย ก็จะรู้สึกว่าเขาเป็นเลือดใหม่ ไฟแรงมาก อยากทำ อยากทดลอง อยากใส่สิ่งที่มันดีที่สุดเข้าไปในทุกงาน เรารู้สึกว่าอะไรแบบนี้มันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานด้วย แล้วก็ในวันออกกอง น้องก็เป็นคนคุมทุกอย่าง ก็เลยรู้สึกว่าเขามีโหมดที่น่าสนใจมากในการทำงาน อยากให้คนได้เห็นงานเขาเยอะ ๆ”การแต่งเพลงตัวเอง กับการแต่งเพลงให้คนอื่น มันต่างกันไหม อะไรยากกว่ากัน“จริง ๆ ก็มีทั้งส่วนทั้งมันต่าง แล้วก็ส่วนที่มันเหมือนกัน อย่างส่วนที่มันต่างก็คือ เราอาจจะมีโจทย์ที่มันต่างกัน เราแต่งให้คนอื่น เราอาจจะเอาตัวศิลปินมาวาง แล้วก็ลองหาคาแรคเตอร์จากเขา เราอาจจะต้องทำความรู้จักกับตัวตนของศิลปินคนนั้นมาก ๆ แต่ถ้าแต่งเพลงของเราเอง เราก็จะพอสโคปตัวเองได้ เข้าใจตัวเองได้ ประโยคนี้เราคงไม่พูดแบบนี้หรอก ถ้าเราจะสื่อสารแบบนี้ เราคงจะพูดประมาณไหน อันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ผมว่าก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องโจทย์ แต่ว่าด้วยวิธีการของการเขียน มันก็มีแพทเทิร์นของมันแหละในการเขียนเพลง ว่าเราอยากจะทำอะไร แบบไหน ซึ่งถ้าถามว่าอันไหนยากกว่ากัน ผมว่าจริง ๆ มันก็พอ ๆ กัน มันก็คิดด้วยโจทย์ มาด้วยโจทย์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าโจทย์มันแตกต่างกันแค่นั้นเอง”การได้มาเป็นผู้บริหารของ LIT Entertainment ด้วย ทำให้การจะปล่อยซิงเกิลออกมา ต้องคิดเยอะขึ้นกว่าเดิมไหม“คิดเยอะครับ คิดเยอะมาก เพราะว่าพอเรามาทำงานเบื้องหลัง เราก็จะมีความเอ๊ะ อันนี้มันทำแล้วน่าจะเวิร์คนะ อันนี้เคยลองทำแล้วมันไม่เวิร์ค อะไรแบบนี้ เราก็จะเอามาผสมกันหมดแหละ เอาอันนี้ดีกว่า ไม่เอาอันนี้ แต่จริง ๆ มันทำให้เราเรียนรู้ว่าจริง ๆ แล้ว มันไม่มีใครรู้ขนาดนั้นว่าอันไหนเวิร์คหรือมันไม่เวิร์ค เพราะถ้าสมมุติว่าเรารู้ว่าอะไรเวิร์ค เราก็คงทำทุกเพลงดังไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็คือการทดลองแหละ แล้วโจทย์ในแต่ละครั้ง มันไม่เคยเหมือนกันสักครั้ง คนดูคนฟังก็ไม่เคยมาด้วยมู้ดเดียวกันสักครั้งนึง คนฟังในช่วงที่แล้วกับช่วงนี้ มันก็ไม่เหมือนกันอีก เราก็ต้องปรับให้มันทันกับสังคมที่สุด ให้มันเทรนดี้ที่สุด ซึ่งก็เลยเป็นสิ่งที่เราคิดตอนแรกว่า มันก็คงเหมือน ๆ กันแหละ เอาสิ่งที่เราเคยทำในเบื้องหลัง LIT Entertainment มาทำกับเพลงเราได้ สรุปไม่ได้ มันก็ไม่เหมือนกันอีก ผมว่าการทำเพลงมันก็ยังเป็นสิ่งที่ลึกลับอยู่ดี มีความน่าค้นหาของมัน แล้วก็มีคำตอบที่ไม่เคยเหมือนกันสักครั้ง ไม่ว่าเราจะควบคุมตัวแปรมันยังไง ทำเหมือนเดิมเลยนะ มันไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเหมือนเดิมเสมอไป เพราะมันงานศิลปะ มันไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีผิด ไม่มีถูก มันมีแค่ชอบหรือไม่ชอบ คำว่าชอบไม่ชอบมันก็แล้วแต่รสนิยมคนอีก ณ ช่วงนี้ อาจจะฟังแล้วไม่ชอบ แต่พอผ่านไปสักสองเดือน กลับมาฟังแล้วอาจจะชอบขึ้นมา ซึ่งอันนี้มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ มันเป็นตัวแปรที่มันหลากหลายมาก ถ้าถามว่าเอาอะไรบางอย่างมาใช้กับเพลงตัวเองได้บ้าง ก็เอามาได้เยอะอยู่ครับ รู้วิธีการทำงานเบื้องหลังมากขึ้น จากที่เราเคยเป็นศิลปินที่รับโจทย์มาแล้วก็ร้อง แล้วก็มีทีมงานช่วยพาเพลงไปสู่ทุกคน แต่พอทุกวันนี้ที่เราพาเพลงไปหาทุกคนด้วยตัวเอง จากการทำงานเบื้องหลังมา มันก็เลยรู้วิธีการมากขึ้น แต่มันไม่ได้มีสูตรตายตัวในการทำงานแน่นอนครับ”มีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่างมาก ตอนนี้มีความสุขกับพาร์ทไหนมากที่สุด“จริง ๆ พาร์ทเบื้องหลังเนี่ยแหละ พาร์ทเบื้องหลังเป็นสิ่งที่เราแฮปปี้มากครับ แล้วก็ชื่นชอบงานเบื้องหลังตั้งแต่สมัยยังไม่ทำงานเบื้องหน้าด้วยซ้ำ หมายถึงว่าถ้าย้อนกลับไปตอนเป็น ด.ช.จารุวัฒน์ เนี่ย ก็จะเป็นคนนึงที่เนิร์ดกับการดูงานเบื้องหลัง ชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอได้มีโอกาสมาทำงาน มันเริ่มต้นด้วยการทำงานเบื้องหน้าก็จริง แต่ว่าในการทำงานเบื้องหน้านั้น เราก็แอบดูไปเรื่อย ๆ ดูว่าคนเบื้องหลังเขาทำงานยังไงบ้าง โดยที่ไม่ได้คิดหรอกว่าวันนึงเราจะได้มีโอกาสมาจับงานเบื้องหลังแบบจริงจังขนาดนี้ แล้วพอมาจับงานเบื้องหลัง ก็กลายเป็นสิ่งที่เราชอบนะ แล้วก็สนุกมาก การได้เห็นได้อยู่เบื้องหลังของเด็ก ๆ อะ ด้วยวัยนี้ด้วยมั้ง มันน่าจะเป็นวัยที่กำลังพอดีมากกับการได้ทำงานแบบนี้ มันยังคงมีแรง ยังคงมีไฟอยู่ กับการปั้นเด็ก ๆ แล้วก็ได้เติมไฟให้ตัวเอง จากการเห็นไฟของเด็ก ๆ เขาด้วย มันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่ทุกวันนี้มีความสุขมาก”เคยหมดไฟไหม อะไรทำให้ดึงตัวเองกลับมาได้“ก็มีนะ คำว่าหมดไฟในทีนี้ มันอาจจะเป็นการนึกงานไม่ออก หมดแรงบันดาลใจ หรือรู้สึกว่าทุกวันนี้ไม่ได้แอคทีฟเหมือนเมื่อก่อน แต่ว่าจริง ๆ ความรู้สึกสนุกในการทำงานของผม มันยังมีอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นถ้าการหมดไฟหมายถึงการหมดไอเดีย การทำทุกอย่างเป็นรูทีน ทำทุกอย่างซ้ำ ๆ วน ๆ อันนั้นอาจจะมีบ้าง แต่ในมุมของการทำงาน ยังคงกระหายกับการทำงานอยู่เสมอ แล้วก็ยังคงรู้สึกว่าเรามีช่วงเวลาในช่วงนี้แหละที่เราไหว ที่เราทำได้ หลังจากนี้ไปเราอาจจะไม่อยากทำงานแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นในตอนที่เรายังคงแฮปปี้กับมันอยู่ เราก็จะทำให้มันเต็มที่ มันก็เลยเป็นคอนเซ็ปต์ของเราแหละมั้ง ตั้งแต่ผมเข้าวงการมา ไม่ว่าจะเป็นโอกาสไหนก็แล้วแต่ ที่มันเข้ามาในชีวิต ไม่เคยปิดรับเลย อะไรเข้ามาปุ๊บ เอาครับ ทำครับ ได้ครับ ลองดูก่อน แล้วเดี๋ยวทุกงานมันจะมีเมสเสจของมันเอง เดี๋ยวมันจะมีประโยชน์และมีอะไรบางอย่างให้เราได้เรียนรู้เอง ก็เลยคิดแบบนั้นมาเสมอในการทำงานมาตลอด แล้วทุกวันนี้ก็ยังคงคิดแบบนั้นอยู่เรื่อย ๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็แล้วแต่ที่เข้ามา”ถ้าพูดถึง “โดม จารุวัฒน์” อยากให้เป็นภาพจำแบบไหน“ก็คงเป็นคนที่สนุกสนาน แต่ว่าก็โตขึ้นจากที่เคยรู้จัก คือภาพจำที่คนจำ โดม จารุวัฒน์ ได้ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วจากการประกวดรายการ The Star อาจจะจำเป็นผู้ชายอบอุ่น พูดน้อย ๆ ดูเรียบร้อย ดูจืด ๆ อะไรแบบนี้มั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป งานที่เราได้ทำมันก็ฉูดฉาดพอสมควร 4 โพดำ หรือว่างานอื่น ๆ เอง มันก็มีความฉูดฉาดในตัวของมัน ก็อาจจะทำให้คนมีความสับสนว่า เอ๊ะ ตกลงเขาเรียบร้อย หรือว่าเขาจะสนุก แต่ถ้าตัวตนจริง ๆ เราก็อยากให้คนรู้สึกว่าเรามีสีสันแหละ สนุกสนาน เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ เราก็มีภาระหน้าที่ มีการงานที่มันเป็นอีกขั้นนึง มันก็เลยเป็นความรู้สึกที่เราโตขึ้น”ขอ 1 สิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงนี้ แล้วอยากแชร์กับทุกคน“อายุเป็นเรื่องที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะ matter แต่มัน matter มาก (หัวเราะ) เราเคยคิดว่า ไม่จริงหรอก การเดินขึ้นภูเขา ขึ้นบันได 4-5 ชั้นเนี่ย เป็นเรื่องที่ปกติมาก ยังไงก็ค่อย ๆ เดินไปสิ หายใจลึก ๆ เดี๋ยวมันก็ไม่เหนื่อย แต่ว่ามันไม่จริง อายุมันน่ากลัวกว่าที่คิดครับ ผมไม่เคยเชื่อเวลาแม่บอกปวดหลัง เราแบบ แม่ยังไม่เห็นได้ทำอะไรเลย ก็บอกแล้วว่าอย่าไปรดน้ำต้นไม้ อย่าไปถูพื้น เดี๋ยวมันก็ปวดหลังไง แต่กลายเป็นว่าเราอยู่เฉย ๆ ก็ปวดหลังแล้ว แล้วเราก็รู้สึกว่า อ๋อ จริง ๆ แล้วมันก็เป็นไปวัยและสังขารของเรา อันนี้เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงนี้ครับ แล้วก็รู้สึกว่าอย่าไปดูถูกอะไรพวกนี้ เพราะเวลามันเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วมันจะยาก มันจะรู้สึกว่าไม่น่าไปพูดแบบนั้นเลย ทุกวันนี้ไม่ต้องทำอะไรก็ยืดกล้ามเนื้ออย่างเดียว ไม่ไหวแล้ว เมื่อยไปหมด”สุดท้าย ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้มีอะไรให้ติดตามกันบ้าง“ก็มีเพลงนี้แหละครับ ‘เธอไม่ชอบฝน’ ที่เพิ่งปล่อยออกมา แล้วก็คิดว่าเดี๋ยวน่าจะมีเพลงต่อ ๆ ไปให้ได้ฟังกันด้วย ตอนนี้ก็เข้าไปฟังเพลงนี้กันก่อนได้ที่ YouTube Dome Jaruwat Official ครับ แล้วก็มีรายการอยู่ในนั้นด้วย เป็นรายการเพลงที่ผมรู้สึกว่าทำแล้วมีความสุขมาก ๆ เหมือนกัน ก็คือ Missing Voice ที่ชวนคนในวงการบันเทิงวงการเพลงที่ผมคิดถึง อยากฟังเสียงเขา อยากร้องเพลงกับเขา มาร้องเพลงด้วยกัน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำด้วยแพชชั่นมาก ๆ ทำด้วยความคิดถึงมาก ๆ ก็ติดตามกันได้ใน YouTube ช่องเดียวกันครับ แล้วก็ฝากค่าย LIT Entertainment ครับ ก็อยากจะชวนทุกคนมาสนับสนุนวงการ T-Pop แล้วก็เป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ รุ่นใหม่กันครับ หลาย ๆ วงผมก็เลี้ยงมากับมือ ปั้นมาด้วยกัน แล้วก็โตมาด้วยกัน ก็ฝากน้อง ๆ ด้วยแล้วกันครับ”

Talk with "NONT TANONT" ถึงซิงเกิลล่าสุด "คลั่งเธอ (Dopamine)"

23 ก.ย. 2024

Talk with "NONT TANONT" ถึงซิงเกิลล่าสุด "คลั่งเธอ (Dopamine)"

หลังจากออกทัวร์คอนเสิร์ต 4 ภาค "นนท์ ธนนท์" ก็ไม่ปล่อยให้แฟน ๆ รอนาน ส่งซิงเกิลใหม่ล่าสุด อย่างเพลง "คลั่งเธอ (Dopamine)" มาให้แฟน ๆ ได้โยกตามกันเบา ๆ ซึ่งงานนี้ได้ "แอ้ม อัจฉริยา" นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์คู่หูของนนท์ มาร่วมทำงานด้วยกันอีกครั้ง พร้อมควง "หลิน มชณต" มาร่วมแสดง MV ที่เป็นการถ่ายแบบ One-take ครั้งแรก เราจึงได้ชวนนนท์มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้ และโมเมนต์ดี ๆ ระหว่างเส้นทางการเป็นศิลปินของเขากันซิงเกิลใหม่ "คลั่งเธอ" มาในคอนเซ็ปต์อะไร“คอนเซ็ปต์ของมันคือคนที่ไม่ได้คลั่งรัก แต่ว่าคลั่งเธอ ไม่ได้คลั่งทุกความรักที่เข้ามา แต่เราคลั่งแค่กับคนคนนี้”แล้วปกติชีวิตจริงของนนท์ เป็นคนคลั่งรักไหม“ในมุมผมก็รู้สึกว่าเป็นคนปกตินะ เวลาที่เรารักหรือแคร์ใครสักคน เราก็อยากที่จะให้เขามีความสุขมาก ๆ มันเป็นปกติ ในที่นี้คือไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์แบบแฟนเท่านั้น ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ เราก็อยากให้เขามีความสุข แข็งแรง”MV นี้ เป็นการเล่น One-take ครั้งแรกของนนท์ด้วย ยากไหม ใช้เวลาเตรียมตัวนานหรือเปล่า“ทำการบ้านนาน เพราะตอนที่เราเริ่มขึ้นคอนเซ็ปต์ของตัว MV นี้ เป็นช่วงที่นนท์เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต 4 ภาค เพราะฉะนั้นมันก็เลยทำให้เวลาที่เราจะไป on site ทำบล็อกกิ้งเนี่ยมันน้อย ทีนี้เราก็จะต้องทำการบ้านเยอะมาก ๆ ผมต้องดูมุมกล้องหลาย ๆ มุมกล้อง ว่าเราอยู่ตรงไหน ต้องไปตรงไหน แต่ถึงเวลาจริง ๆ มันก็ต้องมาซ้อมอีก ซึ่งโดยรวมถือว่าเป็นงานที่หนักมาก ๆ หนักกว่าที่คิดไว้สำหรับการถ่าย One-take เพราะว่าเมื่อเราพลาดหนึ่งคน ทุกคนต้องกลับไปเริ่มใหม่ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเป็นอะไรที่กดดัน แล้วก็เหนื่อยทีมงานทุกคน”ใช้เวลาในการถ่ายทำ MV นานไหม“รวมเทคซ้อม ผมว่าประมาณ 15 เทค แต่ว่าถ่ายจริง ผมว่าไม่ถึง 10 เทค”ร่วมงานกับ “หลิน มชณต” เป็นยังไงบ้าง“พี่หลินเป็นคนที่เก่งมาก สนุกมาก แล้วก็ตั้งใจมากในการถ่าย Long-take เขาบอกว่าเขาอยากลองมาก แล้วตัวผมก็รู้สึกดีใจ ผมรู้สึกว่า พอเราอยู่กับคนที่มีไฟในการทำงานมาก ๆ ทำให้เราอยากไปด้วยกัน เอาจริง ๆ เราอยู่ในฝั่งของเสียงมากกว่าภาพเนอะ เราอาจจะไม่ได้เข้าใจในทุก process แต่ว่าเราก็รู้สึกสนุกไปกับมันได้ แล้วก็ท้ายที่สุดผลลัพธ์มันออกมาดีกว่าที่เราคิดไว้มากครับ”บรรยากาศในการถ่ายทำวันนั้นเป็นยังไง มีอุปสรรคอะไรไหม“ดุเดือดกว่าที่คิดไว้มาก ทุกคนต้องทำงานเป็นทีม เมื่อมีเทคนึงที่มันอาจจะยังไม่ดีเท่าไหร่ ทีมงานก็ต้องมาเซตสิ่งที่ทุกคนเพิ่งดึงกันออกไป รีเซตของออกจากฉากนู่นนี่นั่น แล้วทำภายในเวลาสั้น ๆ เพราะเราอยากให้ยังอยู่ในช่วงเวลาที่แดดออก แสงยังมี ซึ่งมันก็กดดัน แค่ลำพังเราถ่ายกันปกติ ถ่ายให้ทันแสง day light มันก็ยากอยู่แล้วเนอะ แต่อันนี้เป็น Long-take อีก ที่ถ้าเราเสีย ต้องกลับมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่ มันก็กดดันอะครับ แต่ผลลัพธ์ออกมาคือเราเสร็จก่อนเวลานานมาก เพราะได้เทคที่เรารู้สึกว่าใช้ได้แล้ว”ปกติเพลงของนนท์มักจะเล่าเรื่องความรักเป็นส่วนใหญ่ มีอยากทำเพลงที่เล่าเรื่องราวอื่น ๆ อีกบ้างไหม“เรื่องอื่นเหรอครับ จริง ๆ ผมว่าความรักมันก็เป็นแง่มุมนึงของชีวิตนะ อย่างตัวผมเองก็จะมีเพลงที่เราไม่ได้พูดถึงความรักซะขนาดนั้น เราพูดถึงชีวิตหลังจากที่เราเสียใครไปสักคน อย่างเพลง ‘memories’ ก่อนหน้านี้ ที่ผมเคยทำอยู่ในอัลบั้ม หรือว่า ‘ทุกนาทีที่สวยงาม’ มันเป็นสิ่งที่เมื่อความรักมันไม่มีอะ มันอยู่ยังไงต่อ แต่ผมมักจะวาดรูปหัวใจฉาบเอาไว้ในทุกเพลง เพราะว่าจริง ๆ ผมว่ามนุษย์ขับเคลื่อนด้วยความรักเป็นส่วนมาก มันดูเป็นอะไรที่นุ่มนิ่ม และดูเป็นคำตอบที่คลิเช่มาก แต่มันเป็นอย่างงั้นจริง ๆ เรากินสิ่งนี้ เพราะเรารักที่จะกินมัน เราชอบที่จะกินมัน เรากินซ้ำเพราะเรารักมันมากใช่มั้ย เราทำสิ่งนี้เพราะเราอยากทำมัน ในขณะเดียวกัน เราทำสิ่งที่เราไม่ชอบ เช่น สมมุติเราทำงานนี้ เราไม่ชอบเลย แต่เราต้องทำ เพราะเรามีคนที่รักรอให้เรากลับไปดูแลอยู่ มันขับเคลื่อนทุกอย่าง”“ผมว่าผมก็มีวิธีของเราแหละที่จะเล่ามัน ในอนาคตผมอาจจะไม่รู้ว่าหีบห่อของความรักมันจะน้อยลงมั้ย หรือมากขึ้น หรือเท่าเดิม แต่ว่า ณ ปัจจุบัน ผมรู้สึกว่า ผมก็ไม่ได้เล่าในมุมที่เป็นรักซะขนาดนั้น อย่างแม้แต่ความรู้สึกของเพลง ‘คลั่งเธอ’ เราไม่ได้รู้สึกถึงความรักแบบรักเอยเตยหอม เราพูดถึงการที่เราสังเกตตัวเองว่ามันเปลี่ยนไป แล้วเราก็ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘Dopamine’ มันคือสารแห่งความสุขชนิดนึง ที่ถ้าเรามีมากจนเกินไปจะเกิดอาการเสพติด นั่นแปลว่าก็ให้มอนิเตอร์ตัวเองกันด้วยในเวลาที่เราคลั่งใครสักคน ซึ่งมันไม่ได้พูดในแง่มุมความรักอย่างเดียว พูดถึงการที่เราต้องดูตัวเองกันดี ๆ ด้วย”ผลงานที่ผ่านมาในชีวิตของการศิลปิน นนท์คิดว่างานชิ้นไหนถือเป็นมาสเตอร์พีซสำหรับเราเลย“จริง ๆ สำหรับผมเหรอครับ หลาย ๆ ชิ้นงานที่เราได้ทำ ก็เป็นมาสเตอร์พีชของเราในแต่ละเวอร์ชันนะ แต่ถ้าถามถึงชิ้นงานที่เป็นมาสเตอร์พีซที่สุด ก็คงจะเป็นอัลบั้ม ‘Cigarette Candy Vanilla Sky’ อะครับ ถึงแม้จะเป็นชิ้นงานที่ทำภายใต้ข้อจำกัดที่เยอะมาก แต่มันคือมาสเตอร์พีซที่สุดแล้วสำหรับทุกข้อจำกัดตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโควิดที่ทำให้เราไม่สามารถทำงานสตูดิโอเดียวกันได้ ฟังก็ฟังลำโพงคนละตัวกัน ได้ความรู้สึกที่ต่างกัน อยู่กันคนละบรรยากาศกัน ไม่สามารถเดาได้ว่ามันจะสื่อสารยังไง แต่หลังจากที่ได้รางวัลนู่นนี่ มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เรารู้สึก เราไม่ได้คิดไปเอง งานของเรามันดีนี่นา พอมีรางวัลเข้ามาการันตี เรายิ่งรู้สึกว่ามันดีจริง ๆ เพราะเราไม่ได้มั่นใจในตัวเองขนาดนั้น แต่เราเชื่อมั่นในทีมงานของเราที่เราดึงมาทำ ที่เป็นระดับอาจารย์ทั้งนั้น”“ถ้าถามว่ามาสเตอร์พีซที่สุด คือทุกชิ้นงานแหละครับ ที่ได้มาทำกับทาง LOVEiS โดยเฉพาะอัลบั้ม ‘Cigarette Candy Vanilla Sky’ ก็เป็นชื่อที่ผมก็คิดเองด้วย เป็นเดโม่ที่ตอนแรกเรากะจะไม่ได้ใช้จริงด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นชิ้นงานที่สนุก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานอื่นหลังจากทำอัลบั้มนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลง อย่าง ‘ดอกไม้ที่รอฝน’ ก็เป็นมาสเตอร์พีซ เพราะว่าเรากับทอยได้มีโอกาสเจอกันบ่อยมาก ๆ เลย แต่ว่าการได้เจอกันครั้งนี้ มันมีความหมายมาก ๆ เพราะทอยจะหยุดทำงานเพลงแล้ว เรารู้สึกว่าเราอยาก bring up ทอยกลับมา ให้ทุกคนได้ยังโอบกอดทอยไว้ อยากให้เพื่อนรู้สึกถึงความรักที่มันยังรายล้อม มันก็เป็นมาสเตอร์พีซในการคอแลปอีก หรือว่าชิ้นนี้ ‘คลั่งเธอ’ มันก็หวานขึ้น ซึ่งก็เป็นเฉดสีที่เราไม่ค่อยได้หันออกมาให้คนเห็นมากนัก ก็เป็นมาสเตอร์พีซในแต่ละมุมครับ”ในบรรดาเพลงของนนท์ทั้งหมด เพลงไหนที่ตรงกับชีวิตนนท์ หรืออธิบายตัวตนของนนท์ได้มากที่สุด“สำหรับผมคือ ‘ทุกนาทีที่สวยงาม’ หรือว่า ‘memories’ ก็ได้ สองเพลงนี้มันเป็นเพลงที่ค่อนข้าง personal เราเลยพยายามเอาไปซ่อนในลำดับท้าย ๆ ของอัลบั้ม ถ้าคนได้ฟังไปจนถึงเพลงสุดท้ายในอัลบั้ม ก็จะรู้สึกว่าเราเล่าเรื่องราวที่มันจริงกับเรามาก ๆ โดยเฉพาะเพลง ‘memories’ ก็เป็นเพลงที่ผมเล่นได้ลำบากมากในทุกครั้งที่ต้องหยิบขึ้นมาเล่น”นนท์ก็อยู่ในวงการมานาน มีงานอะไรที่เรายังไม่เคยทำแล้วอยากทำอีกไหม“จริง ๆ ก่อนหน้ามีบางช่วงที่รู้สึกว่าเราอยากเบรกชิ้นงานของเราไว้ เบรก career ของเราไว้แป๊บนึง เพราะรู้สึกว่าเราทำมาหลายอย่างแล้ว จนนี่แหละ ได้กลับมาทำชิ้นงานอื่น ๆ ต่อ หรือแม้แต่การได้ทำคอนเสิร์ต 4 ภาค ที่ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นในบ้านเรามาก ทั้งที่ตัวผมเองก็ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศบ่อยมากในหลาย ๆ ที่ แล้วก็นานมาก แล้วก็งงว่าทำไมเราไม่มีคอนเสิร์ต 4 ภาคในบ้านเรา รวมไปถึงศิลปินไทยคนอื่น ๆ ด้วย ทำไมการทัวร์ในไทยที่ศิลปินกับค่ายจัดเองไปกันเองอะ มันถึงยากเย็นนัก ในขณะที่คนดูก็ต้องมาดูในกรุงเทพเท่านั้น เราเลยลองทำสิ่งนั้น แล้วเราเจอเลยว่าเราตกหล่นไปเยอะมากครับ เรายังไม่รู้อะไรอีกเยอะเลย”“บวกกับยุคที่มันกำลังเปลี่ยนเข้าไปอีก เราอยู่ในยุคที่ซีดีเสร็จปั๊บ มาเป็นดิจิตอลใช่มั้ยครับ ดิจิตอลเสร็จ เราสามารถจัดเพลย์ลิสต์ในดิจิตอลของเราได้อีก หรือฟังเพลย์ลิสต์ของคนอื่นได้อีก เราอยู่ในยุคที่อินดี้มันไม่ได้อินดี้ขนาดนั้น อินดี้จริง ๆ คือแค่เพลงที่คุณไม่รู้จักแล้ว แต่ไม่ใช่แนวเพลงที่มันชัดเจนตายตัว ผมก็เลยรู้สึกว่ามันมีหลายสิ่งให้ผม explore ก็รู้สึกว่าก็ยังอยากทำสิ่งเดิมเนี่ยแหละครับ ด้วยความรู้สึกใหม่ ๆ และมุมมองที่ใหม่มากขึ้น”พูดถึงทัวร์ 4 ภาคที่เพิ่งจบไปหน่อย มีโมเมนต์ไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษบ้าง“จริง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบอะ ผมได้รับรู้ข่าวสารอยู่ตลอด ว่าคนดูที่มาดูเขาประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวเราก็อยากจะฝากแมสเสจไปแหละ ว่าตัวเราเองก็ประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบเลย เพราะเราก็ไม่เคยไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วมีคนแต่งตัวประหลาดขนาดนี้มาดูคอนเสิร์ต หรือว่าทุกคนสนุกกันได้เหมือนเป็นคอนเสิร์ตใหญ่อย่าง EP.01 EP.02 เลย มันดีอะครับ มันดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก แล้วก็ทุก ๆ ที่ที่เราไป คนดูมันเต็มไปหมด ทุกคนต้อนรับเราอย่างดี ทุกคนภูมิใจกับการที่เราไปบ้านเขา”“อย่าง ‘NONT TOUR EP 0.2 เล็ก ๆ แต่ลึก’ เนี่ย เราพูดถึงเพลงที่มันลึกมาก ๆ ครับ บางเพลงเราค่อนข้างฟันธงด้วยซ้ำ ว่าคนดูร้องไม่ได้แน่ ๆ แต่กลายเป็นว่าคนดูร้องได้หมดเลยทุกเพลง จนบางทีเราต้องมานั่งคำนวณ หรือว่าเราต้องลึกกว่านี้อีกนะ นั่นแหละครับ นั่นคือสิ่งที่ผมว่า เท่าที่นักร้องคนนึงจะได้รับอะครับ ผมได้รับจากทุกคนแล้ว ก็ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนึงครับ เพราะว่าถ้าไม่มีทุกคนมาสร้างโมเมนต์แบบนี้ มันก็เป็นแค่การซ้อมดนตรีบนเวทีครั้งนึงเอง แต่ว่ามันเป็นคอนเสิร์ตที่ดีได้ ด้วยไวบ์ของคนดู ด้วยการอ้าแขนรับของคนดู ที่ทำให้เรารู้สึกว่าในมุมของดนตรี มันยังมีอีกหลายแง่มุมเลยที่ผมกับเพื่อน ๆ อยากจะไป”มีลุคไหนของแฟนคลับที่เราประทับใจเป็นพิเศษไหม“จริง ๆ ชอบคุณย่าคนนึงครับ น่าจะที่ขอนแก่น เขาแต่งตัวเป็นขอนไม้ ขอนไม้เป็นจุดเริ่มต้นของจังหวัดขอนแก่นครับ ซึ่งเขาอาวุโสมากแล้วอะครับ แต่เขาต้องมาแต่งตัวอะไรอย่างงี้ เรารู้สึกผิดมาก เพราะว่าถ้าเขาชอบศิลปินคนอื่น เต็มที่เขาอาจจะแค่ถือบงมาโบกเฉย ๆ แต่ทำไมเขาต้องแต่งตัวเป็นต้นไม้มานั่งดูเรา เราก็เกรงใจเขาอะ แต่คุณย่าก็น่ารักมาก คุณย่าก็ยืน แล้วก็มั่นใจในคอนเซ็ปต์ที่คิดมามาก แล้วทุกคนก็ขำกันหมด ผมชอบมาก ไวบ์ แอตติจูดเขา ชุด คอนเซ็ปต์ แล้วก็คาแรคเตอร์”ชาวเน็ตบอกต่อกันว่า นนท์ ธนนท์ ช่วยหาที่จอดรถได้ เพลงไหนใช้หาที่จอดรถได้ดีที่สุด“อันนี้ไม่รู้ เพราะสำหรับผมก็ไม่ค่อยเวิร์คเลย ยังไงผมว่าที่นี่ควรเปิดโหวตกันว่าเพลงไหนใช้แล้วเวิร์ค แต่ส่วนมากคนมักจะใช้ ‘โต๊ะริม’ กัน แล้วตอนนี้เราก็มีเพลงใหม่เข้ามาแล้ว ที่เป็นเพลงมีเดียมเพลงเร็วเหมือนกัน ก็เปิด ‘คลั่งเธอ’ วน ๆ ก็ได้ครับ ผมว่าน่าจะเวิร์คอยู่”พูดอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตาม นนท์ ธนนท์ กันอยู่หน่อย“ไม่มีอะไรนอกจากคำว่าขอบคุณเลยครับ ผมว่าเราทำดีที่สุด แต่ว่าชิ้นงานมันจะไม่เดินทางไปไหนเลย ถ้ามันไม่มีคนดูคอยผลักดัน มันเหมือนเราทำตุ๊กตาตัวนึงอะ ที่มันขยับเองไม่ได้ เราสร้างมาให้หน้าตามันเป็นแบบที่เราพอใจ ถึงเวลาเราก็ไปวางไว้ มันจะขับเคลื่อนไปทิศทางไหน มันอยู่ที่คนดู แล้วก็ผมเดินทางมา ถือว่ายาวนานมากครับสำหรับศิลปินในยุคดิจิตอล ก็ถือว่าเป็นอะไรที่มันมีแต่กำไรของความสุขแล้วอะ ณ โมเมนต์ตอนนี้ แล้วก็ผมพยายามอยู่ในวงการ โดยที่นึกตลอดว่าสามารถให้อะไรพวกเขาได้บ้าง เพราะตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมา เรา give and take กันมาตลอด แล้วก็จะยังคงเป็นแบบนั้นแหละอยู่ตลอด อย่างการทำชิ้นงาน ก็ยังไม่เคยมีโน้ตไหนที่เราร้องด้วยความมักง่ายเลยสักครั้งเดียวในตลอด 12 ปีนี้ แล้วก็จะยังคงเป็นต่อไปแหละ ตราบใดที่เรายังคงเป็นนักร้องอยู่นะ อย่าง ‘คลั่งเธอ’ ตรงคำว่า ‘หัวเราะคนเดียว’ ก็หลายเทคอยู่ครับ เพื่อให้ได้เสียงหัวเราะด้วย แล้วก็ฟังชัดด้วย คือเราไม่มองข้ามสิ่งนั้นเลย แล้วก็ต้องขอบคุณแฟน ๆ ที่ซัพพอร์ต รวมไปถึงคนเบื้องหลังด้วยครับ ที่ช่วยทำให้งานของเราออกมา”สุดท้ายให้นนท์ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้เรามีอะไรให้แฟน ๆ ติดตามกันบ้าง“ก็ฝากเพลง ‘คลั่งเธอ’ ไว้ด้วยนะครับ เป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงที่อยู่ในพาร์ทของสีสันที่มันสนุกมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ทำสีสันแบบนี้มาพักใหญ่แล้วครับ หลังจากเพลง ‘โต๊ะริม’ ซึ่งก็หวังว่าทุกคนจะชอบกัน เพลงนี้เราพูดถึงโมเมนต์ของคนที่หลุดทรง ยังไงก็ขอให้ทุกคนคลั่งเธออย่างปลอดภัย แล้วก็คลั่งรักต่อไปอย่างมีความสุขครับผม”สามารถสปอยล์ได้ไหม จะมีผลงานอะไรในอนาคตอีกบ้าง“หลัก ๆ ก็เหมือนเดิมแหละครับ ยังคงวุ่นอยู่กับคอนเสิร์ต แล้วก็เฟสติวัลต่าง ๆ แล้วก็คอนเสิร์ตใหญ่ EP.03 ปีหน้าเจอกัน ก็ดูแลสุขภาพกันให้ดี แล้วก็เตรียมตัวเก็บเงินกันเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้”ต้องเตรียมแต่งตัวอีกไหมสำหรับคอนเสิร์ต EP.03“คอนนี้ไม่น่าต้องแต่งตัวแล้ว คนที่ต้องแต่ง จะต้องกลับมาเป็นผมเหมือนเดิมนะครับ”

How to Chill

1 ตุลาคม วันหมาดำแห่งชาติ (Black Dog Day)

01 ต.ค. 2024

1 ตุลาคม วันหมาดำแห่งชาติ (Black Dog Day)

วันหมาดำแห่งชาติ (Black Dog Day) ถึงแม้จะไม่ใช่วันสำคัญทางการของประเทศไทย แต่ก็เป็นวันที่คนรักสุนัขทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่เลี้ยงสุนัขสีดำ ใช้เป็นโอกาสในการเฉลิมฉลองและให้ความรู้เกี่ยวกับสุนัขสีดำ ซึ่งมักถูกมองข้ามหรือมีอคติทางด้านความเชื่อความเชื่อเกี่ยวกับสุนัขสีดำโชคร้าย: ในหลายวัฒนธรรม สุนัขสีดำมักถูกเชื่อมโยงกับความโชคร้าย หรือเป็นสัญลักษณ์ของความตายเวทมนตร์ดำ: มีความเชื่อว่าสุนัขสีดำถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมเวทมนตร์ดำก้าวร้าว: บางคนเชื่อว่าสุนัขสีดำมีนิสัยก้าวร้าวมากกว่าสุนัขสีอื่นๆความจริงเกี่ยวกับสุนัขสีดำนิสัย: สุนัขสีดำไม่ได้มีนิสัยที่แตกต่างจากสุนัขสีอื่นๆ นิสัยของสุนัขแต่ละตัวขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ การเลี้ยงดู และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆอุปนิสัย: สุนัขสีดำเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก ฉลาด และซื่อสัตย์ ไม่แตกต่างจากสุนัขสีอื่นๆการรับเลี้ยง: สุนัขสีดำมักถูกทอดทิ้งหรือถูกนำไปปล่อยมากกว่าสุนัขสีอื่นๆ เนื่องจากความเชื่อที่ไม่ถูกต้องทำไมเราถึงควรให้ความสำคัญกับวันหมาดำแห่งชาติ?ทำลายอคติ: การเฉลิมฉลองวันหมาดำแห่งชาติเป็นโอกาสที่ดีในการทำลายอคติและความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสุนัขสีดำส่งเสริมการรับเลี้ยง: ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนหันมาเลี้ยงสุนัขสีดำที่ถูกทอดทิ้งสร้างความเข้าใจ: ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกวิธีสรุป: สุนัขสีดำเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและซื่อสัตย์ ไม่ควรมีการเลือกปฏิบัติหรือดูถูกเพียงเพราะสีของขน การเฉลิมฉลองวันหมาดำแห่งชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความเท่าเทียมและความสำคัญของสัตว์เลี้ยงทุกตัว

‘Inside Out 2’ กลับมาอีกครั้งพร้อมตัวละครใหม่

14 มิ.ย. 2024

‘Inside Out 2’ กลับมาอีกครั้งพร้อมตัวละครใหม่

จากภาคแรกของ มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง หรือ Inside Out ภาค 1 เราได้พบกับตัวละคร 5 อารมณ์ อย่างลั้ลลา , เศร้าซึม , ฉุนเฉียว , กลั๊วกลัว และหยะแหยง แต่ในภาคนี้ หลังจากได้ห่างหายจากจอไปนานถึง 9 ปี Inside Out 2 มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2 ได้กลับมาสร้างความอลเวง X2 ด้วยการเพิ่มตัวละคร อีก 4 อารมณ์ เนื่องจากหนู Riley ได้เติบโตขึ้นในวัย 13 ปีกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่นที่เธอจะได้พบกับสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมากมาย รวมไปถึงอารมณ์ใหม่ ได้แก่อารมณ์ว้าวุ่น นำแสดงโดย คุณ Maya Hawkeอารมณ์อิจฉา นำแสดงโดย คุณ Ayo Edebiriอารมณ์เฉยชิล นำแสดงโดย คุณ Adèle Exarchopoulosและอารมณ์เขินอาย นำแสดงโดย คุณ Paul Walter Hauseในภาพรวมแล้วแม้ว่า Inside Out 2 จะออกฉายห่างจากภาคแรกนานกว่า 9 ปี แต่ภาพยนตร์ก็ยังอัดแน่นไปด้วยงานภาพที่สวยสดงดงาม การนำเสนอที่สนุกสนาน และการสร้างสรรค์ตัวละครที่ทำให้เราหลงรัก เพิ่มเติมด้วยเรื่องราวอันน่าประทับใจที่เติบโตขึ้นตามตัวละครและสามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ทุกวัยInside Out 2 มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2 จะอลเวง และสนุกขนาดไหน ไปดูกันได้ที่ในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้รับชมตัวอย่างได้ที่: www.youtube.com/watch?v=itztZ9pLC14

ถอดรหัสภาษาแมว

09 พ.ค. 2024

ถอดรหัสภาษาแมว

หากคุณเพิ่งเลี้ยงแมวเป็นครั้งแรก หรือเคยเลี้ยงแมวมานานแล้ว คุณอาจเคยสงสัยและอยากรู้ว่า แมวกำลังคิดอะไรอยู่ หรือเวลาแมวทำท่าทางเช่นนี้ต้องการสื่ออะไร อารมณ์ของแมวนั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ดีใจ เศร้า กลัว ผ่อนคลายหรือแม้แต่หงุดหงิดสับสน วันนี้เราจึงพาทุกคนไปถอดรหัสภาษาแมวสัญญาณของพฤติกรรม “เฉย ๆ” ของแมวนอนยืดเหยียดขาหรือขดตัวเป็นก้อนกลม ไปจนถึงนอนทับขาหน้าโดยที่พับอุ้งเท้าไว้ใต้ตัวดวงตาอาจดูอ่อนโยน หรือตาปรือหูไม่เกร็ง แต่ชี้ขึ้นและเอียงมาทางด้านหน้าหนวดของแมวผ่อนคลาย ไม่ได้อยู่ชิดแนบกับแก้มส่วนลำตัวไม่เกร็งตัวซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพร้อมเตรียมตัวกระโจนสัญญาณของพฤติกรรม “สนใจ” ของแมวตาจะเบิกกว้างแต่ม่านตาแคบหู และหนวดชี้ไปข้างหน้าส่วนลำตัวย่อต่ำลง ขณะย่องไป โดยที่ขาหลังจะย่ออยู่ใต้ลำตัวหางที่ชี้ไปด้านหลังอยู่ต่ำเกือบติดพื้น ซึ่งปลายหางและส่วนหลังของร่างกายอาจขยับไปมาเมื่อแมวพร้อมจะกระโจนสัญญาณของพฤติกรรม “กำลังมีความสุข” ของแมวกรณีที่แมวนั่ง หรือนั่งตัวตรง มีใบหูตั้งขึ้นและชี้มาด้านหน้าในลักษณะไม่เกร็ง หรือบางครั้งแมวอาจขยับใบหูไปมาช้า ๆในกรณีของท่านอนนั้น แมวจะขดอุ้งเท้ามาทับไว้ใต้ตัวหรือนอนตะแคงเหยียดยาวหรือนอนหงายด้วยซ้ำ ส่วนขาที่จะเหยียดยาวออกไปเป็นสัญญาณว่า เขากำลังมีความสุขมากแมวอาจนอนหลับตาหรือตาปรือเกือบปิดเหมือนมีอะไรมาถ่วงเปลือกตาไว้หนวดแมวจะดูผ่อนคลายและหางจะอยู่นิ่ง ๆ หรือถ้าแมวยืนก็จะยกหางสูงจากพื้นโดยโค้งเล็กน้อยสัญญาณของพฤติกรรม “วิตกกังวล” ของแมวตาแมวจะเบิกกว้างแต่ไม่กระพริบ ส่วนม่านตาจะขยายออกเป็นรูปไข่หรือทรงกลมหูจะเปลี่ยนจากการผ่อนคลายมาอยู่ในลักษณะชี้มาด้านหน้าเพื่อสแกนหาข้อมูล หูแต่ละข้างจะขยับไปมาในทิศทางที่ไม่เหมือนกัน ถ้าแมวกังวลมาก ๆ หูแมวอาจลู่ลงมาจนชิดกับหัวหัวแมวอาจกดต่ำลง โดยหนวดจะลู่มาด้านข้างทำให้หัวดูเล็กและไม่คุกคาม หรือบางครั้งก็อาจชี้มาด้านหน้าเหมือนกำลังตื่นตัวเมื่อกังวลมากขึ้น แมวจะเริ่มย่อตัวลงจนอยู่ในท่าหมอบหรือโก่งหลังขึ้นเพื่อเตรียมตัววิ่งจุดนี้ภาษาแมวที่สื่อผ่านหางนั้นสำคัญมาก โดยหางของแมวอาจอยู่นิ่ง ๆ หรือปลายหางอาจแกว่งจากซ้ายไปขวาช้า ๆสัญญาณของพฤติกรรม “อาการกลัว” ของแมวหูแมวจะลู่ไปทางด้านหลัง และอาจอยู่ชิดกับหัวแต่ปลายหูชี้ขึ้นแมวอาจวิ่งหนี ถ้าเขาวิ่งหนีไม่ได้ก็อาจยืนหรือหมอบลงอยู่นิ่ง ๆส่วนตาก็จะเบิกกว้าง โดยม่านตาจะขยายขึ้นและหนวดแมวก็ลู่แนบกับหน้าหรือลุกชันแมวอาจทำเสียงขู่ฟ่อหรือพ่นน้ำลายใส่สิ่งที่คุกคาม ไปจนถึงขู่คำรามหรือตบด้วยอุ้งเท้าที่กางเล็บออกแมวบางตัวอาจยึดตัวให้ขาหน้าดูสูงขึ้นหรือโก่งหลังและทำขนพองเพื่อให้ดูเหมือนตัวใหญ่ขึ้นแมวอาจเก็บหางไว้ใต้ตัวหรือแกว่งไปมาเร็ว ๆสัญญาณของพฤติกรรม “กำลังหงุดหงิด” ของแมวแมวที่กำลังหงุดหงิดจะพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดและจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการประสาทสัมผัสของแมวจะมุ่งไปที่เป้าหมาย ดวงตาเบิกกว้าง ม่านตาขยาย หูชี้มาด้านหน้า หนวดชี้ไปด้านหน้าและแผ่ออกแมวอาจเดินวนเวียนแบบหงุดหงิดหากไม่ได้สิ่งที่ต้องการแต่แมวจะไม่หงุดหงิดนาน ดังนั้นถ้าเขาไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เขาก็จะเลิกสนใจแมวที่มีอาการหดหู่ซึมเศร้าระยะยาวมักมีอาการเซื่องซึม ไม่อยากอาหารและไม่อยากเล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใครสัญญาณของพฤติกรรม “โกรธ” ของแมวเมื่อแมวโกรธ ลำตัวจะแมวจะแข็งนิ่ง หางชี้ตรงหรือม้วนไว้ใต้ลำตัวพฤติกรรมของแมวจะดูต่างออกไปจากปกติ โดยอาจจะเงียบ ขู่ฟ่อ พ่นน้ำลายหรือคำรามออกมาแมวจะพองตัวให้ดูใหญ่ขึ้นหรือดูน่าเกรงขามด้วยการพองขนให้ฟู ยืดขาหน้าให้ตรงหรือคำรามเพื่อขู่หูเกร็ง ลู่แนบไปด้านหลัง ส่วนหนวดกางออกจากหน้าตาของแมวจะดูแข็งกร้าวและจ้องไม่กระพริบ ม่านตาอาจเล็กลงแม้ว่าบางตัวอาจทำตาโตขึ้นพร้อมกับจ้องมองไม่กระพริบตาสัญญาณของพฤติกรรม “ผ่อนคลาย” ของแมวร่างกายทุกส่วนของแมวดูผ่อนคลาย แมวบางตัวอาจยืดเหยียดตัวเพื่อกำจัดความตึงส่วนตา หู หัว ลำตัวและหางก็จะดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดหนวดกลับสู่ตำแหน่งที่บอกอาการสงบโดยอยู่ห่างจากใบหน้าและหัวก็ไม่ชูสูงขึ้นเมื่อเราเข้าใจแล้วว่า แมวแสดงความรู้สึกอย่างไร ก็ควรตอบสนองตามความต้องการและพฤติกรรมของเขาให้เหมาะสม แม้ว่า พฤติกรรมหลายอย่างจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ และอ่านได้ง่าย แม้ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน เช่น การขู่ แต่สัญญาณอื่น ๆ จะแสดงออกไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ลองศึกษาคำแนะนำข้างต้นเพื่อตีความอารมณ์และความรู้สึกของแมว และนำมาใช้สร้างความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

รวม 5 น้ำหอมจากดอกพีโอนีต้อนรับวันวาเลนไทน์ ฉีดไปเดทก็ได้ฉีดในชีวิตประจำวันก็ดี

12 ก.พ. 2024

รวม 5 น้ำหอมจากดอกพีโอนีต้อนรับวันวาเลนไทน์ ฉีดไปเดทก็ได้ฉีดในชีวิตประจำวันก็ดี

ดอกพีโอนี หรือ ดอกโบตั๋น ถูกขนานนามว่าเป็นราชาของเหล่าดอกไม้ โดยดอกโบตั๋นน้้นเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย ความซื่อสัตย์ ความมีโชคลาภ ความภาคภูมิใจและเกียรติยศ อีกทัังยังเป็นดอกไม้ที่มีความสำคัญที่สุดของประเทศจีนรูปจาก Pinterestส่วนในเชิงความรักนั้นจะสื่อความหมายถึงความรักใคร่ของหนุ่มสาว หากมอบดอกโบตั๋นให้จะสื่อความหมายว่าขอให้ผู้รับสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ความรักที่สดใสบริสุทธิ์รูปจาก huangyi0528ถ้าพูดถึงความมู ดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีสำหรับเพศหญิง หากแขวนรูปดอกโบตั๋นรูปใหญ่ไว้ในห้องนั่งเล่น จะช่วยเพิ่มสเน่ห์ให้สาวโสด รวมถึงนำโชคลาภเข้าสู่บ้านได้อีกด้วยรูปจาก DiorMiss Dior Blooming Bouquetเปิดมาตัวแรกกับบ้านคริสเตียน ดิออร์ ที่สาวๆหลายคน น่าจะมีกลิ่นนี้ติดกรุน้ำหอมที่บ้าน โดยหัวใจสำคัญของ Miss Dior Blooming Bouquet อยู่ที่กลิ่นหอมอ่อนโยนจากดอกพีโอนีและกุหลาบดามัสกัส และท๊อปโน๊ตเด่นชัดจากมะกรูดแคว้นคาลาเบรีย และปิดท้ายด้วยกลิ่นของไวท์มัสก์ สาวๆคนไหนใช้กลิ่นนี้ก็เหมือนกับใส่เดรสที่ประดับไปด้วยดอกไม้เลยรูปจาก Louis VuittonLouis Vuitton Attrape-Rêvesหากสาวๆคนไหนหากลิ่น unique ต้องตัวนี้เลย น้องเป็นกลิ่นที่ชวนหลงใหลอันเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่แสนพิเศษผสานความหรูหราจากกลิ่นของช่อดอกพีโอนี่และผงโกโก้สดใหม่ เคล้ากลิ่นอายของแพทชูลี ฮาร์ท ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกลิ่นโน้ตที่แสนสดชื่นและเปล่งประกายเจิดจ้าของลิ้นจี่ เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆรูปจาก VersaceVersace Bright Crystal EDTสำหรับสาวๆคนไหนชอบกลิ่นฟรุตตี้ฟลอรัล ต้องลอง Versace Bright Crystal ตัวนี้เลย เปิดด้วยความหอมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวของส้มยูสุ และ ทับทิม ตามมาด้วยความละมุนของ ดอกบัว ดอกแมกโนเลีย และ ดอกพีโอนี่ ปิดท้ายด้วยกลิ่นจากมัสก์ แอมเบอร์ และ ไม้มาฮอกกานี่ บอกได้เลยว่าสดชื่นสุดๆรูปจาก ChloéChloé Chloe Eau de Parfumต่อด้วย น้องโคลเอ้ใบครีมในตำนาน ซึ่งท็อปโน๊ตจะเป็นกลิ่นดอกพีโอนีกับดอกฟรีเซียเพิ่มความหอมละมุน และทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วยลิ้นจี่ ซึ่งหลายๆคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องโคลเอ้โบว์ครีมติดทนนานกว่า 6-8 ชั่วโมงเลย เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันรวมถึงไปเดทได้ด้วยนะรูปจาก Jo Malone LondonJo Malone London Peony Blush Suedeปิดท้ายด้วยน้ำหอมแบรนด์ดังจากฝั่งอักฤษกับโจมาโลน โดยหัวใจสำคัญของกลิ่นนี้คือ ดอกพีโอนี ดอกไม้ที่เปี่ยมไปด้วยค่านิยมที่งดงาม บอบบางน่าทะนุถนอม เพิ่มความแสนขี้เล่นด้วยแอปเปิ้ลสีแดง ตามมาด้วยดอกมะลิ ดอกกุหลาบ และกิลลี่ ให้ความรู้สึกสงบ เคียงคู่กับกลิ่นหอมที่ให้สัมผัสนุ่มละมุน จากหนังผืนใหม่ ทำให้เมื่อฉีดแล้วจะให้ลุคอบอุ่น หรูหราเปี่ยมเสน่ห์

3 ประโยคกับ 7 ภาษาบอกรักให้ลึกซึ้ง

12 ก.พ. 2024

3 ประโยคกับ 7 ภาษาบอกรักให้ลึกซึ้ง

เบื่อแล้วภาษาไทยอยากบอกรักภาษาอื่นบ้าง วันนี้เราเลยมาสอนบอกรัก 7 ภาษา ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการบอกรัก หรืออยากสารภาพรักกับใคร ลองเอาประโยคบอกรัก ชวนเดต หลายภาษา ที่เรานำมาฝากไปใช้กันได้เลยJapanese愛してるよ。(ฉันรักคุณ)あなたと一緒にるのが好き。(เราชอบ เวลาที่อยู่กับคุณ)いなくならないようにね。(อย่าหายไปไหนนะ)Korean사랑해요. (ฉันรักคุณ)나랑 사귈래? ( อยากคบกับฉันไหม?)하루에 만번 생각이 나요. (ในหนึ่งวัน ฉันคิดถึงคุณเป็นล้านครั้งเลยล่ะ)Chinese我愛你(ฉันรักคุณ)我们交往吧. (เป็นแฟนกันนะ)让我们就这样一直在一起。(อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนาน ๆ นะ)FrenchJe t'aime à la folie (ฉันรักคุณอย่างบ้าคลั่ง)Je t’invite à aller voir le film au cinéma. Tu es d’acco (ไปดูหนังกันไหม)Si je meurs, je ne regrette pas de t’aimer. (ถ้าฉันจะต้องตาย ฉันก็ไม่เสียใจที่ได้รักเธอ)DeutschIch liebe dich. (ฉันรักคุณ)Ich kann nicht ohne dich leben. (ฉันอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเธอ)Du bist mein Eins und Alles. (เธอคือหนึ่งเดียวและทุกอย่างของฉัน)RussianЯ тебя люблю (ฉันรักคุณ)Можно пригласить тебя на ужин? (ผมสามารถชวนคุณไปดินเนอร์ได้ไหม)Я могу проводить тебя домой? (ผมขอไปส่งคุณที่บ้านได้ไหม)EnglishI adore you. (ฉันรักคุณ)All of me loves all of you (ทุกส่วนของฉันรักทุกส่วนที่เป็นคุณ)I want to spend my life with you.(ฉันอยากใช้ชีวิตกับคุณ)

Trendy Lifestyle

แจกพิกัด ลอยกระทงออนไลน์ ฉบับคนรักโลก

12 พ.ย. 2024

แจกพิกัด ลอยกระทงออนไลน์ ฉบับคนรักโลก

นับถอยหลังเทศกาลที่ทุกคนรอคอย "ลอยกระทง" ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 Atime รวบรวม 3 เว็บไซต์ลอยกระทงออนไลน์ ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถลอยกระทงได้ ประหยัดทั้งเวลา ทั้งค่าใช้จ่าย แล้วยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วยSanookเฉลิมฉลองเทศกาลพร้อมเสริมความรู้ไปกับ Sanook เชิญทุกคนออกแบบกระทงตามสไตล์ที่ชื่นชอบ มีทั้งกระทงใบตอง กระทงดอกไม้ กระทงน้ำแข็ง และกระทงกะลา พร้อมร่วมอธิษฐานขอพร ขอขมาต่อพระแม่คงคา นอกจากนี้ยังมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวันลอยกระทงให้อ่านเพิ่มเติมกันอีกด้วยที่เว็บไซต์ https://season.sanook.com/loykrathong/share/127274/ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่าดิ โอลด์ สยาม ชวนทุกคนลอยกระทงออนไลน์ ร่วมกันลดขยะในแม่น้ำลำคลอง เพราะการลอยกระทงออนไลน์ก็ช่วยสืบสานประเพณีไทยได้โดยที่ไม่ต้องเพิ่มขยะให้กับธรรมชาติ เลือกกระทงตามความชอบของตนเองแล้วก็ตั้งคำอธิษฐานที่เว็บไซต์ https://theoldsiam.co.th/loykrathongMap Longdoมีไฮไลต์คือ นอกจากจะมีจุดลอยกระทงเป็นแม่น้ำมากมายทั่วประเทศให้เลือกแล้ว ยังมีกระทงสุดสร้างสรรค์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น กระทงทาสแมว สำหรับคนรักแมว, กระทงโสดจ๊ะ สำหรับคนที่ต้องการบอกสถานะของตนเอง เมื่อเลือกสำเร็จแล้ว กระทงของลอยอยู่ในแผนที่และยังสามารถแชร์ลงโซเชียล ชวนให้เพื่อน ๆ มาร่วมลอยกระทงด้วยกันที่เว็บไซต์ https://map.longdo.com/loykrathong/ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

วันเบาหวานโลก World Diabetes Day

08 พ.ย. 2024

วันเบาหวานโลก World Diabetes Day

ริเริ่มขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2534 โดยสหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (The International Diabetes Federation IDF) และองค์การอนามัยโลก เพื่อรณรงค์สร้างความตื่นรู้ถึงภัยโรคเบาหวาน เหตุที่เลือกวันที่ 14 พฤศจิกายน เนื่องจากเป็นวันเกิดของเฟรเดอริก แบนติง นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ผู้ร่วมกับชาร์ลส์ เบสต์ เป็นคนแรกที่เข้าใจแนวคิดซึ่งนำไปสู่การค้นพบอินซูลินใน พ.ศ. 2465 และทำให้ได้รับรางวัลโนเบล ปี 1923 (พ.ศ. 2466)โรคเบาหวาน คืออะไรโรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดขึ้นเนื่องจากความสามารถในการจัดการน้ำตาลในกระแสเลือดโดยฮอร์โมนอินซูลินลดลง ซึ่งอาจเกิดได้จากความผิดปกติของตับอ่อนที่ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เรียกว่า ภาวะขาดอินซูลิน หรือเกิดจากความสามารถในการตอบสนองของร่างกายต่อฤทธิ์ของอินซูลินลดลง เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน ส่งผลให้ร่างกายมีการเผาผลาญที่ผิดปกติทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ทำให้ร่างกายใช้น้ำตาลกลูโคสไม่ได้ตามปกติ และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงโรคเบาหวาน แบ่งออกเป็นกี่ชนิด?ในปี ค.ศ. 2019 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ปรับการจัดจำแนกชนิดของเบาหวานออกเป็น 6 ชนิด ชนิดที่ทุกคนรู้จักจะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกันคือเบาหวานชนิดที่ 1เป็นผลจากการที่เซลล์สร้างอินซูลินหรือเบต้าเซลล์ในตับอ่อนถูกทำลายโดยภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้การผลิตฮอร์โมนอินซูลินลดลง เกิดภาวะน้ำตาลสูงและมีภาวะเบาหวานเกิดขึ้น โดยมักเกิดในคนอายุน้อยหรือในเด็ก อาการมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงเบาหวานชนิดที่ 2เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ในคนไทยพบประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด เป็นผลจากการมีภาวะดื้อต่อ มักพบในคนรูปร่างท้วมหรืออ้วน ทำให้อินซูลินที่สร้างออกมาทำงานได้ไม่ดี และไม่สามารถจะดึงให้ระดับน้ำตาลกลับมาเป็นปกติได้ และนอกจากนี้อายุที่มากขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และการมีประวัติคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ หรือ พี่ น้อง เป็นเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดนี้เบาหวานชนิดผสมระหว่างชนิดที่ 1 และ 2 พบได้น้อยเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ เช่น มีโรคหรือยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดทำให้น้ำตาลขึ้นสูง หรือเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดปัญหาการสร้างอินซูลินเบาหวานที่วินิจฉัยครั้งแรกขณะตั้งครรภ์ ทั้งกลุ่มที่เป็นเบาหวานมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยจนกระทั่งตรวจคัดกรองเมื่อเริ่มต้นการตั้งครรภ์ และเบาหวานที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยตรงเบาหวานที่ไม่สามารถแยกชนิดได้เมื่อได้รับการวินิจฉัย เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถจัดเข้าอยู่กลุ่มใดได้อาจเป็นเพราะข้อมูลในการวินิจฉัยยังไม่เพียงพอ เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเช่นผลตรวจทางภูมิคุ้มกันหรือพันธุกรรม อาจเปลี่ยนการวินิจฉัยเป็นชนิดที่จำเพาะต่อไปได้อาการของเบาหวานแบ่งออกได้เป็น 2 แบบด้วยกันคือ1. อาการของเบาหวานที่เกิดจากน้ำตาลสูงในกระแสเลือดปัสสาวะบ่อย และปริมาณมากกระหายน้ำ คอแห้ง และดื่มน้ำมากหิวบ่อย รับประทานอาหารมากน้ำหนักลด ผอมลงอ่อนเพลียฃอาการที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของเบาหวานหอบ ปวดท้อง ซึม จากภาวะเลือดเป็นกรดตาพร่ามัว (จากการเสื่อมของจอประสาทตา)เป็นแผลรักษาหายยากชาตามปลายมือปลายเท้า (จากการเสื่อมของปลายประสาท)สาเหตุของโรคเบาหวานสาเหตุของเบาหวานแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันเบาหวานชนิดที่ 1 : เกิดจากการที่ร่างกายขาดอินซูลินเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่อต้านเนื้อเยื่อตับอ่อนทำให้สร้างอินซูลินได้น้อยลง กลุ่มนี้ต้องได้รับอินซูลินฉีดทดแทนเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งมักพบในคนรูปร่างท้วมหรือคนอ้วน (ดัชนีมวลกายสำหรับคนเอเชียมากกว่าหรือเท่ากับ 23 กก./ตร.ม.) ทำให้อินซูลินไม่สามารถทำงานเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่ปกติได้ เมื่ออาการเป็นมากขึ้นจะเกิดการบกพร่องในการผลิตอินซูลินร่วมด้วย ทำให้ภาวะน้ำตาลสูงและมีอาการของเบาหวานเกิดขึ้นปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด ประกอบด้วยบุคคลที่มีอายุ มากกว่า 35 ปีอ้วนและ มี พ่อ แม่ พี่ หรือน้อง เป็นเบาหวานฃเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือกำลังรับประทานยาควบคุมความดันโลหิตมีระดับไขมันในเลือดผิดปกติไขมันไตรกลีเซอไรด์มากกว่าหรือเท่ากับ 250 มก./ดล.เอช ดี แอล คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 35 มก./ดล.มีประวัติเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเคยคลอดบุตรที่น้ำหนักเกิน 4 กิโลกรัมเคยได้รับการตรวจพบมีภาวะก่อนมีโรคหัวใจและหลอดเลือดผู้หญิงที่มีกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบผู้ที่มีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน เช่นเป็นโรคอ้วนรุนแรงผู้ที่ติดเชื้อเอช ไอ วี***โดยหากพบความเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจน้ำตาลในเลือดเพื่อคัดกรองภาวะเบาหวานอย่างเหมาะสมต่อไปการวินิจฉัยและการรักษาโรคการวินิจฉัยเบาหวานในปัจจุบันทำได้หลายวิธีด้วยกัน โดยหลักจะต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจเจาะเลือดดูระดับน้ำตาลหรือน้ำตาลสะสม แนะนำให้ทำในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงดังได้กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจทำได้โดยการเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำหรือเจาะเลือดจากปลายนิ้ว หากระดับน้ำตาลในเลือดภายหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง มากกว่าหรือเท่ากับ 126 มก./ดล. หรือระดับน้ำตาลในเลือดที่ตรวจขณะไม่งดอาหาร มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มก./ดล. ถือว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเบาหวาน หากมีอาการของเบาหวานมีความชัดเจนว่าน่าจะเป็นเบาหวานจริง แต่หากยังไม่มีอาการของโรคเบาหวาน ควรตรวจยืนยันอีกครั้งในวันหรือสัปดาห์ถัดไป หากมีค่าสูงแพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานได้ และการตรวจระดับน้ำตาลสะสมปัจจุบันสามารถใช้วินิจฉัยเบาหวานได้ ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร แต่ต้องตรวจด้วยวิธีการที่ได้มาตรฐาน หากตรวจพบระดับน้ำตาลสะสมมากกว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นเบาหวานเราจะปรับเปลี่ยนชีวิตอย่างไรไม่ให้เป็นโรคเบาหวาน?หลักสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันเบาหวาน ใช้ได้สำหรับเบาหวานชนิดที่ 2 ประกอบไปด้วยการปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้เป็นไปตามหลักโภชนาการ การเพิ่มกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม ร่วมกับการส่งเสริมพฤติกรรมอื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่นนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดสภาวะเนือยนิ่ง งดสูบบุหรี่และดื่มสุราการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันเบาหวาน1. ควบคุมอาหาร ควรรับประทานอาหารแต่พอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อไม่ให้มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ชนิดของอาหารที่ให้พลังงานทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันควรเลือกกินให้หลากหลายและมีการกระจายอย่างเหมาะสม เลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เลือกโปรตีนคุณภาพไม่ติดมัน และเลือกไขมันชนิดไม่อิ่มตัวและหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ ร่วมกับการรับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอ2. ออกกำลังกาย ควรทำอย่างสม่ำเสมอโดยเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับช่วงอายุ เช่นในเด็กและวัยรุ่นควรเน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ผู้ใหญ่อาจเน้นทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และการออกกำลังกายแบบแรงต้าน ส่วนในผู้สูงอายุเน้นการฝึกความยืดหยุ่นและการทรงตัว ให้ได้ความถี่ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์3. ลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง หมายถึงช่วงเวลาที่ร่างกายไม่มีการเคลื่อนที่ เช่น นอนเล่น นั่งทำงานอยู่กับที่ นั่งเรียน/อ่าน/เขียนหนังสือ ดูโทรทัศน์หรือหน้าจอ เป็นต้น โดยควรปรับให้มีกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยเป็นเวลาสั้น ๆ ทุก ๆ 30-60 นาที และกำหนดให้เวลาในการดูโทรทัศน์หรืออยู่หน้าจอ น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน4. งดสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึงร้อยละ 30-40 เนื่องจากสารนิโคตินในระดับสูงจะส่งผลให้การทำงานของอินซูลินมีประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และ โรคไต เป็นต้น5. งดหรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ถ้าเป็นไปได้6. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยต้องคำนึงถึงทั้งปริมาณ คือระยะเวลาการนอนที่เพียงพอ และคุณภาพการนอนที่ดี คือนอนหลับสนิท โดยสมาพันธ์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2565 กำหนดให้ปริมาณการนอนที่เหมาะสมคือ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน

11.11 วันคนโสด

08 พ.ย. 2024

11.11 วันคนโสด

วันที่ 11 เดือน 11 หรือ วันคนโสด (Singles’ Day) เดิมเรียกว่าวันโสดถือว่าเป็น 'เทศกาลมุมกลับ' ของวันวาเลนไทน์ เริ่มต้นโดยกลุ่มนักศึกษาจีนเมื่อราวๆ ปี 1990 ซึ่งเป็นการจัดงานภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่เพราะสื่อออนไลน์ จึงทำให้เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และได้รับความนิยมมากขึ้นทุกปี จนถึงตอนนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรมร่วมในระดับภูมิภาคไปแล้วหลังจากนั้นวันคนโสดได้ถูกแปลงให้เป็นวันแห่งการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะ Online Sales ที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยทางห้างร้านและเว็บไซต์ขายสินค้าแข่งกันออกโปรโมชันจำหน่ายสินค้าลดราคาสุดพิเศษขณะที่ประเทศไทยก็รับเอาวัฒนธรรม 11.11 Online Sales มาเช่นกัน มีการกระหน่ำจัดโปรโมชันการซื้อสินค้าทางออนไลน์ชนิดที่ว่ามอนิเตอร์กันแทบไม่ทัน ปัจจุบันไม่เพียงแค่โลกออนไลน์เท่านั้น เพราะแบรนด์สินค้าและห้างร้านดังก็จัดเทศกาลเซลสินค้ากันกระหน่ำในวันคนโสดจีนเช่นกัน

4 ตุลาคม วันสัตว์โลก กับสัตว์ 8 ชนิดที่ใกล้จะสูญพันธุ์

03 ต.ค. 2024

4 ตุลาคม วันสัตว์โลก กับสัตว์ 8 ชนิดที่ใกล้จะสูญพันธุ์

วันสัตว์โลก (World Animal Day) ถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อสวัสดิภาพของสัตว์ เป็นการช่วยทำให้สัตว์ประเภทต่างๆ สามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ และเป็นการคุ้มครองสัตว์ไม่ให้ถูกทำร้าย ไม่ว่าจะในผืนป่า ในสวนสัตว์ ในเมือง หรือกระทั่งในบ้านเรือนในปี ค.ศ. 1931 สภาคองเกรส แห่งสภาคุ้มครองสัตว์นานาชาติ ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ได้ทำการยอมรับข้อเสนอ ที่จะกำหนดให้วันที่ 4 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันสัตว์โลกสากล เพราะประเทศอิตาลี ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาและสิทธิของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายและนี่คือ 8 สัตว์โลกที่ใกล้สูญพันธ์ุมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องเพื่อนร่วมโลกเหล่านี้ผ่านการแชร์ภาพสัตว์ป่าเพื่อเฉลิมฉลองวันสัตว์โลกไปด้วยกันนะคะผู้เขียน เบญญาภา แนบเนียน

[รีวิวหนัง] "วิมานหนาม" ตอกย้ำความเจ็บปวด ที่สมรสเท่าเทียมก็ไม่สามารถชดใช้ได้

21 ส.ค. 2024

[รีวิวหนัง] "วิมานหนาม" ตอกย้ำความเจ็บปวด ที่สมรสเท่าเทียมก็ไม่สามารถชดใช้ได้

วันนี้แอดขอนำเสนอหนังเรื่อง "วิมานหนาม" ของค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง GDH จากผลงานการสร้างหนังเรื่องแรกของผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงฝีมือจัดจ้าน "บอส-นฤเบศ กูโน" ที่ได้หยิบยกเรื่อง LGBTQ+ มาเป็นแรงบันดานใจในการทำหนังเรื่องนี้ โดยเริ่มต้นเรื่องจากหนุ่มชาวสวนทุเรียนเรื่องย่อ วิมานหนามเริ่มต้นจาก ‘ทองคำ’ หรือเจฟ ซาเตอร์ ที่ได้นำเงินก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรก มาลงทุนปลูกบ้านทำสวนทุเรียน และไถ่ถอนที่ดินให้กับ ‘เสก’ หรือเต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ คนรัก ซึ่งเสกได้ติดจำนองอยู่ตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่เมื่อใกล้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวทุเรียน เสกกลับประสบอุบัติเหตุตกจากต้นทุเรียนจนเสียชีวิต และกรรมสิทธิ์บ้านและสวนจึงตกเป็นของ ‘แม่แสง’ หรือสีดา พัวพิมล) แม่ของเสกตามกฎหมาย และต่อมาไม่นาน แม่แสงก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่สวนทุเรียนพร้อมกับ ‘โหม๋’ หรืออิงฟ้า วราหะ ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง และ น้องชายของโหม๋ ‘จิ่งนะ’ หรือเก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย มาอยู่ด้วยกัน ทองคำจึงหาทางทำทุกอย่างเพื่อที่จะทวงวิมานที่เขาสร้างมาด้วยกันกับเสกคู่รักของเขาคืนมา และในขณะเดียวกันโหม๋ก็ทำทุกทางที่จะปกป้องสิทธิ์ที่ถูกต้อง “ตามกฏหมาย” ของแม่เสก และโดยหวังว่าจะได้ร่วมครอบครองบ้านและที่ดินสวนทุเรียนนี้เช่นกันและเนื้อเรื่องทำให้แอดรู้สึกว่า ทุกอย่างที่หนังได้สื่อออกมานั้น ตอกย้ำความเจ็บปวดของเพศที่ 3 หรือ LGBTQ+ เป็นความเลื่อมล้ำทางสังคม เพราะที่ ‘ทองคำ’ หรือเจฟ ซาเตอร์ ไม่ได้สิทธิ์ในสมบัติ การรักษาพยาบาลของคนรัก เพียงเพราะความรัก ความทรงจำ และหลักฐานใดๆ ที่เขามีนั้น ไม่หนักแน่นพอเมื่อเทียบกับความรักที่ยืนยันด้วยแผ่นกระดาษ อย่างทะเบียนสมรสวิมานหนาม ทำให้แอดเห็นภาพความเจ็บปวดจาก ความไม่เท่าเทียมทางกฏหมายเหล่านี้ ที่กลายเป็นทรัพย์สินซึ่งถูกส่งต่อเป็นทอดๆ แทนมรดก เช่นการที่แม่แสงเผชิญความอยุติธรรมจึงพยายามครอบครองสิ่งที่เธอสมควรได้รับด้วยกฏหมาย แม้ว่ามันจะอยู่บนหยาดเหงื่อแรงกายของคนอื่น และส่งต่อความอยุติธรรมนั้นให้กับโหม๋ที่ถูกใช้งานดูแลยิ่งกว่าลูก แม้จะไม่ได้รับสิทธิ์ที่ลูกคนหนึ่งสมควรได้รับด้วยกฏหมาย หรือทองคำที่ถูกยึดเอาสินทรัพย์ที่หามาไปต่อหน้าต่อตา เพียงเพราะความรักของเขานั้นไม่สามารถเซ็นกระดาษสมรสได้เพียงแผ่นเดียวเรื่องราวอันแสนวุ่นวายนี้ ที่เกินขึ้นในสวยทุเรียน จะจบลงอย่างไร และใครนั้นที่จะได้ครอบครองวิมานนี้ไป สามารถไปดูกันได้ที่โรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567ใครที่อยากดูหนังฟรี ดูหนังรอบพิเศษก่อนใคร แอดแนะนำให้รีบโหลดแอปพลิเคชัน Atime FungFin และเก็บสะสมคะแนนกันเลย ส่วนรอบหน้า Atime จะมีหนังดีๆ เรื่องไรมาให้ชาว FungFin รอลุ้นกันเลย

สิงหานี้ พาแม่เที่ยว Dream World ลดทันที 50%

09 ส.ค. 2024

สิงหานี้ พาแม่เที่ยว Dream World ลดทันที 50%

วันแม่ปีนี้ มีสถานที่พาคุณแม่ไปเที่ยวกันรึยัง? ถ้ายังตอนนี้ Dream World เขาจัดโปรวันแม่ คุณแม่ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ซื้อบัตรผ่านประตู ลดทันที50% จ่ายเพียง 125.- (ปกติ 250.-) เพียงแสดงบัตรประชาชน ตัวจริง ที่จุดจำหน่ายบัตรหน้าสวนสนุกพร้อมสนุกกับเครื่องเล่น ได้ 1รายการ โดยเลือกจากรถไฟดรีมเวิลด์โมโนเรลวิหคสายฟ้าเข้าชมฟรี!!.. โซนโฟโตเปีย ชมฟรี!!..โซน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโปรปังสิงหา..แม่พาเที่ยว 1-12 สค. นี้ ซื้อบัตรรวมเครื่องเล่น แถมฟรี!! บัตรเมืองหิมะ ไปเลยเพียง 599.- / คน เท่านั้น (ปกติ 790.-)พิเศษ ไปอี้ก สำหรับคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งหญิงและชายมาพักผ่อนชมความบันเทิง รับสิทธิ์ซื้อบัตรผ่านประตูสวนสนุก ในราคาลด 50 % จากปกติ 300.- เพียงแสดงบัตรประชาชนตัวจริง 1 -12 สิงหาคม นี้ มาสุข สนุก ทั้งครอบครัวที่ดรีมเวิลด์กันโปรฯ บัตรรวมเครื่องเล่น รับฟรี..บัตรเมืองหิมะ 599.- /คน (ปกติ 790.-) ซื้อได้ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ใช้ผ่านประตู+เล่นเครื่องเล่นอย่างละ 1 รอบ 20 กว่าอย่าง เล่นเมืองหิมะ 1 รอบ รวมชุดกันหนาวและอุปกรณ์สไลด์แล้วยกเว้นโกคาร์ท, จักรยานน้ำ และเรือบั๊มไม่รวมในบัตร สามารถซื้อเพิ่มหน้าเครื่องเล่นโปรฯ วัยเก๋าอายุ 50 ปีขึ้นไปลดบัตรผ่านประตู50% เหลือ 150.-/คน (ปกติ 300.-) เพียงแสดงบัตรประชาชนตัวจริง (ปีเกิดไม่เกิน พ.ศ. 2517)ใช้ผ่านประตู+ชมการแสดงและความบันเทิงต่างๆ+ ชมโซนโฟโตเปีย และสนุกกับเครื่องเล่นได้ 1 อย่าง คือ รถไฟดรีมเวิลด์สิงหา..มาเที่ยวกันเถอะ คุ้มจริงๆ นะคุณมัมทั้งหลาย

Events

Jobsdb by SEEK presents ใต้โต๊ะทำงาน ปัจฉิมนิเท่ ‘ถามคนที่ชอบ เรื่องงานที่ใช่’

01 ต.ค. 2024

Jobsdb by SEEK presents ใต้โต๊ะทำงาน ปัจฉิมนิเท่ ‘ถามคนที่ชอบ เรื่องงานที่ใช่’

กังวลชีวิตหลังเรียนจบใช่มั้ยไม่มีประสบการณ์ / ไม่เคยสัมภาษณ์งาน / เรียกเงินเดือนไม่เป็น / รู้สึกตัวเองไม่เก่ง / รอบข้างกดดัน / ทำพอร์ทไม่เป็น / งานที่ชอบไม่ตรงสาย / ไม่มีเป้าหมาย / เบื่อชีวิตกรุงเทพ / ไม่อยากทำงานกับคนรุ่นเก่า / อยากรวยเร็ว / Introvert ไม่ชอบงานเจอคน / อยากตามความฝัน/ กลัวไม่มีเงินเก็บ / เกลียดสังคมออฟฟิศ / อยากเป็นนายตัวเอง / อยาก WFH / ยังหาตัวเองไม่เจอ ฯลฯJobsdb by SEEK presents ใต้โต๊ะทำงาน ปัจฉิมนิเท่ ‘ถามคนที่ชอบ เรื่องงานที่ใช่’ ทอล์คโชว์เปลี่ยนนักศึกษาจบใหม่ ให้โตไปทำงานอย่างเท่เมื่อ 3 พิธีกร เผือก อาร์ต โบ ชวนเพื่อนๆพี่ๆผู้บริหารรุ่นใหม่ หมุนเวียนมาให้น้องๆถามตอบกันต่อหน้า กับ เฮียวิทย์ สิทธิเวคิน / พี่เหว่ง-พี่เติ๊ด เทพลีลา / พี่โค้ดดี้ Goodday / พี่โอ๊ต ปราโมทย์ และ พี่เคน นครินทร์ ใน 5 ครั้ง 5 มหาวิทยาลัย22 ต.ค. 67 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต4 พ.ย. 67 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต20 พ.ย. 67 มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน2 ธ.ค. 67 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน11 ธ.ค. 67 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังนักศึกษาแต่ละสถาบัน ทุกคณะทุกชั้นปี เข้าชมฟรี แถมมีของที่ระลึกเพียบ ติดตามรายละเอียดงานแต่ละครั้งได้ที่เฟซบุ๊ก จักรวาลใต้โต๊ะสนับสนุนโดยJobsdb by SEEK หางานดี ที่พอดีกับตัวคุณนมถั่วเหลือง ดีน่าใหม่ ยำยำ คัพ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูทรงเครื่อง ไปจัดกันเลยCUPGenerali อาชีพตัวแทนประกัน เพื่อคนรุ่นใหม่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ทรอส โปร โรลออนยาอมกล่องส้ม เซนฮามี่ บรรเทาอาการไอ ชุ่มคอให้ผมเท่! Gatsby Meta Rubber

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล กับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

08 ธ.ค. 2023

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล กับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18

ว้าวุ่นมาทั้งปี มารับวิตามิน SEA กันป่ะล่ะ !!ปลายปีนี้... EFM94 และ Chill Online จะพาคุณไปมันส์อีกครั้งกับมหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเลกับ EFM x CHILL ON THE BEACH ครั้งที่ 18 BY โซดา LEOมันส์ไปกับ 6 ศิลปิน ...NONT TANONT / PARADOX / MEAN / ROOFTOP / SLAPKISS / THE MOUSSESเตรียมแดนซ์ให้ยับกับ DJ PU บนเวที EDM สไตล์ EFM และ เหล่าดีเจจาก EFM94 และ CHILL ONLINEเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 นี้ที่ หาดแหลมเจริญ จังหวัด ระยองห้ามนำเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าภายในงาน ภายในงานมีเครื่องดื่มจำหน่ายเตรียมตัวกันให้พร้อม!! 16 ตุลาคมนี้เปิดให้กด REDEEM บัตรกันแล้วขั้นตอนการ Redeem Ticket!! บอกเลยว่า #งานนี้ฟรี!!- เพียงแค่ล็อกอิน เปิดแอป Application AtimeFungFin- เริ่มสะสมพ้อยได้แล้ววันนี้ ผ่านการฟัง Application ATIMEFUNGFIN !!1 นาที = 1 Point สะสมครบ 2,000 Point แลก Wristband ได้ 2 ใบ สามารถเข้างานได้ 2 คน(1 Account/1 สิทธิ์)ดาวน์โหลด Application : ATIME FUNGFIN รอไว้ได้เลย ทั้งระบบ IOS และ Androidพิเศษเฉพาะใน Application ATIMEFUNGFIN เท่านั้น!! รีบชวนเพื่อนด่วน #บัตรมีจำนวนจำกัด

แผนผังงาน EFMxChillOnTheBeach17 สิบเจ็ดว่าดัด สุดจัดว่าเด็ด!!

16 พ.ย. 2022

แผนผังงาน EFMxChillOnTheBeach17 สิบเจ็ดว่าดัด สุดจัดว่าเด็ด!!

ปักหมุดเปิด Map ที่ "Ambassador City Jomtien Pattaya" หรือ Link :https://goo.gl/maps/4v5hirKdJxFSoQHZ71. จุดคัดกรอง (อยู่ระหว่าง ZONE B และ ZONE C)เริ่มตรวจตั้งแต่ 10:00 น.เป็นต้นไป โดยสิ่งที่จะต้องเตรียมมีดังนี้-บัตรประชาชนตัวจริง-ผลตรวจ atk (ไม่เกิน 48 ชม.) และผลวัคซีนจากแอปหมอพร้อม (ถ่ายรูปชุดตรวจที่ระบุวันที่ และเวลาตรวจที่เห็นชัดเจน พร้อมแนบบัตรประชาชน)-บัตรเข้างาน เพียงโชว์สิทธิ์จากหน้า Application Atime FungFin หรือหน้าคิวอาร์โค้ดเพื่อรับ Wristband เข้างาน (หมายเหตุ หากได้คิวอาร์โค้ดจากการ REDEEM 1 สิทธิ์เข้าได้ 2 คน แต่ถ้าหากได้บัตรจากการเล่นเกม 1 บัตรเข้าได้ 1 คน)เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณหน้างาน ผู้ชมสามารถเข้ามาตรวจเพื่อรับ wristband ได้ตั้งแต่ 10:00 น.เป็นต้นไปปิดรับการลงทะเบียนหน้างานเวลา 19:00 น.หากผู้ร่วมงานไม่มีผลตรวจ ผู้จัดมีเตรียมจุดตรวจ ATK ไว้ให้ที่หน้างาน โดยมีค่าใช้จ่ายและบริการ คนละ 100 บาท เมื่อผลเป็นลบ จึงจะสามารถเข้าร่วมงานได้2. ZONE A คอนเสิร์ต ประตูเปิดตั้งแต่ 15:00 น.โชว์แรกเริ่มแสดง 17:00 น.3. ZONE B อาหารและเครื่องดื่มในงานมีอาหารของทางโรงแรม และ เครื่องดื่มจำหน่าย***ห้ามนำเครื่องดื่มเข้ามาในงาน แต่อาหารสามารถนำเข้ามาได้***4. ZONE C กิจกรรมเป็นโซนที่ทุกท่านสามารถมาร่วมสนุกกับบูทต่างๆ ของงาน EFMxChillOnTheBeach17รายละเอียดเพิ่มเติมที่ facebook.com/chillonlineหรือ Link : atime.live/chillonline/events

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล ที่ใหญ่ที่สุด EFMxChill On The Beach #17 สิบเจ็ดว่าดัด สุดจัดว่าเด็ด!!

15 พ.ย. 2022

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล ที่ใหญ่ที่สุด EFMxChill On The Beach #17 สิบเจ็ดว่าดัด สุดจัดว่าเด็ด!!

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ริมทะเล ที่ใหญ่ที่สุดสนุกที่สุด มันส์ที่สุดEFMxChill On The Beach #17สิบเจ็ดว่าดัด สุดจัดว่าเด็ด!!กับศิลปินสุดเด็ด 8 เบอร์The Parkinson / Zom Marie / JSPKK / MEAN / NONT TANONT / LiptaNESYUD และ NICECNX ศิลปินจาก B Entertainment BEAT19 พฤศจิกายนนี้ ที่ Ambassador City Jomtien Pattayaเริ่มสะสมพ้อยได้แล้ววันนี้ ผ่านการฟัง Application ATIMEFUNGFIN !!1 นาที = 1 Point สะสมครบ 1,500 Point แลกบัตรได้ 1 ใบ (1 Account/1 สิทธิ์)กดรับบัตรพร้อมกัน วันจันทร์ ที่ 10 ตุลาคมนี้ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.atime.live/efm/eventsขั้นตอนการใช้พ้อยท์แลกบัตรขั้นตอนการลงทะเบียนก่อนเข้างานคลิกเข้าเว็ปไซต์เลย เพื่อยืนยันข้อมูลและรับ QR CODE สำหรับเข้างานhttps://campaign.atime.live/onthebeach/confirmationประกาศเปิดจุดตรวจบัตรประชาชนและเอกสารต่างๆ เพื่อรับ Wristband ตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไปประตูงานจะเปิดให้เข้า ตั้งแต่เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป*** เริ่มโชว์ 17:00 น.***ส่วนเวลา 1 ทุ่มตรง จะปิดรับการแลก Wristband สำหรับเข้างาน!PLEASE DO DON’T ในงาน EFM x Chill On The Beach 17สิ่งที่ไม่อนุญาตให้นำเข้างาน (ห้ามนำเข้ามาในงาน)ห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ทุกชนิดเข้าภายในงานห้ามนำอาวุธ ของมีคม วัตถุอันตราย และสารเสพติดทุกชนิดเข้าภายในงานห้ามนำเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาภายในงานห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในงานห้ามนำป้ายไฟขนาดใหญ่กว่า A4 เข้าภายในงานห้ามนำโดรนเข้ามาบินภายในบริเวณงานห้ามนำเก้าอี้สนาม และ ถังน้ำแข็งเข้าภายในงานสิ่งที่อนุญาตให้นำเข้างาน1. เสื่อ ขนาดไม่เกิน 1x1 เมตร2. กล้องถ่ายรูป

Entertainment Space

“Uncle Ben” ปล่อยซิงเกิลใหม่ส่งท้ายปี 2024 “สิ่งเดียวที่เราต่าง (The Only Thing)” เหมือนกันทุกอย่าง ต่างที่ความรู้สึก

21 พ.ย. 2024

“Uncle Ben” ปล่อยซิงเกิลใหม่ส่งท้ายปี 2024 “สิ่งเดียวที่เราต่าง (The Only Thing)” เหมือนกันทุกอย่าง ต่างที่ความรู้สึก

“Uncle Ben” วงดนตรีอินดี้ป็อป ภายใต้สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ประกอบด้วย “นับ- เบน รักษนาเวศ” (ร้องนำ), “นอร์ธ-กฤษณพล โพธิ์ศรี” (เบส), “อดิ๊บ-ธัชพล ปานนพภา” (กีตาร์) และ “บาส-พิทิต แสนอินทร์” (กลอง) เจ้าของเพลงฮิต อย่าง “อย่าเป็นฉันเลย”, “อยู่เป็นของขวัญให้ฉันก่อน” และ “โตไปด้วยกัน” รวมถึงอีพีอัลบั้ม “Uncle’s Closet (ตู้เสื้อผ้าคุณลุง)” ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้ปล่อยซิงเกิล “คนโปรด(Cha la la la)” เพลงรักเนื้อหาสุดโรแมนติกผสมกลิ่นอายเพลงยุค 70s สลัดภาพจำวงแห่งเพลงเศร้า จนทำให้ “Uncle Ben” กลายมาเป็นคุณลุงคนโปรดของใครหลาย ๆ คนก่อนจบปีนี้ “Uncle Ben” ได้กลับมาทวงคืนตำแหน่งวงแห่งเพลงเศร้าอีกครั้ง ผ่านซิงเกิลใหม่ “สิ่งเดียวที่เราต่าง (The Only Thing)” เล่าเรื่องราวความรักข้างเดียว ผ่านความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดจนคิดเกินคำว่าเพื่อน ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกเหมือนกัน แต่ลึก ๆ ก็ยังแอบหวังให้เขาตอบตกลงโดยเพลงนี้ “Uncle Ben” ยังคงคอนเซ็ปต์เพลงฟังสบายสอดแทรกกลิ่นอายยุค 70s ที่เปิดมาด้วยเสียงเปียโน ชวนให้แฟนเพลงอบอุ่นหัวใจตามเดิม ก่อนจะเติมสีสันให้เพลงด้วยเครื่องดนตรีอื่น ๆ ทำให้เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่ครบทุกอารมณ์ จบในเพลงเดียวสามารถฟังเพลง “สิ่งเดียวที่เราต่าง (The Only Thing)” ได้แล้ววันนี้ทุกสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม; https://bfan.link/Uncle-Ben-The-Only-Thing และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ “Uncle Ben” ผ่านทาง http://www.facebook.com/whattheduckmusic และ https://www.instagram.com/uncleben.mp3/

ปล่อยแล้ว “Cherry” อัลบั้มเต็มชุด 2 จาก “BOWKYLION” ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุด มาพร้อม “วิงวอน (ex-change)” เพลงที่เจ็บที่สุดในชีวิต

20 พ.ย. 2024

ปล่อยแล้ว “Cherry” อัลบั้มเต็มชุด 2 จาก “BOWKYLION” ที่เลือกสิ่งที่ดีที่สุด มาพร้อม “วิงวอน (ex-change)” เพลงที่เจ็บที่สุดในชีวิต

“BOWKYLION” ศิลปินหญิงมาแรงแห่งยุค จากสังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) เจ้าของอัลบั้ม “Lionheart” ซึ่งเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของ “BOWKYLION” ที่ยังตราตรึงอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็น คิดถึงแต่, ยิ้มมา, เจ้าป่า, ค. ควาย และในปี 2024 เธอกลับมาพร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่สอง “Cherry” ที่จะพาทุกคนไปพบกับแนวเพลงใหม่ และรสชาติดนตรีที่น่าติดตาม กว่า 12 เพลง ถ่ายทอดโมเมนต์พิเศษที่ “BOWKYLION” ตั้งใจบ่มเพราะก่อนส่งตรงที่หูคนฟัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เลือกสิ่งที่ดีที่สุด’ซึ่งในอัลบั้ม “Cherry” ประกอบไปด้วย 5 เพลงที่เคยปล่อยให้ทุกคนได้ฟัง อย่าง “เลี้ยงไข้(fever)” , เจ้านายคะ(work-life imbalance), “ยิ้มลา(jasmine)”, “ส่วนต่าง(do it without me)” รวมถึง “ส่วนต่าง (Piano Version) และไฮไลท์ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อีก 7 เพลง อย่าง “cherry” ซิงเกิลเพลงสากลครั้งแรกในชีวิตของเธอ ที่เข้าใจความรู้สึกของคนขี้กังวล ซึ่งเธอได้ใช้คำว่า “Cherry” แทนความรู้สึก Worry รวมถึงเพลงนี้ยังเป็นการก้าวข้ามกำแพงภาษา ที่เธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เธอก็สามารถทำมันได้เช่นกัน “ศุกร์ เศร้า อาทิตย์ (sadturday)” ซิงเกิลที่มาพร้อมกับจังหวะ Bossanova ที่หลอกคนฟังด้วยดนตรีมู้ดสดใส แต่กลับเชือดด้วยเนื้อเพลง “ส ม เ พ ช (sympathy)” ถึงแม้มาเพียงสั้นๆ แต่ก็โดนใจคนฟังตั้งแต่คำแรก เป็นเพลงที่เรียกได้ว่าเจ็บแสบอีกหนึ่งเพลงที่อยากให้ได้ฟัง “เวทนา(wethana)” ซิงเกิลที่เรียกได้ว่าตรงไปตรงมา ที่เดินหน้ายอมรับความจริงกับความสัมพันธ์ที่จบลง “น้อยแต่น้อย (less is less) กับ Interlude ที่เราจะได้ฟังเสียง “BOWKYLION” เต็มๆ โดยที่ไม่มีดนตรีสักชิ้นอยู่ในเพลงนี้เลย แต่จะถูกร้อยเรียงด้วยไลน์ประสาน “เชื่อแล้ว (merry-me)” อีกหนึ่งซิงเกิลที่ดนตรีพาเข้าสู่เทศกาลอบอุ่น เต็มไปด้วยความหวัง การรอยคอยและอีกหนึ่งซิงเกิลที่อยากให้ทุกคนเปิดฟัง “วิงวอน (ex-change)” ที่พูดได้เลยว่าเป็นเพลงที่เศร้าที่สุด แต่งนานที่สุด ของ BOWKYLION” กับถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่ไม่ใช่ผ่านเพลงตรงใจในทุกประโยค เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพที่สุดแห่งปีที่เธอตั้งใจทำออกมาจริง ๆสามารถดู MV และฟังเพลง “วิงวอน (ex-change)” ได้ทาง :รวมถึงทุกเพลงในอัลบั้ม Cherry ทาง : https://bfan.link/BOWKYLION-CHERRY สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของ “BOWKYLION” ได้ทาง https://www.facebook.com/bowkylion และ https://www.facebook.com/whattheduckmusic

“Dandilion (ขอให้เธอไม่หายไป)” ซิงเกิลล่าสุดจาก “mute.” คำปรารถนาถึงความรักนิรันดร์

14 พ.ย. 2024

“Dandilion (ขอให้เธอไม่หายไป)” ซิงเกิลล่าสุดจาก “mute.” คำปรารถนาถึงความรักนิรันดร์

“mute.” หรือ “มิ้ว - รวินิษฐ์ เจตน์อริยวิภา” ศิลปินหญิงรุ่นใหม่มากความสามารถ ภายใต้สังกัด MILK! BKK Music Label เจ้าของเสียงสุดน่ารักที่ส่งผ่านเพลงแนวอินดี้ป็อป อาทิ “ไฟริมทาง”, “Melatonin” รวมถึงล่าสุด “Locket” เพลงสุดไวรัลบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok ที่มีผู้ใช้แผ่นเสียงกว่า 7 ล้านวิว และยังติด Viral 50 Thailand สูงสุดอันดับที่ 14 ใน Spotify อีกด้วย“Dandilion (ขอให้เธอไม่หายไป)” ซิงเกิลใหม่ส่งท้ายปี กับการภาวนาขอให้มีเธออยู่ข้างกันตลอดไป ไม่ว่าจะเจอเรื่องราวอะไรขอแค่ยังมีกันก็พอ ซึ่ง “mute.” ได้หยิบเอาชื่อดอกไม้ความหมายดีอย่าง ‘ดอกแดนดิไลออน’ มาเป็นชื่อเพลง โดยดอก ‘ดอกแดนดิไลออน’ นอกจากจะดอกไม้ที่น่ารักแล้ว ยังหมายถึง ‘ความสุขและความหวัง’ ที่เชื่อกันว่า เมื่ออธิษฐานด้วยการเป่าดอกสีขาวปุยให้หลุดลอยออกจากก้านภายในครั้งเดียวคำอธิฐานจะเป็นจริง เช่นเดียวกับเพลงนี้ที่เต็มไปด้วยความสุขและความหวัง ในส่วนของพาร์ทของดนตรี ยังคงเป็นอินดี้ป็อปที่ซ่อนแนวดนตรีจังหวะ Bossa ไว้ในเพลงนี้ที่ผสมผสานกับเสียงหวานเป็นเอกลักษณ์ของ “mute.” ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่จะพาคำอธิฐานของทุกคนฝ่าลมหนาวส่งท้ายปีไปด้วยกันร่วมส่งอธิฐานถึงความรักในครั้งนี้ ไปกับเพลง “Dandilion(ขอให้เธอไม่หายไป)” ได้แล้ว และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ “mute.” ผ่านทาง https://www.facebook.com/MILK.artistserviceplatform และ https://www.facebook.com/shh.mute

"MXFRUIT" บอกเล่ามุมมองความรักอันหวานขมส่งท้ายปีกับซิงเกิล "รักเธอใหม่ได้หรือเปล่า (one more chance)"

14 พ.ย. 2024

"MXFRUIT" บอกเล่ามุมมองความรักอันหวานขมส่งท้ายปีกับซิงเกิล "รักเธอใหม่ได้หรือเปล่า (one more chance)"

เมื่อความรักในอดีต กลับกลายเป็นความหวานขมในวันนี้ MXFRUIT จึงอยากพาทุกคนไปสัมผัสกับเพลงเศร้าอ้อนวอนขอโอกาส ‘รัก’ เธอใหม่อีกครั้งหนึ่ง…ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจากห้าสาว ‘MXFRUIT’ ที่พร้อมบอกเล่ามุมมองความรักอันหวานขมส่งท้ายปีด้วยเพลงเศร้าที่เป็นดั่งตัวแทนของคนที่เคยทำผิดพลาดในอดีต และอยากจะขอโอกาสอีกครั้งหนึ่ง กับซิงเกิล ‘รักเธอใหม่ได้หรือเปล่า (one more chance)’รักเธอใหม่ได้หรือเปล่า (one more chance) เป็นสไตล์แนวเพลง RnB, Pop ที่มีกลิ่นอายยุค 90’s ถึง 2000’s ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เชื่อได้ว่าเมื่อทำนองท่อนแรกขึ้นมานั้น จะสามารถสะกดผู้ฟัง และแฟน ๆ ให้หวนรำลึกถึงอดีตที่หอมหวาน แต่กลับกลายเป็นความขมในปัจจุบันได้ทันที โดยได้โปรดิวเซอร์มือทอง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็วของศิลปินไทยมากมาย อย่าง ‘แทน - Lipta’ (ธารณ ลิปตพัลลภ) กับนักแต่งเนื้อเพลงฝีมือเยี่ยมอย่าง ‘ข้าว - fellow fellow’ (ปณิธิ เลิศอุดมธนา) มายืนยันความจี๊ดทุกอณูเมื่อได้ฟังโดยทาง ‘แทน’ โปรดิวเซอร์ เล่าว่าได้รับแรงบันดาลใจในการทำผลงานเพลงครั้งนี้จาก บทคำพูดในฉาก ๆ หนึ่งของภาพยนต์ ที่ตัวเอกมีการสารภาพผิดขอโทษกับการกระทำของตนเอง ที่พาเธอไปด้วยกันไม่ได้ จึงได้นำแรงบันดาลใจจากคำพูดดังกล่าว มาตีความและสร้างสรรค์ผลงานที่บอกเล่าถึงการกระทำของตนเองในอดีต ที่เมื่อเรามองย้อนกลับไปแล้ว รู้สึกผิดในสิ่งที่ตนเองทำไปในคราวนั้น อยากจะขอโทษ และอยากที่จะขอโอกาสอีกครั้งรวมถึงได้ ‘ครูเค - THE​ KHOREO’ นักออกแบบท่าเต้นที่มีความโดดเด่นเรื่องการทำท่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับศิลปิน Tpop มาหลากหลายเพลง และ ‘ครูโบ - ACHIZ.B’ มาช่วยออกแบบท่าเต้นให้กับเพลงนี้ โดยที่ท่าเต้นได้มีการนำเสนอการออกแบบที่มีสไตล์เฉพาะตัวของ Tpop ที่มีการสื่อสารอารมณ์ไปพร้อมกับเพลงโดยใน Music Video ตัวนี้ นอกจาก MXFRUIT แล้วนั้น ยังมีนักแสดงนำอย่าง ‘ตู ต้นตะวัน’ และ ‘เก่ง หฤษฎ์ ’ ที่ฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง หลานม่า และ วิมานหนาม มารับบทนำในการถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดในเอ็มวีอีกด้วย ดังนั้นเตรียมเจอกับความเศร้าในรูปแบบใหม่ของ MXFRUIT ที่จะพาแฟน ๆ ทุกคนไปสัมผัสพร้อมกันกับซิงเกิล ‘รักเธอใหม่ได้หรือเปล่า (one more chance)’

“ตอนจบ (The End)” จุดจบของความรักที่ไม่มีโอกาสไปต่อ อีกมุมมองความรักที่แสนเจ็บปวด จาก “มามิโอะ” MAMIO

12 พ.ย. 2024

“ตอนจบ (The End)” จุดจบของความรักที่ไม่มีโอกาสไปต่อ อีกมุมมองความรักที่แสนเจ็บปวด จาก “มามิโอะ” MAMIO

จากนักร้องเจ้าของเสียงที่ได้ชื่อว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดคนหนึ่ง “มะเหมี่ยว – สุทธิภัทร สุทธิวาณิช” ก้าวมาเป็นศิลปินเดี่ยว 'มามิโอะ' (MAMIO) เพื่อนำเสนอตัวตนอีกด้านของตัวเอง ทั้งมุมมองในการนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าเป็นเพลง ทั้งงานดนตรีที่ไร้ขีดจำกัดให้กลิ่นอารมณ์เป็นแนวเพลงยุค 70-90 ที่เจ้าตัวชื่นชอบมานาน โดยสัมผัสได้ตั้งแต่ "วิถีรัก (Lover)” ซิงเกิ้ลเปิดตัว แล้วตอกย้ำซ้ำด้วยเพลงที่ปล่อยตามมา "เนื้อร้าย (Cancer)” และ "มายา (Maya)”ภาพลักษณ์ของ “มามิโอะ” ก็ฉีกไปจากศิลปินท่านอื่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ก็ลงตัวกลมกลืมเข้ากับวิสัยทัศน์ทางดนตรีในอีกทิศทางหนึ่งที่ถูกนำเสนอออกมาใน “ตอนจบ (The End)” ซิงเกิ้ลที่ 4 มามิโอะจะพาคนฟังไปพบความรักที่ฝังความเจ็บปวดเอาไว้ในความรู้สึกมากมาย จนต้องเลือกที่จะตัดจบ ปิดโอกาสไปต่อ เพื่อที่จะไม่ต้องทนอีกต่อไป“จากนี้จะไปทางใดก็ตามแต่ใจของเธอ ไม่ขอทำการแสดงละครเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ไม่อยากจะเจอเธออีกแล้ว ตอนจบเปลี่ยนบทไปแล้ว ไม่ขอเป็นคนยืนรอเธอต่อไปแล้ว"มามิโอะ เล่าเรื่องราวช้ำ ๆ ของ "“ตอนจบ (The End)” ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่ชัดเจน ทุกคำที่ร้องออกมาล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกการเรียบเรียงดนตรีก็มีเสน่ห์ ทั้งจากเสียงของอะคูสติกกีตาร์หรือออร์แกนที่เข้ามาเติมเต็ม จน “ตอนจบ (The End)” มีครบอารมณ์และชีวิตจิตใจ ที่อาจทำให้หลายๆ คนตาสว่าง มองเห็นทางออกของความรัก ที่ไม่ได้หมายถึงการเดินต่อไป หากเป็น "การหยุดความช้ำใจไว้เท่านี้ ขอให้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที จากนี้ไปขอให้อย่ามีอะไรมาเกี่ยวข้องกันอีกเลย จบบริบูรณ์"ฟังจุดจบของความรักใน “ตอนจบ (The End)” ของ “มามิโอะ” ได้แล้วจากทุกบริการสตรีมมิ่ง : https://mamio.lnk.to/TheEnd และเต็มอิ่มอารมณ์มากขึ้น กับมิวสิควิดีโอ “ตอนจบ (The End)” ที่ตีความออกมาได้ถึงอารมณ์ และสวยงาม กลมกลืนกับตัวเพลงและเสียงร้องของมามิโอะ รวมถึงมีสัญลักษณ์มากมายให้ค้นหาและตีความ ซึ่งชมกันได้จากยูทูบ: MAMIO แล้วคุณอาจจะรู้ว่า ต้องทำยังไงกับความรักที่มี และบางทีการไปต่อที่ดีที่สุดก็คือ "หยุดมันซะตรงนี้"“จากนี้จะไปทางใดก็ตามแต่ใจของเธอ ไม่ขอทำการแสดงละครเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ไม่อยากจะเจอเธออีกแล้ว ตอนจบเปลี่ยนบทไปแล้ว ไม่ขอเป็นคนยืนรอเธอต่อไปแล้ว"

fellow fellow แทคทีม Ink Waruntorn ส่งซิงเกิล “พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้” จากอัลบั้มใหม่ ‘PROUD’ เพราะซึ้งระดับหูเคลือบทอง

11 พ.ย. 2024

fellow fellow แทคทีม Ink Waruntorn ส่งซิงเกิล “พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้” จากอัลบั้มใหม่ ‘PROUD’ เพราะซึ้งระดับหูเคลือบทอง

ถือเอาฤกษ์ดีวันที่ 11 เดือน 11 ของทางวง fellow fellow (เฟลโล่ว เฟลโล่ว) ข้าว-ปณิธิ เลิศอุดมธนา (ร้องนำ) และ ที-พิษณุ หทัยพันธลักษณ์ (ร้อง, กีต้าร์) ปล่อยอัลบั้ม ‘PROUD’ อัลบั้มเต็มลำดับที่ 3 กับทางสังกัด Kicks Records (คิกส์ เรคคอร์ดส) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาทุกช่องทางมิวสิคสตรีมมิ่ง โดยมีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน รวบรวมตั้งแต่ที่ปล่อยมาแล้ว 6 ซิงเกิลก่อนหน้าอย่าง ดาวหางฮัลเลย์ ฉันคือความทรงจำดีๆของเธอหรือเปล่า ไม่เปลี่ยนเลย ชอบตัวเองเวอร์ชันนี้ หน้าที่ของน้ำตา และ Proud นอกเหนือจากนี้ จะเป็น 4 ซิงเกิลใหม่คือ อยู่คนเดียวไม่เป็นแล้ว เลิกยังไง ถ้าหากเธอไม่ไหว และ พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ ที่ได้ศิลปินรุ่นน้องคนสนิทอย่างสาว Ink Waruntorn (อิ้งค์ วรันธร) มาร่วมฟีเจอริ่ง“พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้” เพลงที่เล่าถึงการรับรู้ว่ามีความรักที่สวยงามที่สุดอยู่ในชีวิต แต่รู้สึกกลัวและใจหายทุกครั้งที่นึกถึงวันที่จะต้องแยกจากกัน จึงถ่ายทอดเป็นเพลงที่ย้ำเตือนให้เราเต็มที่และดื่มด่ำกับความรักที่มีอยู่ตอนนี้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น โดยทาง fellow fellow ได้เลือกให้ Ink Waruntorn มาร่วมถ่ายทอดให้บทเพลงนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยข้าว และ ที ได้เล่าถึงเพลงนี้ว่า“คือเพลงนี้เป็นเพลงช้า ดราม่า ตอนที่ดีไซน์เมโลดี้ มีความรู้สึกว่าต้องเป็นนักร้องหญิงมาร้อง และต้องเป็นนักร้องหญิงที่มีคุณภาพ ร้องเพราะด้วย ก็นึกถึงน้องใกล้ตัวเรานี่แหละ น่าจะมาถ่ายทอดได้ดีที่สุด คิดว่าอิ้งค์จะช่วยเติมเต็มให้เพลงนี้เพราะขึ้นได้จริงๆ สื่อความหมายได้ชัดเจนขึ้น เพราะอย่างเพลงนี้ ท่อนฮุคหลักๆคือให้อิ้งค์ร้องไปเลย และผมก็จะคอรัสไป” ข้าวกล่าว และ ที ยังสมทบความซึ้งอีกว่า “ได้ยินมาว่า ตอนส่งเดโม่ไปให้อิ้งค์ฟัง ถึงกับร้องไห้เลย”กับการร่วมงานครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำงานเพลงด้วยกันครั้งแรกจริงๆ ซึ่ง อิ้งค์ ได้เล่าความรู้สึกไว้ว่า“คือจริงๆแล้ว อิ้งค์ กับพี่ข้าว และ พี่ที เราเจอกันมานานแล้ว ก็มีการคุยกันมาสักพักกับพี่ข้าวตั้งแต่ช่วงกลางๆปี แต่ด้วยเพลง ด้วยไทม์มิ่งยังไม่ลงตัวกัน และพอถึงวาระอัลบั้ม ‘PROUD’ ด้วย พี่ๆวางเราในจุดที่พอดีกับ อิ้งค์ และ fellow fellow ด้วย ก็ดีใจที่ได้ทำงานกับพี่ข้าวพี่ที เพราะว่าจริงๆ ก็ทำงานด้วยกันมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยมีเพลงด้วยกันจริงๆจังๆ ถึงแม้ว่าจะเคยมีเป็นเสียง easter egg มาแล้วเพลงนึง (ไม่เปลี่ยนเลย Best Luck คอรัสในนาม น้องอรวรันทิ้ง) ซึ่งคนไม่ได้รู้เยอะ คือมีอะไรเราก็ช่วยกันตลอดอยู่แล้ว ก็ดีใจค่ะ (ยิ้ม)”นอกจากการปล่อยอัลบั้ม ‘PROUD’ ในวันนี้แล้ว ยังเป็นวันที่เปิดขายบัตรคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม “I’ll make you proud Concert” ที่จะจัดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ณ Lido Connect Hall 2 จำนวน 2 รอบการแสดงได้แก่ เวลา 14.00 น. และ เวลา 19.00 น. ราคาบัตร 950 บาท จำกัดรอบละ 500 ที่เท่านั้น จำหน่ายทาง Thaiticketmajor สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจและอินสตาแกรม fellow fellow และอย่าลืมชม MV พรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ ได้แล้วทางยูทูบ fellowfellowband

PR News

“ออกแบบ” CHANEL Ambassador จากประเทศไทย ร่วมเดินแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ CHANEL CRUISE 2024/25 ณ ฮ่องกง

08 พ.ย. 2024

“ออกแบบ” CHANEL Ambassador จากประเทศไทย ร่วมเดินแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ CHANEL CRUISE 2024/25 ณ ฮ่องกง

ออกแบบ - ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง CHANEL Ambassador จากประเทศไทย ร่วมเดินแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ CHANEL CRUISE 2024/25 ณ ฮ่องกง โดยออกแบบถือเป็นคนไทยคนแรกและเป็น CHANEL Ambassador จากประเทศไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้เดินรันเวย์ให้กับ CHANEL อีกด้วย“ออกแบบ” โดดเด่นใน Cruise Collection 2024/25 ลุค 67 ทวีตสเกิร์ตสูทประดับดอกไม้ทำมือโดย LEMARIÉ (เลอมาริเยร์)

GC จับมือทุกภาคส่วน รวมพลังครั้งสำคัญ ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ภายใต้แนวคิด “ยั่งยืนไม่ยาก”

21 ต.ค. 2024

GC จับมือทุกภาคส่วน รวมพลังครั้งสำคัญ ร่วมผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ภายใต้แนวคิด “ยั่งยืนไม่ยาก”

18 ตุลาคม 2567 กรุงเทพมหานคร: บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ภายใต้แนวคิด “ยั่งยืนไม่ยาก” เปิดเวทีครั้งที่ 5 รวมพลังครั้งสำคัญของคนหัวใจรักษ์โลก หรือ GEN S (Generation Sustainability) จากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมจัดนิทรรศการแสดงศักยภาพและเทคโนโลยีการผลิตเคมีภัณฑ์มูลค่าสูงคาร์บอนต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ GC ครอบคลุมทั้งเคมีภัณฑ์เคลือบผิว ที่ยั่งยืน ไบโอเคมิคอล พลาสติกชีวภาพ และการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนแห่งแรกของประเทศไทย (Sustainable Aviation Fuels: SAF) ตลอดจนสร้างโอกาสการเติบโตของประเทศผ่าน allnex ตอบสนองเทรนด์อนาคต สู่การเป็น Specialty Hub ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมแสดงปาฐกถาพิเศษ งานนี้จัดขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยาม พารากอนนายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าวว่า "GC มีเป้าหมายในการเป็นองค์กรต้นแบบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในระดับสากล ภายใต้วิสัยทัศน์ “การเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต” พร้อมสร้างสมดุุลด้านความยั่งยืนผ่านการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ใน 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการที่ดี มาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี และในปี 2564 GC ได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 มุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ ผ่านการกำหนดแผนงาน การวัดผลและการตรวจสอบที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนี้ สอดคล้องกับข้อตกลงสำคัญหลายประการจากการประชุมผู้นำระดับโลกในหลายๆ เวที ผู้นำทั่วโลกต่างก็หยิบยกประเด็นความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาความยั่งยืน”ที่ผ่านมา GC ดำเนินการตามเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านการดำเนินโครงการมากกว่า 200 โครงการ มีการใช้หลัก 5R ใช้พลังงานหมุนเวียน นำเทคโนโลยีและ Digitalization เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน รวมถึงแผนการบริหารจัดการคาร์บอน ภายใต้ความร่วมมือในกลุ่มปตท. ทั้งการศึกษาการกักเก็บ การใช้ประโยชน์จากคาร์บอน และการแสวงหาโอกาสในธุรกิจไฮโดรเจน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะนำไปสู่ Net Zero ของภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย นอกจากนี้ GC ยังมีความร่วมมือครอบคลุมภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการปลูกและดูแลป่า ทั้งป่าบก ป่าชายเลน ป่าชุมชน จนมาถึงการศึกษาการปลูกข้าวนาเปียกสลับแห้งงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาความร่วมมือ เพื่อบรรเทาปัญหาโลกเดือด และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ พร้อมชวนทุกคนมาเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบ Net Zero Lifestyles รวมถึงจัดนิทรรศการผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอเคมีภัณฑ์เคลือบผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่สีเคลือบผิวรถยนต์ สีพ่นตู้ คอนเทนเนอร์ สีเฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ Coating Resins จาก allnex ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนระดับโลก ที่มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน ลดการปล่อยของเสียในกระบวนการผลิต จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และยังมีผลิตภัณฑ์ไบโอเคมิคอล ไบโอพลาสติก หรือ พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เช่น แคปซูลกาแฟ บรรจุภัณฑ์ และเส้นใยสำหรับการพิมพ์ 3 มิตินอกจากนี้ GC เป็นบริษัทไทยรายแรกที่ปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันดิบ ด้วยเทคโนโลยีการกลั่นขั้นสูงให้สามารถรองรับวัตถุดิบเหลือใช้จากการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำมันพืชใช้แล้ว สู่การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF ซึ่งถือเป็นพลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Sustainable Energy ที่มีวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนจะผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2568 โดยผลิตภัณฑ์ได้รับมาตรฐานด้านความยั่งยืนและการลดการปล่อยคาร์บอน ISSC Plus และ ISSC Corsia ซึ่งรับรองว่าผลิตภัณฑ์จากโครงการนี้ได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้ง Value Chain“เรามองเห็นอนาคตที่ชัดเจนว่า ภาคการผลิตจะเปลี่ยนกระบวนการไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองต่อความต้องการของตลาด แต่เป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นในโซลูชันที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะทำให้ภาคการผลิตสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ไปด้วยกัน” นายณะรงค์ศักดิ์กล่าวงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING คือ ก้าวสำคัญในการปลุกพลังสร้างสรรค์และผสานพลังกับ GEN S ทุกคนเพื่อร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยและโลกใบนี้ให้ยั่งยืนอย่างแท้จริง

GC เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs มาร่วมออกบูทฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

18 ก.ย. 2024

GC เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs มาร่วมออกบูทฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

SME สายกรีน โอกาสของคุณมาถึงแล้วGC เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs มาร่วมออกบูทฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย กับโซน SMEs Market ในงาน GC Sustainable Symposium 2024 : GEN S Gathering วันที่ 18 ตุลาคม นี้ ที่พารากอนฮอลล์ สยามพารากอนงาน Symposium ด้านความยั่งยืน ปีที่ 5 ของ GC กับภารกิจกู้โลกเดือด รวมพลังคน GEN S.. Generation Sustainability คนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน หลากเจนเนอเรชั่น หลายธุรกิจ หลากอาชีพรับสมัคร: วันนี้ - 20 กันยายน 2567ประกาศผลการคัดเลือกทาง FB GC: 25 กันยายน 2567*คัดเลือกจำนวน 20 ร้านเท่านั้นข้อมูลเพิ่มเติม : https://forms.gle/VagoSmLWW9haMTuB8

ข้าววรรณภพ เดินหน้าต่อเนื่องสร้างแรงบันดาลใจดันเด็กไทยสู่สนามเทคบอลโอลิมปิก

11 ก.ย. 2024

ข้าววรรณภพ เดินหน้าต่อเนื่องสร้างแรงบันดาลใจดันเด็กไทยสู่สนามเทคบอลโอลิมปิก

กรุงเทพมหานคร—16 สิงหาคม 2567, บริษัท วรรณภพ จํากัด นําโดย นายไพบูลย์ เวทย์วัฒนะ ประธาน และ นางสาวธัญวรรณ พัฒผล ประธานกรรมการ บริษัท วรรณภพ จํากัด ผู้ผลิตข้าวเติมวิตามิน ตราวรรณภพ สะอาดไม่ต้องซาว เล็งเห็นศักยภาพ การส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง และการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ เยาวชนไทย ในการพัฒนาทักษะกีฬาเทคบอลเพื่อก้าวขึ้นสู่ระดับสากล เดินหน้าตอบแทนสังคม มอบโต๊ะเทคบอล (Teqball) ให้แก่เยาวชนในโรงเรียนกีฬา และโรงเรียนมัธยมกว่า 20 แห่งท่ัวประเทศ และมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการ พัฒนากีฬาเทคบอลให้แก่เยาวชนในประเทศอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ #ก้าวแรกเทคบอล ซึ่งดำเนินการมา ตั้งแต่ปี 2560 พร้อมตั้งเป้ามอบโต๊ะและอุปกรณ์เทคบอล รวมทั้งจัดให้มีผู้โค้ชผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้เยาวชน และครูผู้ฝึกสอนควบคู่กันไปในปี 2668นางสาวธัญวรรณ พัฒผล ประธานกรรมการ บริษัท วรรณภพ จํากัด กล่าวว่า โครงการ #ก้าวแรกเทคบอล เกิดขึ้นจากความตั้งใจของบริษัทฯ ซึ่งมีพันธกิจในการผลิตข้าวที่มีคุณภาพมาสู่ตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทาน ข้าวที่มีคุณภาพสูงอุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และส่งเสริมให้ผู้บริโภคมี สุขภาพที่ดีในที่สุด โครงการ #ก้าวแรกเทคบอลจึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาและให้การสนับสนุนผู้บริโภคตั้งแต่เป็นเยาวชน โดยเชื่อว่าการปลูกฝังทักษะการกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อยจะกลายเป็นพื้นฐานการดูแล สุขภาพของตนเอง ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนให้ความส าคัญกับการออกกำลังกายรวมถึงช่วยเสริมสร้างทักษะทาง กายภาพและสร้างสมาธิให้กับนักเรียนทั้งในวัยเด็กและวัยรุ่น รวมทั้งสามารถสร้างนักกีฬาคุณภาพได้อย่างยั่งยืน“เรามองว่ากีฬาเทคบอลเป็นกีฬาที่ค่อนข้างใหม่ในเวทีโลก ซึ่งแปลว่าหลายๆ ประเทศกำลังเริ่มปลูกฝังและ ฝึกกีฬาชนิดนี้กันทำ ให้เรามีโอกาสที่ดีในการพัฒนาให้เทียบเท่าประเทศอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคบอลนั้น เป็นกีฬาที่มีทักษะตระกร้อเป็นทุนเดิม ซึ่งถือเป็นกีฬาที่คนไทยค่อนข้างคุ้นเคยและทำได้ดี เรามองเห็นโอกาสตรงนี้ จึงคิดว่าหากเราให้การสนับสนุนตั้งแต่อายุยังน้อย น่าจะทำให้สามารถต่อยอดไปยังกีฬาเทคบอลที่เป็นสากลได้ไม่ ยากนัก และอาจจะได้เห็นน้องๆ นักกีฬาเทคบอลจากประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอนาคต” นางสาว ธัญวรรณ พัฒผล กล่าวปัจจุบัน บริษัท วรรณภพ จำกัด ได้เดินหน้ามอบโต๊ะและอุปกรณ์เทคบอลภายใต้โครงการ #ก้าวแรกเทคบอล ให้แก่โรงเรียนกีฬาและโรงเรียนมัธยมไปแล้วกว่า 20 แห่งทั่วทุกภาคของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน สิงหาคม 2567 ได้มอบโต๊ะและอุปกรณ์เทคบอลให้แก่โรงเรียนเพิ่มอีก 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านดอนหญ้านาง จังหวัดบึงกาฬ โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยาคม สพม.บึงกาฬ โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม จังหวัด นนทบุรี และ โรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา ๖ จังหวัด นนทบุรีสำหรับโครงการ #ก้าวแรกเทคบอล ได้มีการวางแผนต่อยอดการสร้าง และสนับสนุนเยาวชนสู่การเป็น นักกีฬาเทคบอลในระดับสากลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เตรียมจัดให้มีการเตรียมการฝึกอบรมโค้ชผู้ฝึกสอน และ นักกีฬาเยาวชนในโรงเรียนต่างๆ ด้วยการนำผู้เชี่ยวชาญกีฬาเทคบอลเดินสายให้ความรู้ พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการ ฝึกซ้อมและการแข่งขันให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศต่อไป

PANPURI OVER THE MOON POP-UP ชวนสัมผัสประสบการณ์กลิ่นหอมใหม่จากคอลเลคชั่นล่าสุด HEAVEN MOON OSMANTHUS

29 ส.ค. 2024

PANPURI OVER THE MOON POP-UP ชวนสัมผัสประสบการณ์กลิ่นหอมใหม่จากคอลเลคชั่นล่าสุด HEAVEN MOON OSMANTHUS

PAÑPURI OVER THE MOON POP-UP ชวนสัมผัสประสบการณ์กลิ่นหอมใหม่จากคอลเลคชั่นล่าสุด "HEAVEN MOON OSMANTHUS" หรือ กลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ ที่จะพาทุกคนออกเดินทางสู่โลกเหนือจินตนาการไปกับป๊อปอัพธีม Moon Palace พาคุณชื่นชมความงามของต้น Osmanthus และ Giant Heaven Moon สีทองระยิบระยับภายใน POP-UP มีกิจกรรมสุดพิเศษนำเสนอมากมายทั้งความสวยงาม และครีเอทีฟแบบ Immersive ที่จะสร้างประสบการณ์ของความหอมจากดอกหอมหมื่นลี้ไว้อย่างหลากหลาย ทั้งงานศิลปะรูปแบบ Interactive และInstallation ที่น่าสนใจพร้อมดื่มด่ำไปกับ HEAVEN MOON TEA HOUSE ชา และขนมสุดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากกลิ่นหอมของคอลเลคชั่น HEAVEN MOON OSMANTHUSปิดท้ายความสนุกไปกับกิจกรรมออกแบบพัด Hand Fan Stamp พร้อมใส่คำอวยพรด้วยตัวคุณเองสัมผัส PAÑPURI OVER THE MOON POP-UP และช้อปผลิตภัณฑ์ของปัญญ์ปุริได้ที่ Siam Center (บริเวณ Atrium2) ชั้น Gตั้งแต่วันนี้ถึง 2 ก.ย.นี้

PANPURI ชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม My Lips Best Friend Photo Booth

14 ส.ค. 2024

PANPURI ชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม My Lips Best Friend Photo Booth

PANPURI ชวนร่วมสนุกกับการถ่ายภาพ Photo Booth พร้อม LIP OIL ในคอนเซ็ปต์ MY LIPS BEST FRIEND – เพื่อนสนิทคนสำคัญที่คอยดูแลริมฝีปากของคุณ พร้อมพบกับผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ด อิดิชั่น Inner Glow Rejuvenation ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม สุขภาพดี และมอบเสน่ห์ให้กับรอยยิ้มพบกับกิจกรรม My Lips Best Friend Photo Booth ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 18 ก.ย.นี้ ที่ PANPURI POP-UP ชั้น 1 เซ็นทรัล ลาดพร้าว

album

0
0.8
1